Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Thaiihdc.org

เรื่องที่คนไทยในสหรัฐอเมริกาเขาคุยกัน

พิมพ์ PDF

เรื่องที่คนไทยในสหรัฐอเมริกาเขาคุยกัน

 

Subject: Michael Yon/โฆษณาที่รัฐแบน/แม่บ้านที่เชียงราย

To: Peter

Date: Tuesday, January 7, 2014, 5:31 AM

 

A) อ่านนักข่าวสงครามชาวอเมริกัน....เจ้าข้าเอ๊ยยยย ...ลุงMichael Yon

ประกาศเลือกข้างแล้วขุนตะหานไม่รีบเลือกระวังจะตกขบวนเด้อ

 

ตอนนี้ เสี่ยปุ้มออกมาขู่แล้วต้องรีบตัดสินใจคราวนี้ ลุง Yonให้คนแปลเป็นภาษาไทย

จะได้ไม่ตีความผิด ขอThank U 3 timesลุง Yon ประกาศความในใจพร้อมให้เหตุผล

 

"ผมต้องขอยอมรับว่าผมไม่เป็นกลางในเรื่องที่เกี่ยวกับทักษิณ ผมได้ติดตามดู

ตระกูลชินวัตรมากพอที่จะแน่ใจว่าการคอร์รับชั่นเป็นเรื่องจริงและเยอะมาก

จนถึงจุดที่ทำให้ผมคลื่นไส้ผมพูดแบบนี้ ไม่ใช่เพราะเป็นนักเขียนแต่จากการเป็น

ชาวอเมริกันคนนึงที่ไม่ปราถนาที่จะให้สหรัฐอเมริกาให้ความช่วยเหลือใดๆ

กับตระกูลชินวัตร  หลายปีที่ผ่านมาผมเห็นทักษิณมามากพอที่จะตัดสินใจได้เอง

และผมเขียนแบบนี้ก็เพื่อที่จะได้ชัดเจนเกี่ยวกับเลือกข้างที่จะไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน"

 

ลุง Yonสนับสนุนแผนการปฎิรูปตำรวจ ของลุงกำนันคงเห็นฤทธิ์แล้วว่าบ้าถึงขนาดออกมาตบเท้า

ประท้วงประชาชนแล้วยังโกหกเป็นไฟแลบ"....... ลองจินตนาการดู ถ้าประธานาธิบดี

สหรัฐอเมริกาแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแต่เพียงผู้เดียวและผู้นั้นควบคุม FBI, DEA

(Drug Enforcement Administrationหน่วยงานปราบปรามยาเสพติด)

, BATF (Bureau of Alcohol, Tobacco, Firearms and Explosives สำนักงานควบคุม สุรา ยาสูบอาวุธปืนและระเบิด)  ตำรวจตระเวนชายแดน, Postal Inspectors(ตำรวจผู้ตรวจการไปรษณีย์),

ผู้บังคับการตำรวจประจำรัฐ และหน่วยงานตำรวจท้องถิ่น  รวมถึงตำรวจทางด่วน สำนักงานนายอำเภอ และตำรวจท้องถิ่น  รวมถึงตำรวจป่าไม้  และตำแหน่งเดียว ที่ไม่ได้ควบคุมก็คือ

การ์ดรักษาความปลอดภัย ของห้างสรรพสินค้า"  "นั่นก็หมายถึง หัวหน้าหน่วยงานตำรวจต่างๆ

ในท้องถิ่นอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้บัญชาการตำรวจสายตรงของนายกรัฐมนตรี

นั่นเป็นแรงพลังมากเกินไปที่จะอยู่ในมือของคนผู้เดียว  นั่นก็คืออำนาจเผด็จการที่จะนำไปสู่ระบบ

การคอร์รัปชั่นที่น่าอัศจรรย์ นั่นคือระบบที่สร้างขึ้นมาที่ไม่ได้ทำงานให้ประชาชน"

 

ลุง Yon ศึกษาเรื่องเมืองไทยถึงแก่นไม่ใช่แค่ดูอย่างฉาบฉวยลงลึกไปถึงการใส้ถึงพุง

ยิ่งกว่าคนไทย  ต้องขอคารวะ

 

"อีกประเด็นนึงก็คือรัฐบาลเดิมได้แต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งหลายลองจินตนาการดูว่า

หากประธานาธิบดีบุชหรือ โอบามามีอำนาจเหนือกองกำลังตำรวจและกองทัพ(ทหารไทยมีฐานอำนาจของตนเองซึ่งต่างกับทหารของกองทัพสหรัฐ)   ประธานาธิบดี หรือนายกรัฐมนตรี

ก็เหมือนถือปืนมาจ่อที่หัวของประชาชนทุกคนดังนั้น กปปส. คปท.และกลุ่มต่างๆที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลจึงมุ่งหมายที่จะขจัดอำนาจพลังแบบนี้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใหม่"

 

ลุง Yon การันตีว่าการต่อสู้ของ กปปส.ไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างชนชั้นตามที่สื่อนอกพยายามบิดเบือนหรือแม้แต่สือไทย  คนทุกชาติ ศาสนาและทุกชนชั้นเข้าร่วมกับ กปปส.

