Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Home > Articles > ท่องเที่ยว > ชีวิตที่พอเพียง : ๒๑๙๑. ควงสาวเที่ยวฝรั่งเศส ๕. อาวียง

ชีวิตที่พอเพียง : ๒๑๙๑. ควงสาวเที่ยวฝรั่งเศส ๕. อาวียง

พิมพ์ PDF

เช่นเดียวกันครับ บันทึกเที่ยวไปตามฝัน ๙ วันในฝรั่งเศส ตอนที่ 6 Avignon ช่วยให้ผมได้ virtual tour อาวียง ล่วงหน้าก่อนออกจากบ้านไปสนามบินสุวรรณภูมิ

ที่ อาวียง (Avignon) เราจองโรงแรม Avignon Hotel Monclar, 13-15 Avenue Monclar ระหว่างวันที่ ๒ - ๔ มิถุนายน ๒๕๕๗ ค่าที่พัก ๒ คืนเป็นเงิน ๒๑๐ ยูโร เราใช้ที่นี่เป็นค่ายพักทัพ สำหรับเที่ยวแคว้น โปรว้องซ์ (Provence) สาวน้อยกำหนดไปเที่ยวเมือง (Nimes) อาร์ล (Arles) และ มาร์เซย์ (Marseille)

คืนวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๗ ผมนอน (ที่โรงแรม อะธีนา ปาร์ดิเยอ ลียง) ได้ประมาณ ๗ ชั่วโมง ด้วยความเมื่อยขบ เพราะเดินมากและแบกเป้ด้วย เดินทางคราวนี้ เป็นการทดสอบร่างกายที่ดีมาก ตอนนี้ผมนอนหลับเอง โดยไม่ต้องใช้ยานอนหลับช่วยเปลี่ยนเวลานอนแล้ว

เช้าวันที่ ๒ มิถุนายนเราตื่นด้วยนาฬิกาปลุก เวลา ๕ น. ลงไปกินอาหารเช้าเวลาก่อน ๖ น. พอ ๖.๓๐ เราก็เช็คเอ๊าท์จากโรงแรมเสร็จพร้อมฝากกระเป๋าใหญ่ ๒ ใบไว้ เดินไปหาข้อมูลรถไฟไป อาวีญอง เที่ยว ๗.๒๐ น. รู้ว่าเป็นขบวน ๑๗๗๐๕ แต่ป้าย LCD สีน้ำเงินยังไม่บอกชานชาลา เราและผู้โดยสารคนอื่นๆ ไปยืนออหน้าป้าย จนเวลา ๗.๑๖ น. จึงขึ้นว่า J ซึ่งโชคดี ขึ้นบันไดเลื่อนไปก็ถึงเลย และขึ้นไปก็เจอตู้ชั้น ๑ เลย

ก่อนหน้านั้น สาวน้อยผู้รอบคอบ บีบบังคับให้สามีไปที่ห้อง Accueil ไปถามขบวนรถ ter เที่ยวตรง (ไม่ต้องเปลี่ยน ขบวน) จาก ลียง ไปเจนีวา ในวันที่ ๕ ได้ข้อมูลไม่ตรงกับที่ได้จากเมืองไทย แถมบางช่วงยัง ต้องจองเสียอีก ผมสังเกตว่าเจ้าหน้าคนดำนี้แม้จะอัธยาศัยดี แต่ก็เป็นคนไม่ยืดหยุ่นนัก จึงไม่ขอให้เขา ตรวจสอบเพิ่ม เราพบว่าธุรกิจรถไฟของฝรั่งเศสนี้ บริษัท TGV รุกหนัก ข้อมูลมักจะเน้นของ TGV ซึ่งแพงกว่า ต้องจอง และ EuroPass ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ๘๐๐ บาทต่อคน ส่วนของบริษัท ter ฟรีตลอดและไม่ต้องจอง

ตู้โดยสารเหมือนกับตอนเดินทางจาก อ๊านซี - ลียง เก้าอี้ใหญ่ นั่งสบาย พื้นรถปูพรม ผมหยิบตั๋ว Flexi EuroPass มาลงวันที่ใช้งาน แต่วันนี้ผู้โดยสารหลายคน ขึ้นลงตามสถานีระหว่างทาง เปลี่ยนหน้ากัน ทิวทัศน์ ระหว่างทางเป็นเรือกสวนไร่นา มีชลประทานอย่างดี มีระบบการให้น้ำแก่ต้นไม้ที่แปลก ผมไม่เคยเห็นมาก่อน คือเป็นระบบให้น้ำแบบเป็นท่อเหนือต้นไม้ ตามยาวของไร่ มีล้อเลื่อนเลื่อนไปรดน้ำได้ตลอดไร่

ตู้รถไฟไม่มีป้ายบอกสถานีหน้า ประกาศมีเฉพาะภาษาฝรั่งเศส แต่ก็ไม่เดือดร้อนมาก เราใช้วิธีดูเวลาถึงสถานีที่เราจะลง คือ อาวีญง รถไฟขบวนนี้ปลายทางที่ มาเซย์