ถ้าอยากรู้ต้องไปแหกตาดูเอง

สุดท้าย ... " กปปส.บอกชัดเจนว่ากำจัดทักษิณไม่ใช่แค่ดึงเอาตระกูลชินวัตรออก

แต่เอาแอปเปิ้ลเน่าๆรอบๆออกด้วยตรงกลางเน่าก็จะทำให้ลูกแอปเปิ้ลทั้งลูกเน่า

 

ทักษิณหมายถึงระบอบทักษิณพวกเขาไม่ต้องการแค่เอาเมล็ดชินวัตรออก

แต่แอปเปิ้ลทั้งลูกต้องโดนเด็ดออกจากต้นของประเทศไทย

 

C)  โฆษณาที่โดนแบน

 

ความจริงทั้งนั้นรัฐบาล

ไม่ยอมให้ออกอากาศ!!ช่วยกันส่งต่อเยอะๆนะครับ รักน่ะแผ่นดินไทย

ด้วยรักและปรารถนาดี -Kitty Joe

https://www.youtube.com/watch?v=LgM2zJw_9tk&feature=youtube_gdata_player

 

D) นอกเหนือจากสมาขิกพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว

ผมอยากจะมองในแง่ดีว่านักวิชาการที่มีชื่อเสียงที่ต้องการจะให้มีการเลือกตั้งในวันที่

2 กุมภาพันธ์ 2557โดยไม่ต้องมีการปฏิรูปใดๆไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆจากระบอบทักษิณ

แต่นักวิชาการเหล่านั้นเพียงยึดหลักการโดยไม่ได้มองสภาพความเป็นจริงของประเทศไทย

พูดอีกอย่างหนึ่งคือนักวิชาการเหล่านั้นนั่งอยู่บนหอคอยงาช้างและปฏิเสธที่จะรับรู้สภาพที่แท้จริงของสังคมไทยในปัจจุบัน  ผมเพิ่งกลับจากเชียงใหม่และเชียงรายทุกๆปีมาเป็นเวลากว่า

20 ปีแล้วผมและครอบครัวรวมทั้งญาติพี่น้องอีกหลายครอบครัวจะไปรวมตัวกันที่เชียงใหม่ในช่วงวันหยุดปีใหม่ ทราบอยู่แล้วว่าที่เชียงใหม่มีเสื้อแดงอยู่เป็นจำนวนมากรวมทั้งคนเฝ้าบ้านที่ไปพักทุกๆปี  แต่ก็ไม่เคยพูดคุยเรื่องการเมืองกับเธอ  รู้แต่เพียงว่าเธอมาจากอำเภอแม่ออน

เลือกพรรคเพื่อไทยทุกครั้ง  และมีความนิยมชมชอบคุณทักษิณอย่างยิ่ง

แต่ในปีนี้ด้วยสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันผมและครอบครัวจึงหาโอกาสคุยเรื่องการเมืองกับเธออย่างจริงๆจังๆ  ข้อมูลที่ได้นั้นสะท้อนสภาพความเป็นจริงของชาวบ้านในอำเภอแม่ออน

จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสรุปได้ดังนี้ครับ

 

1.ชาวบ้านเกือบทั้งหมดที่อำเภอแม่ออนเลือกพรรคเพื่อไทย

โดยได้รับเงินครอบครัวละ 1,000 บาทจากหัวคะแนนพรรคเพื่อไทย

 

2. ทุกครั้งที่นปช.นัดชุมนุมก็จะมีคนมาที่หมู่บ้านเพื่อหาคนไปร่วมชุมนุมห่บ้านละ

20 คน และจะจ่ายเงินให้คนละ300 บาทถึง 1,000 บาทขึ้นอยู่กับระยะเวลาการชุมนุมนุม

มีรถมารับและแจกอาหารทุกมื้อและมีการติดทีวีดาวเทียมช่องเสื้อแดงให้ฟรี

 

3. ชาวบ้านจำนวนมากเข้าใจว่าเงินที่เข้ามาช่วยเหลือ

เช่นกองทุนหมู่บ้านเป็นเงินของคุณทักษิณเองไม่ใช่เงินจากงบแผ่นดิน

 

4. ชาวบ้านจำนวนมากเคยได้ยินบ้างว่ามีการทุจริตคอร์รัปชั่นในรัฐบาล

แต่เชื่อว่าทุกรัฐบาลก็ทุจริตเหมือนกัน การที่คุณทักษิณไม่เสียภาษีจากการขายหุ้น

ให้เทมาเส็คนั้นเป็นเรื่องธรรมดา  คนอื่นๆถ้ามีโอกาสเหมือนคุณทักษิณก็ต้องเลี่ยงภาษี

เหมือนๆกันทั้งนั้น  แต่คนในพรรคประชาธิปัตย์เช่นคุณอภิสิทธิ์ไม่เก่งเท่าจึงไม่มีโอกาส

ทำอย่างคุณทักษิณและยังมีความอิจฉาคุณทักษิณอีกด้วย

 

5. ชาวบ้านเกือบทั้งหมดเชื่อว่าวิกฤติครั้งนี้เป็นการแย่งชิงอำนาจกันระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยซึ่งมาจากการเลือกตั้งและมีความชอบธรรม

 

6. ชาวบ้านเป็นจำนวนมากไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการที่นปช.บุกล้มการประชุมอาเซียนซัมมิทที่พัทยา

และชุมนุมขับไล่รัฐบาลประชาธิปัตย์ในปีพ.ศ.2552 และไม่รู้ด้วยว่ามีการชุมนุมขับไล่รัฐบาล

ประชาธิปัตย์อีกครั้งในปีถัดมาซึ่งความรุนแรงถึงขนาดมีผู้เสียชีวิตและมีการเผาสถานที่ต่างๆในกทม. ดังนั้นจึงมีความสงสารคุณยิ่งลักษณ์เพราะคิดว่าเสื้อแดงไม่เคยขับไล่รัฐบาลประชาธิปัตย์แล้วทำไมต้องมีการประท้วงขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์

 

7. ชาวบ้านบางคนเชื่อว่าการประท้วงขับไ่ล่รัฐบาลเป็นการกระทำของคนกรุงเทพฯที่ร่ำรวยและต้องเสียผลประโยชน์บางอย่าง

 

8. ชาวบ้านจำนวนมากแม้เป็นเสื้อแดงแต่ไม่ทราบว่ามีการพูดจาบจ้วงและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยแกนนำและคนอื่นๆบนเวทีชุมนุมชาวบ้านทั้งหมดล้วนจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเชื่อว่าคุณทักษิณก็มีความจงรักภักดีเช่นเดียวกัน

 

9. ชาวบ้านเกือบทั้งหมดไม่รู้ว่าคุณทักษิณถูกศาลพิพากษาให้จำคุก2 ปีคดีที่ดินรัชดาฯ

ถูกพิพากษายึดทรัพย์จากการทุจิตเชิงนโยบายและยังมีคดีอื่นๆอีกหลายคดี

และยิ่งไม่รู้ว่ามีการแก้กฎหมายให้ตัวเองและพวกพ้องได้รับประโยชน์

ชาวบ้านบางคนได้รับข้อมูลบ้างแต่ไม่เชื่อว่าคุณทักษิณผิดด้วยเหตุผลว่า

ถ้าผิดก็ต้องถูกจับไปแล้วทำไมยังไม่เคยมีใครตามไปจับ

 

10. ชาวบ้านไม่รู้และไม่เข้าใจกรณีเช่น “มีวันนี้เพราะพี่ให้”

ไม่รู้ว่าคุณทักษิณเป็นคนตั้งนายตำรวจใหญ่ๆเกือบทั้งหมด ไม่เคยได้ยินได้ฟัง

“คลิปถั่งเช่า” และคลิปอื่นๆ เช่นคลิปเสียงของประธานสภาผู้แทนราษฎร

 

11. ชาวบ้านไม่เข้าใจเรื่องพ.ร.บ.นิรโทษกรรม การแก้รัฐธรรมนูญเรื่องทีี่มาของสว.และประเด็นอื่นๆ  ไม่เข้าใจเรื่องกระบวนการและพฤติกรรมอันฉ้อฉลของนักการเมืองที่พยายามผลักดันกฎหมายเหล่านี้แบบไร้ยางอายไม่เข้าใจเรื่องคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

ไม่รู้เรื่องการประกาศไม่รับคำวินิจฉัยดังกล่าวของพรรคเพื่อไทย

 

12. ชาวบ้านส่วนใหญ่คิดว่าคุณทักษิณสามารถปราบยาบ้าได้ แต่ไม่รู้ว่ามีคนบริสุทธิ์ต้องตายไปกี่คนมีบางคนที่รู้ก็คิดว่าสมควรแล้วที่ต้องมีคนตาย  ขอย้ำว่าข้อมูลข้างต้นนี้สะท้อนภาพความเป็นจริงของชาวบ้านที่อำเภอแม่ออนจังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น  ไม่เกี่ยวกับจังหวัดอื่นๆแต่อย่างใด

อย่างไรก็ดีเชื่อว่าสภาพความเป็นจริงของชาวบ้านในจังหวัดอื่นๆก็คงไม่แตกต่างกันมากนัก

และที่ต้องบอกอีกอย่างหนึ่งคือชาวบ้านอำเภอแม่ออนคนนี้ไม่ใช่คนโง่อีกทั้งยังฉลาดอย่างยิ่ง

เพียงแต่เธอไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องได้เหมือนคนกรุงเทพฯ

และที่ต้องยอมรับอีกอย่างหนึ่งก็คือการศึกษาของเธอไม่ได้สูงนักนี่คือความเป็นจริง

ใครก็ตามที่บอกว่าควรปล่อยให้การเลือกตั้งเป็นการตัดสินว่ารัฐบาลนี้ควรอยู่ต่อไปหรือไม่โดยไม่มีการปฏิรูปหรือไปปฏิรูปภายหลังคนเหล่านั้นเป็นคนที่ไม่ยอมรับความเป็นจริง

หรือไม่ก็ต้องเป็นคนที่ต้องการให้ระบอบทักษิณคงอยู่ต่อไป

 

สุดท้ายอยากฝากใครก็ตามที่อาจมีส่วนร่วมในการปฏิรูปประเทศไทย(ถ้ามี)ว่าต้องไม่ลืมเรื่องการทำให้ชาวบ้านสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องได้มากว่านี้นี่เป็นเรื่องสำคัญเหลือเกินเพราะคนเฝ้าบ้านคนนี้เมื่อเราได้เล่าความจริงต่างๆให้เธอฟังและยังให้เธอดูคลิปส์ต่างๆที่เธอไม่เคยมีโอกาสได้ดูเธอตกใจมาก   โดยเฉพาะคลิปส์ที่มีการจาบจ้วงและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

เธอถึงกับน้ำตาไหล  เธอบอกว่าหากเธอมีปืนและมีคนพูดอย่างนี้ต่อหน้าเธอ

เธอคงยิงคนคนนั้นให้ตายโดยไม่ลังเล  เดี๋ยวนี้เธอเข้าใจอะไรๆมากขึ้นแล้ว

และต่อไปนี้เธอจะไม่เชื่ออะไรง่ายๆและคงไม่เลือกพรรคเพื่อไทยอีกแล้วนี่เป็นเรื่องจริงทั้งหมด

 

ช่วยกันแชร์ด้วยนะครับ

 

cr: Harirak Sutabutr

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2014 เวลา 21:27 น.
 

ข้อเสนอปฏิรูปการเมืองไทย โดย ศ. ดร. เมธี เวชารัตนา

พิมพ์ PDF
เน้นที่ป้องกันและปราบปราม คอรัปชั่น

ข้อเสนอปฏิรูปการเมืองไทย โดย ศ. ดร. เมธี เวชารัตนา

Some Suggestions for the Political Reform of Thailand

By Methi Wecharatana, Ph.D.