อากาศอุ่นขึ้นเรื่อย ตอนเช้าเย็นสบาย แต่สายหน่อยก็อุ่น พยากรณ์อากาศว่าบ่ายนี้ที่อาวีญง ๒๘ องศาเซลเซียส

ถึง อาวีญง ๑๐.๔๑ น. มีป้ายบอกทางไปโรงแรม Monclar ไปพบพนักงานที่อัธยาศัยดีชื่อ Fred ชอบไปเมืองไทย เราทราบภายหลังว่า โรงแรมนี้จัดการโดยครอบครัว และคุณ เฟร็ด เป็นเจ้าของ คุณเฟร็ดแนะนำให้ เที่ยวเมือง อาร์ลส เมืองเดียวพอ ไม่ต้องไป นีมส์ เพราะเหมือนกัน คือเที่ยวโบราณสถานโรมันและเมืองเก่ายุคกลาง แต่นีมส์ใหญ่กว่ามาก เที่ยวยากกว่า ได้เห็น อาร์ลส ก็เหมือนเห็น นีมส์ ขนาดเล็ก เขาแนะนำว่าควรไปดู Pont Du Gard หรือสะพานทดน้ำโรมัน

จากโรงแรม เราออกมาเดินเที่ยวเมืองอาวีญง คั่นเวลารถไฟออกเพื่อไปเที่ยว อาร์ลส


เที่ยวเมือง Arles ชมเมืองเก่าสมัยกลาง และยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ (๒ มิถุนายน๒๕๕๗)

เราขึ้นรถไฟสายไป Marseilles St. Charles เที่ยว ๑๑.๔๔ น. สถานีเดียวถึง Arlesรถขบวนนี้มีแต่ชั้น ๒ ลงจากรถถือแผนที่ที่คุณ Fred ให้มา เดินเข้าเมืองไปดูโบราณสถานอายุกว่าสองสหัสวรรษ เริ่มจาก Amphitheatre หรือสนามการแสดงรูปวงกลม มีอัฒจรรย์รอบ เราไม่ได้ซื้อตั๋วเข้าไปดู คิดว่าดูภายนอกเห็นภาพใหญ่ และถ่ายรูปได้สวยกว่า เมื่อเดินวนไปทางขวาก็พบสนามการแสดงครึ่งวงกลม และเล็กกว่า เรียกว่า Theatre Antique คือเก่ากว่า เราใช้เวลาสองชั่วโมงครึ่งเดินชมเมืองเก่าเกือบทั่วถึง เราเดินถามทางไปสู่แม่น้ำโรน (Rhone ฝรั่งเศสออกเสียงว่า โฮน) ไปชน Place Jean Baptist Massilone) นั่งพักที่ม้านั่งสาธารณะ แล้วเดินเลียบแม่น้ำโรนกลับสู่สถานีรถไฟ

เมืองอาร์ลโฆษณาว่า แวน โก๊ะ มาอยู่ที่นี่ปีกว่า คงจะเป็นปีที่แกอารมณ์พลุ่ง (mania) รุนแรง เพราะแกวาดภาพกว่า ๓๐๐ ภาพในช่วงนั้น ดังนั้นเขาจึงถือโอกาสขายแวนโก๊ะควบกับกิจการท่องเที่ยว ด้วยบ้านที่เขาเคยอยู่ และด้วย Van Gogh Mediatheque

วันนี้การรถไฟฝรั่งเศสเสียชื่อ รถขบวนจาก มาเซย์ เสียเวลา ๒๕ นาที

กลับจาก อาร์ลส ถึง อาวีญง บ่ายสี่โมงเศษ เราเดินไปนั่งที่บริเวณสวนสาธารณะข้าง Information Center เป็นสวนสาธารณะเล็กๆ แต่สวยงามและบรรยากาศดีมาก มีต้นไม้ดอกหอมหลายชนิด

สาวน้อยหมดแรงเสียแล้ว เราจึงเดินกลับไปซื้อแซนวิชและพิซซ่ากลับไปกินที่โรงแรม โรงแรม Avingon Hotel Monclar อยู่หลังสถานีรถไฟ ต้องเดินออกไปหน้าสถานี เมื่อถึงถนนใหญ่เลี้ยวขวา ไปจนถึง ทางแยกเลี้ยวขวาอีกที ไปลอดใต้ทางรถไฟ โรงแรมอยู่ทางซ้ายมือ คุณ Fred เมื่อรู้ว่าเราเป็นคนไทย ก็โอภาปราศรัยแนะนำวิธีไปเที่ยวดีมาก ห้องพักมี ๒ เตียง เตียงหนึ่งใหญ่หน่อย ขนาดเท่าเตียงเดียวที่ Athena Part-Dieu แต่ห้องน้ำเล็กหน่อย โรงแรมนี้มีข้อเด่นที่โรงแรมอื่นเท่าที่เราไปพักไม่มีคือ (๑) บริการด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ ให้คำแนะนำ ปรึกษาเรื่องการเที่ยว (๒) มีตู้เย็นเล็กๆ ให้ (๓) มีของใช้ในห้องน้ำมากกว่าที่อื่น (๔) มีไวน์ให้ ๑ ขวด (๕) การตกแต่งห้องที่ตั้งใจทำให้น่าอยู่ แต่ก็ยังไม่มี lotion กันผิวแห้ง ให้อยู่ดี