Professor of Civil and Environmental Engineering

New Jersey Institute of Technology

The true root cause of the current political impasse in Thailand is “Corruptions” of many politicians and government officials.  Nearly all elected officials are fighting, even among themselves, within the same political party, for the ministerial position(s) as these positions give them the opportunity for graft money, the return of their investment spent during the election.  Ridding out all corruptions will be the true solution for a prosperous Thai society and Thailand.  Rapidly developing country like China also faces with the same corruption problems of public officials and politicians, the Chinese Government under the current President, Xi Jinping, has made it a national agenda of his government to take serious action against corruptions in China.  In 2013, the Chinese government reported that the prosecutor office has investigated 209,000 officials in nearly 180,000 cases of embezzlement, bribery, corruptions, dereliction of duty and rights during the past five years, an average of 35,000 corruption cases per year.  The highest ranking government official that was dismissed and prosecuted was Huang Songyou, a Vice President of the Supreme People’s Court, who was indicted on corruption charges.  If Thailand were to compete with China and other countries in Asia and the world, fixing the corruptions within our government system must be the priority.

For the political reform of Thailand, the following are some suggestions to fix the current problems:

  1. Debt Ceiling

Introduce and set the limit of the “Debt Ceiling” of Thailand to the current government system:  At present, the national debt of Thailand is 4.22 trillion baht (estimated at 250,000 baht per household).  If the 2.2 trillion baht loan for the high speed train and the 350 billion baht loan for the flood-controlled project go through, the national debt will increase to 6.77 trillion baht (estimated at 404,000 baht per household). There must be a limit to the national debt ceiling.

  1. Balance Budget

All future Thai government must be required by laws to provide a balance fiscal budget. They cannot keep spending public money and create public debt, as they like, on programs that do not clearly provide any return of investment.  And, worst, if much of the fund is corrupted by leading government officials and politicians.

  1. Ballot for Public Vote of Approval for any Mega Loan

The reform must have a policy requiring public ballot and voting when mega-loan projects are introduced. For example, for any mega loan of more than (let’s say) 10,000 million baht, the government will need a ballot for public approval of the project prior to apply for the loan. This practice is presently used in many States in the U.S.  In 2012, the State of New Jersey requested the public to vote to approve a loan (public bond) of $750 million (22,500 million baht) for an infrastructure improvement project for NJ Higher Education.

  1. Perjury of Government Officials and Spoke-persons while in office or on official duty
  • In recent years, we frequently see public officials such as Ministers, MPs, Government Spoke persons, Speaker of various Political Parties, Speaker(s) of CAPO, and senior Police Officers, etc., commit perjury in public news conference and press conferences, intentionally misleading the public causing confusion, social chaos and conflicts in many communities.
  • While perjury of individuals may be the right of free speech, but as public officials, such an act must be considered as professional misconduct and, therefore, cannot and should not be tolerated.
  • As such, it is proposed that any public officials, while on duty or in office, commits perjury in public, such as giving interview to the press or giving a press conference with false information, is to be subjected to legal consequences, and be prosecuted for public perjury.  Punishment of these acts should include mandatory jail term and fine with no exception.
  • In addition, these officials are to be dismissed permanently without pension from all government agencies. All these perjury cases can be retroactive, which means individual(s) committed such perjury while in office could be prosecuted even after they left office.
  • For politicians and speaker(s) of political party, in addition to the fine and mandatory jail term, these individuals are to be banned and dismissed from any political engagement for life.
  • In case that these perjury acts led to any loss of life and property, these individuals are to be responsible personally for any compensation, so as his/her affiliated political party.
  • Since these government officials are often the role model of many others in the society, government and public alike, severe punishment, therefore, must be imposed to these individuals so laws and order are to be maintained and abided by.
  • If these Thai elected and/or appointed senior government officials cannot lead our country to prosperity, they should, at least, be honest with us, the general public.
  1. Penalty for Corruptions
  • The Reform or new Laws must demand any future Prime Minister (PM) and Government to make corruption the top priority of our National Policy, similar to what the current Chinese President, Xi Jinping, is doing.
  • Any politician(s) and government official(s) as well as contractors of any government projects involved in corruptions, embezzlement, bribery, dereliction of duty and rights, when found guilty, must be subjected to mandatory jail term and fine.
  • These cases have no expiration.
  • In addition, all family assets of these individuals are subjected to seizure, regardless of large or small the amount of corrupted fund involved.
  • All practices that are considered as corruptions are to be clearly listed and posted in front of all public government buildings and facilities to remind everyone of these illegal acts, for example, making sight-seeing year-end trip(s) just to burn up the remaining fiscal fund, etc.
  • All ministers and senior government officials must file monthly report of any gift(s) and monetary presents received. Failure to report will be treated as professional misconduct and subjected to prosecution.
  • All government officials must attend annual corruption training courses.
  • All ministers and senior government officials must sign a public oath against all forms of corruptions and such statement is officially treated as contract with binding and legal consequences when violated.
  1. Serious Consequences for Election Fraud and Vote Buying
  • All politicians, involved in illegal election fraud and vote buying, when found guilty, will be subjected to mandatory jail term and fine; and
  • These individuals and their family members are to be banned for life from all political engagement, directly and indirectly;
  • All these cases have no expiration and can be prosecuted retroactively.
  1. Minimum Technical Qualification of any Appointed Ministerial Post(s) and Advisors
  • To serve as Minister, Deputy Minister, and Advisors of any Ministry of future Thai government, the nominated candidates and their advisors must possess technical background and professional experience in the field related to the main tasks and responsibility.
  • These positions, which have serious critical national interests, are not for unskilled, inexperience individuals or public elected representatives.
  • Therefore, all these senior appointees must go through confirmation from an external professional expert panel, formulated from the professional society.  For example, nominated candidate for the Minister of Justice must receive confirmation from panel formed by the Bar Association, etc. Likewise, nominated candidate for the Ministry of Commerce must receive confirmation from panel formed by the Federation of the Thai Industry and the Thai Chamber of Commerce.
  1. Elected MPs Are Not Eligible for Any Ministerial Post
  • At present, all politicians are fighting for ministerial position for authority to control mainly the budget of key ministries with the expectation of getting “Kick back” and “Corruptions”.   Ministries with lesser budget are generally considered as “second-grade ministry” and are less desirable among senior politicians.
  • As such, to minimize the chance of corruptions, all future elected MPs are not eligible for any ministerial post(s), thus cutting down the potential return of their election investment, and, in some cases, vote buying.
  • The roles of elected MPs are to set national agenda and serve as watchdog to monitor all government officials and ministerial offices to perform as they have stated in their policy, thus ending the “buy-votes-in-order-to-corrupt” principle among some crooked politicians.
  1. Check and Balance
  • At present, no effective means (existing rule involves lengthy and routine clumsy process) to prosecute corrupted “law enforcement officers”, “district attorneys”, “judicial staffs”, and ministers when these individuals engage in corruption and unethical practices.
  • These corrupted individuals often lie in public, commit unethical acts in support of corrupted officials without concerns on legal consequences as there is no “check and balance” in our judicial system.   In other words and in simple terms, how to prosecute police officers, DSI, and officers in the judicial system when these individuals corrupt?
  • It is suggested that a special prosecuting unit, attached to the high court, be formed with authority and resources to expedite arrest warrant under court order to arrest these individuals without going through the normal judicial process that requires the approval and consensus from these corrupted offices.
  • Note that the Chinese government, during the past five years, has prosecuted more than 209,000 government officials in 180,000 corruption cases.
  1. Public Authority to Remove Elected MPs and/or Appointed Senior Government Officials
  • Thailand currently has 500 elected MPs and a handful of senior government officials in key critical positions that are vital to our national interests.  With the population today of 67 million people, each MP represents 134,000 Thais.
  • At present, in the event of any ill-performing elected MPs with corrupted records and practices, the impeachment process of these individuals can be done only by their own peers, a process that can never happen as these MPs are well protected by their affiliated political party.
  • It is suggested that under the reform the Thai public must have the authority to remove any elected or appointed government official(s) and senior officers with a specific required number of signed petitions for the intent.  For examples,
  • To remove an MP requires 500,000 signatures of eligible voting members;
  • To remove a Minister and a senior government official (for example, the Head of the Police Department) requires 1,000,000 signatures of eligible voting members;
  • To remove the Prime Minister requires 1,500,000 signatures of eligible voting members.
  1. Public Education on Election and Fraud
  • The Election Commission should routinely run courses to the general public on individual’s right and responsibility with regard to election.  These basic courses should be incorporated into all levels of public education, starting from middle school, high school, and college.
  • All MP candidates must sign and make public oath against all forms of corruptions and election fraud, as well as making public denouncement on election fraud and vote buying.  These denouncement of corruptions and fraud should be made as part of the application process.
  • All ballot booths and election stations must post sign listing all forms of election fraud, corrupted acts, and legal ramification and consequences in case of violation.
  • Each voting individual must read, sign, and take home a one-page contract stating that he/she does not engage in any form of election fraud, such as, bribe, monetary compensation in return for vote, or any form of compensations from any candidates.
  • The form should clearly outline all penalties involved with election fraud and corruption.

 

  1. Public Disclosure of all forms of Gifts, Presents, and Monetary Contributions
  • Since corruptions have plagued Thai politics and government system for so long, one way to begin the clean-up process is to require all public officials to file public disclosure of all forms of gifts, presents, and monetary contributions received while in office.
  • In the State of New Jersey, after a major corruption case at one of the State Universities, all state employees are required to file annual disclosure of all gifts, presents, and any other forms of financial support received for any other organizations during the year.
  • Each state university has set up the Ethic Office to monitor and follow up on these disclosures.
  • In early December, the Ethic office at all state universities will send out a reminder to every university employee to turn in any present(s) they received from students and others during the Holidays season.  All collected gifts and presents were then donated to the Salvation Army and Hospitals.

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2014 เวลา 21:30 น.
 

ชีวิตที่พอเพียง : ๒๐๗๐. เรียนรู้เรื่องจิตไร้สำนึก

พิมพ์ PDF

บทความเรื่อง Our Unconscious Mind ลงพิมพ์ในนิตยสาร Scientific American ฉบับเดือนมกราคม 2014    เขียนโดยศาสตราจารย์ John A. Bargh หัวหน้าห้องปฏิบัติการ Automacity in Cognition, Motivation and Evaluation แห่งมหาวิทยาลัย เยล น่าสนใจมาก

อ่านแล้วผมสรุปว่า ชีวิตของคนเราควบคุมโดยจิตไร้สำนึก มากกว่าส่วนที่ควบคุมโดยจิตสำนึกหลายเท่า    เพราะจิตไร้สำนึกเป็นส่วนของชีวิตอัตโนมัติ ตัดสินใจเร็ว    หรือทำโดยไม่ต้องคิด   ซึ่งจำเป็นสำหรับความอยู่รอด สมัยมนุษย์อยู่ในป่าร่วมกับสิงสาราสัตว์และภยันตรายรอบด้าน

ส่วนจิตสำนึก ที่มากับความรอบคอบ คิดไตร่ตรอง คิดสร้างสรรค์ มาทีหลัง    แม้สมองส่วนนี้แหละที่ทำให้มนุษย์ กลายเป็นสัตว์ที่ครองโลก    แต่เราก็ใช้สมองส่วนนี้น้อยกว่าส่วนจิตไร้สำนึกอย่างมากมาย ในชีวิตประจำวัน

ฟรอยด์ บอกว่า จิตไร้สำนึกเป็นตัว id ความเห็นแก่ตัว หรือจิตฝ่ายต่ำ    ส่วนจิตสำนึกเป็น ego ต้องการสร้าง ความยอมรับจากผู้อื่น    เป็นจิตฝ่ายสูง    แต่ผลการวิจัยด้านจิตวิทยาสมัยใหม่บอกว่า จิตไร้สำนึกหรือพฤติกรรมอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องเป็นจิตฝ่ายต่ำเสมอไป    คนเราสามารถฝึกฝนจิตใจตนเอง ของลูก ของคนใกล้ชิด หรือของศิษย์ ให้จิตไร้สำนึกเป็นจิตฝ่ายสูง ที่เห็นแก่ผู้อื่น    เป็นจิตที่เสียสละ ได้ กล่าวใหม่ด้วยคำไทยไม่สุภาพว่า ฝึกสันดานได้

แต่จะฝึกสันดานหรือจิตไร้สำนึก ต้องเข้าใจความลี้ลับ หรือพลังของจิตไร้สำนึก ที่เราไม่รู้สึกหรือไม่ตระหนัก    ว่ามันครอบงำความประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน โดยเราไม่รู้ตัว และคาดไม่ถึงว่าเราโดนสถานการณ์หรือสภาพแวดล้อมหลอกโดยเราไม่รู้ตัวอยู่ตลอดเวลา เรื่องราวที่เล่าในบทความนี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่มนุษย์โดนจิตไร้สำนึกหลอกในชีวิตประจำวัน

เช่น เรื่อง พฤติรรมเลียนแบบ (chameleon effect),   เรื่องstereotype threat ที่คนเราตกอยู่ใต้ความครอบงำ ของความเชื่องมงาย เช่นเชื่อว่าผู้หญิงด้อยกว่าผู้ชาย คนดำด้อยกว่าคนขาว    เขาเล่าการทดลองทางจิตวิทยา ว่าเพียงแค่เตือนสตินักเรียนก่อนให้ทำข้อสอบ ว่านักเรียนเป็นคนดำนะ หรือเป็นผู้หญิงนะ    นักเรียนจะทำข้อสอบได้ด้อยลง กว่าไม่บอกอะไรเลย เป็นต้น

ผม AAR การอ่านบทความนี้ ลากเข้าสู่เรื่องการเรียนรู้ หรือการศึกษา    และมองว่า สุดยอดของการศึกษา คือการฝึกจิตไร้สำนึก หรือจิตอัตโนมัติ    ให้เป็นจิตใหญ่ จิตของโพธิสัตว์ หรือของพรหม    ไม่ใช่จิตที่แคบ หรือจิตเล็ก เอาแต่ผลประโยชน์ของตนเอง    ผมมีความเชื่อว่า นั่นคือส่วนสำคัญที่สุดของการศึกษาเพื่อชีวิตที่ดี

มนุษย์ทุกคนสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้หากได้รับการฝึกฝนอย่างถูกต้อง    และหมั่นฝึกฝนเพียงพอ    นี่คือ จิตตปัญญาศึกษา    และคนที่กิเลสหนาอย่างผม ต้องหมั่นฝึกฝนเรื่อยไปไม่ย่อท้อ   แม้จะอายุมาก ก็ยังฝึกได้

 

 

วิจารณ์ พานิช

๑๙ ธ.๕๖

 

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 08 มกราคม 2014 เวลา 07:49 น.
 

คำนิยม หนังสือ การเรียนรู้แห่งศตวรรษที่ ๒๑ : 7 หลักการสร้างนักเรียนรู้แห่งอนาคตใหม่

พิมพ์ PDF

คำนิยม

หนังสือ การเรียนรู้แห่งศตวรรษที่ ๒๑ : หลักการสร้างนักเรียนรู้แห่งอนาคตใหม่

 

วิจารณ์ พานิช

................

 

 

การเรียนรู้แห่งศตวรรษที่ ๒๑ : 7 หลักการสร้างนักเรียนรู้แห่งอนาคตใหม่เป็นหนังสือที่ “ครูเพื่อศิษย์” ทุกคนต้องอ่าน   เพราะท่านจะได้ความรู้และเทคนิคช่วยเหลือศิษย์ ให้เรียนง่ายและสนุกขึ้น    และที่สำคัญยิ่งคือ เรียนแล้วรู้จริง (เกิดความสันทัด - mastery)    และพัฒนาเป็นคนที่กำกับการเรียนรู้ของตนเองได้    ซึ่งจะมีส่วนสร้างอนาคตให้แก่ศิษย์อย่างประมาณค่ามิได้

เมื่อท่านอ่านหนังสือ การเรียนรู้แห่งศตวรรษที่ ๒๑ : 7 หลักการสร้างนักเรียนรู้แห่งอนาคตใหม่ เล่มนี้   ท่านจะเข้าใจปัญหาในการเรียนหลายอย่างของศิษย์ ที่ท่านกำลังเผชิญอยู่    และเข้าใจที่มาที่ไปของมัน    ปัญหาจะกลายเป็นความท้าทาย ความสนุกสนานในการประยุกต์ใช้ความรู้และเทคนิคใหม่ ที่เรียนรู้จากหนังสือ    แล้วท่านจะพบว่า ท่านสามารถช่วยเหลือนักเรียนที่เรียนอ่อน ให้กลายเป็นนักเรียนที่เรียนอย่างมีชีวิตชีวา    และในที่สุดประสบความสำเร็จในการเรียน

ผมอ่านหนังสือเล่มนี้ในภาคภาษาอังกฤษในลักษณะที่อ่านแล้ววางไม่ลง    และคิดว่าครู-อาจารย์ไทยควรรู้เรื่องราวเกี่ยวกับกลไกการเรียนรู้ ที่สังเคราะห์มาจากผลการวิจัยด้านจิตวิทยาการเรียนรู้สมัยใหม่    ตามที่นำเสนอในหนังสือ    จึงได้ตีความออกเผยแพร่ใน บล็อก Gotoknow    เป็นบันทึกรวม ๑๖ ตอน ซึ่งสามารถอ่านได้ที่ http://www.gotoknow.org/posts?tag=ambrose และต่อมา มูลนิธิสยามกัมมาจล ได้รวบรวมพิมพ์เป็นหนังสือ ชื่อ การเรียนรู้เกิดขึ้นอย่างไร ออกเผยแพร่   โดยที่สามารถ ดาวน์โหลด หนังสือเล่มนี้ได้ฟรีที่  http://www.scbfoundation.com/news_publish_detail.php?cat_id=6&nid=880

ในช่วงเวลาประมาณ ๑ ปี ที่ผมรู้จักหนังสือเล่มนี้ ผมได้นำสาระจากหนังสือไปพูดในที่ต่างๆ มากมาย    รวมทั้งได้ปรารภกับหลายท่านว่า อยากให้มีการแปลออกเผยแพร่ต่อสังคมไทย    ผมจึงยินดียิ่ง เมื่อทราบว่าสำนักพิมพ์ openworlds กำลังดำเนินการแปลหนังสือเล่มนี้    และได้ปวารณาตัวไว้ว่า ยินดีเขียนคำนิยมให้ หากต้องการ

หนังสือ การเรียนรู้แห่งศตวรรษที่ ๒๑ : 7 หลักการสร้างนักเรียนรู้แห่งอนาคตใหม่ แปลจากต้นฉบับชื่อ How Learning Works : 7 Research-Based Principles for Smart Teaching    ที่ผู้เขียนสังเคราะห์มาจากผลงานวิจัยจำนวนนับพันชิ้น    สรุปเป็นหลักการ ๗ ข้อ สำหรับครู-อาจารย์ ใช้เป็นหลักในการจัดการเรียนรู้ ให้ศิษย์เรียนได้ผลดี    ทำให้ครูจัดการเรียนรู้อย่างมีหลักการ   ช่วยให้ศิษย์เรียนรู้ได้อย่างมีขั้นตอน   เรียนแล้วรู้จริง (Mastery Learning)   และสามารถกำกับการเรียนรู้ ของตนเองได้ (Self-Directed Learner)    ซึ่งจะมีคุณูปการต่อการเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learner)

แต่ละบทของหนังสือ เริ่มด้วยฉากสถานการณ์ ๒ สถานการณ์    ที่สะท้อนปัญหาในการเรียนการสอน    ตามมาด้วยคำอธิบาย ที่อ้างอิงผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก    เพื่อบอกวิธีการจัดการเรียนรู้ของครูอาจารย์    ที่จะช่วยให้ศิษย์ไม่เกิดปัญหาอย่างในฉากสถานการณ์    และในตอนท้ายของแต่ละบท มีสรุปใจความสำคัญของบทนั้น    ช่วยให้ผู้อ่านติดตามสาระสำคัญได้ง่ายขึ้น    ถือได้ว่า เป็นวิธีเขียนหนังสือที่ทำเรื่องยาก ให้เข้าใจง่าย ได้เป็นอย่างดี

หลักการ ๗ ข้อ เพื่อการจัดการเรียนรู้อย่างชาญฉลาด ได้แก่

๑ พึงเอาใจใส่ความรู้เดิม หรือพื้นความรู้ ของนักเรียน/นักศึกษา

๒. การจัดระเบียบความรู้ มีผลต่อการเรียนรู้

๓. พึงเอาใจใส่แรงจูงใจต่อการเรียน   และรู้จักสร้างแรงจูงใจแฝงหรือแทรกอยู่ในกระบวนการสอน (แบบไม่สอน)

๔. การจัดการเรียนรู้ ให้นักเรียน/นักศึกษา เรียนแบบรู้จริง (Mastery)   ซึ่งในหนังสือเล่มนี้เรียกว่า การพัฒนาความสันทัด

๕. พึงเอาใจใส่การฝึกฝน (Practice) และการป้อนกลับ (Feedback)

๖. พึงเอาใจใส่พัฒนาการของนักศึกษา และบรรยากาศของการเรียนรู้

๗. การพัฒนานักศึกษาให้เป็นผู้เรียนที่กำกับการเรียนรู้ของตนเองได้

 

จากการนำเรื่องราวในหนังสือนี้ไปบรรยายให้ครู-อาจารย์ฟัง    ผมพบว่าเรื่องราวความรู้และวิธีการ ในหนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องใหม่ สำหรับครู-อาจารย์ไทย    การตีพิมพ์เผยแพร่หนังสือ การเรียนรู้แห่งศตวรรษที่ ๒๑ : 7 หลักการสร้างนักเรียนรู้แห่งอนาคตใหม่ เล่มนี้จึงมีประโยชน์ต่อวงการศึกษาไทยเป็นอย่างยิ่ง

ข้อความในหนังสือ การเรียนรู้แห่งศตวรรษที่ ๒๑ : 7 หลักการสร้างนักเรียนรู้แห่งอนาคตใหม่ มาจากการแปลจากภาคภาษาอังกฤษ    แตกต่างจากข้อความในหนังสือ การเรียนรู้เกิดขึ้นอย่างไร ซึ่งผมตีความและเขียนขึ้นแบบสะท้อนความคิด (Reflection) จากการอ่านหนังสือ How Learning Works    ดังนั้นการอ่านหนังสือสองเล่มนี้จึงให้คุณค่าและสาระแตกต่างกัน   และไม่ทดแทนกัน

ผมขอขอบคุณคุณ วันวิสาข์ เคน ที่ได้ทุ่มเทอุตสาหะแปลหนังสือที่มีค่ายิ่งเล่มนี้    และขอบคุณ สำนักพิมพ์ openworlds และทุกฝ่ายที่ร่วมกันสนับสนุนการจัดพิมพ์ออกเผยแพร่แก่สังคมไทย     รวมทั้งขอขอบคุณที่ให้เกียรติผมเขียนคำนิยม    ผมเชื่อว่าหนังสือเล่มนี้จะมีคุณค่าต่อสังคมไทยและขายดี เท่าเทียมกับหนังสือ ทักษะแห่งอนาคตใหม่ : การศึกษาเพื่อศตวรรษที่ ๒๑ ที่เป็นหนังสือขายดีของสำนักพิมพ์นี้

 

 

วิจารณ์ พานิช

๓ ธันวาคม ๒๕๕๖

........................

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 08 มกราคม 2014 เวลา 07:51 น.
 

ชีวิตที่พอเพียง : ๒๐๖๙. ชื่นใจในการทำหน้าที่ บอร์ด

พิมพ์ PDF

วันที่ ๒๑ และ ๒๒ พ.๕๖ผมได้เสพความชุ่มชื่นหัวใจ    จากการทำงานรับใช้สังคม ด้วยการเป็น บอร์ด ของหน่วยงานที่ทรงคุณค่ายิ่งต่อสังคม ๒ องค์กร

องค์กรแรกคือ มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส ที่มี ศ. นพ. ประเวศ วะสี เป็นประธาน   ดร. เสนาะ อูนากูล เป็นรองประธาน   และกรรมการที่เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองอีกหลายท่าน    มูลนิธินี้ทำงานมา ๓ ปี   มีการจัดองค์กร และทำงานอย่างมืออาชีพ บวกกับจิตกุศลหรืออาสาสมัคร   ทำงานเพื่อสังคม

ดร. เสนาะ ได้แนะนำให้ทีมจากบริษัทปูนซีเมนต์ไทย มาจัดระบบการบริหารงาน   ทำระเบียบข้อบังคับต่างๆ    และระบบตรวจสอบ   ทำให้งานเป็นระบบขึ้นมากอย่างน่าพอใจ   ขั้นตอนต่อไปคือการมีกลไกตรวจสอบ compliance   คือตรวจสอบว่า มีการดำเนินการตามระเบียบข้อบังคับที่กำหนด

กิจกรรมที่ดำเนินการรวมแล้วเป็น วงเงินปีละเกือบ ๔๐ ล้านบาท    โดยที่รายรับกับรายจ่ายพอๆ กัน   แต่เมื่อคิดค่าเสื่อมราคาของอาคาร จะติดลบประมาณปีละ ๑๐ ล้าน   คณะกรรมการจึงมีมติให้ดำเนินการรับบริจาคให้ชัดเจนขึ้น   ซึ่งหมายความว่า ให้อำนวยความสะดวกต่อผู้ศรัทธา และต้องการบริจาค   แต่ไม่มีการกระตุ้นหรือชักชวนให้บริจาค    และคณะกรรมการจัดหาทุนที่นำโดยคุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม ก็จะไปปรึกษาหารือหาวิธีเพิ่มกองทุนสนับสนุนการดำเนินการ

ที่จริง หอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ ทำงานเทียบมูลค่าแล้ว มากกว่า ๔๐ ล้านอย่างมากมาย   เพราะงานหลายส่วนดำเนินการโดยอาสาสมัคร   โดยอาศัยความสามารถในการเชื่อมโยงเครือข่ายของผู้อำนวยการหอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ คือ นพ.​บัญชา พงษ์พานิช

ผมจึงมีความสุข ที่ได้มีส่วนร่วมเป็นกรรมการ ช่วยกันกำกับดูแลองค์กรสาธารณกุศลแห่งนี้

องค์กรที่สอง คือ สถาบันคลังสมองของชาติ ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่ความเข้มแข็งของสถาบันและระบบอุดมศึกษา    ในลักษณะทำงานหารายได้เลี้ยงตัวเอง    โดยได้รับการสนับสนุนจากงบประมาณแผ่นดินปีละ ๙ ล้านบาท    รวมวงเงินดำเนินการ รายรับรายจ่ายก็เท่าๆ กัน    และเกือบเท่ากับของหอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ    องค์กรนี้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๖ และมีการพัฒนาและวิวัฒนาการในการทำงานดีขึ้นมากมายในช่วง ๔ ปีที่ผ่านมา ที่ ศ. ดร. ปิยะวัติ บุญ-หลง มาเป็นผู้อำนวยการ

ประธาน บอร์ด ของสถาบันคลังสมองฯ คือ ศ. ดร. พจน์ สะเพียรชัย   และมีกรรมการที่เป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมืองเช่นเดียวกัน    และที่ซ้อนกับของมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส คือคุณหญิงชฎา กับผม

ปีนี้มีการเสนอให้ปรับการบริหารงานภายใน เพื่อให้ประหยัด และการตอบแทนพนักงานเป็นไปตามผลประกอบการยิ่งขึ้น    โดยที่มีการวิเคราะห์กิจการเป็น ๓ ชั้น   ชี้ให้เห็นว่าชั้นกลางเป็นงานหลัก  ประกอบด้วย ๒ กลุ่มงาน  ที่เป็นงานหลักและทำงานเลี้ยงตัวเองได้    คืองานกลุ่ม ฝึกอบรมด้านธรรมาภิบาลอุดมศึกษา     กับงานกลุ่ม study visit และ workshop เพื่อพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา

หน้าที่ของ บอร์ด คือ กำกับดูแลเชิงรุก ใน 3 mode ของการทำหน้าที่ธรรมาภิบาล    เพื่อให้องค์กรทำหน้าที่ยังประโยชน์แก่สังคมได้อย่างแท้จริงตามเป้าหมาย   อย่างน่าเชื่อถือ   และอย่างต่อเนื่องยั่งยืน 3 mode คือ Fiduciary Mode, Strategic Mode,และ Generative Mode

ผมเคยเขียนเปรียบเทียบการกำกับดูแลองค์กร ๓ แบบ คือ อุดมศึกษา  มูลนิธิ  และธุรกิจ ไว้ ที่นี่

 

 

วิจารณ์ พานิช

๒๓.๕๖

 

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 07 มกราคม 2014 เวลา 09:06 น.
 


หน้า 400 จาก 557
Home

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5603
Content : 3043
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8591879

facebook

Twitter


ล่าสุด

บทความเก่า