เช้าวันที่ ๓ มิถุนายน วันอังคาร เราตื่นเพราะนาฬิกาปลุกเวลา ๕ น. ได้นอนหลับสนิท คงเพราะความ เหนื่อยจากการเดินเที่ยว พอตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงนกไนติงเกลร้องให้ความสดชื่น แถมด้วยเสียงคูของนกเขา

อาหารเช้าที่โรงแรม อาวีญง โอเตล มงคลา ดีกว่าที่คิด มีไข่ต้มแข็งปอกเปลือก เนยแข็ง และไส้กรอก และอื่นๆ มากมาย รวมทั้งผลไม้ ที่อร่อยที่สุดคือขนมปังฝรั่งเศส และผมรู้สึกว่าเนยที่เขาจัดให้ก็อร่อยเป็นพิเศษ อาหารเช้านี้เขาคิดราคารวมในค่าห้องแล้ว เสียอย่างเดียว เขาเริ่มเปิด ๗.๓๐ น. ทำให้เราต้องรีบออกไปขึ้นรถไฟไป หมักเซย (เรียกแบบฝรั่งเศส ออกเสียงกึ่งเซยกึ่งไซย)


เที่ยว มาร์เซย์ เมืองท่าเก่า (๓ มิถุนายน ๒๕๕๗)

เราไปรถไฟขบวนที่สาวน้อยหัวหน้าทัวร์กำหนด ซึ่งออก ๘.๑๖ น. รถไฟมีเฉพาะชั้น ๒ แต่ขบวนนี้มีป้ายตัววิ่งบอกว่ารถไปไหน สถานีหน้าเป็นสถานีอะไร

รถไฟใช้เวลาชั่วโมงครึ่งก็ถึง หมักเซย (Marseille)

รถจอดสถานี (Prochain arret ออกเสียงว่า โปชินนาเร็ท) ระหว่างทางต่อไปนี้ : Arles, St. Martin Le Caux ซักมักต้า เลอคัวซ, Miramas มิรามาส์, St. Chamas, Rognac หรอกยัค, Vitrollles Aeroport Marseille, Pas-Des-Lanciers, L'Estaque เลสต๊าร์ก, Marseille Mediterranee (Arenc Euromediterranee), สุดปลายทางที่ หมักเซย แซงชาร์ลส (Marseille St. Charles)

บนรถไฟวันนี้ ได้เห็น จนท. ตรวจตั๋ว (สวมเสื้อยืด หมวกแก๊ป) อายุกลางคน มาพร้อมกับนายตรวจหนุ่มๆ ซึ่งแต่งสากลเต็มยศ มายืนสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ

สถานีรถไฟ และทางรถไฟในยุโรปต่างจากรถไฟบ้านเราอย่างสิ้นเชิงอยู่อย่างหนึ่ง คือของเขามีสายไฟระโยงระยาง เพราะรถไฟของเขาเป็นรถไฟฟ้าทั้งหมด น่าจะถือได้ว่า นั่นเป็นความก้าวหน้าสำคัญของระบบขนส่งทางไกล เป็นโครงข่ายทั่วประเทศ ที่ของเรายังพัฒนาไม่ถึง หรือล้าหลังไปเป็นครึ่งศตวรรษ

สาวน้อยกับผมวางยุทธศาสตร์เที่ยวเมืองใหญ่ ด้วยการซื้อ Day Ticket นั่งรถเที่ยวให้มากที่สุด ให้พอดีกับสังขารคนแก่

เมื่อไปถึงสถานี Marseille St. Charles เราเข้าไปถาม Information Center ขอแผนที่ ขอแผนที่ Public Transport ชมเมือง และวิธีไปซื้อตั๋ววัน (๒๔ ชั่วโมง) เมื่อซื้อตั๋วได้แล้ว ก็คิดจะนั่งรถเมล์ไปท่าเรือเก่า (Vieux Port) ถามเขา ได้ความว่าต้องไปรถใต้ดิน นั่งรถใต้ดินไปเพียง ๒ ป้ายก็ถึง ไปเดินแกว่งอยู่พักหนึ่ง สาวน้อยชวนไปหา Information Center เราถามวิธีชมเมือง ๒ - ๓ ชั่วโมงแบบคนแก่เดินมากไม่ได้ ก็ได้วิธีขึ้นรถบัสเที่ยว ๒ สาย ไปกลับสายละ ๑ ชั่วโมง คือสาย ๘๓ เลียบริมทะเล ไป Round Point du Prado กับสาย ๖๐ ขึ้นเขาไปวิหาร Notre Dame de la Garde เพื่อชมวิว และทำใจให้บริสุทธิ์ในโบสถ์ (คาทอลิค)

เป็นความสำเร็จในการเที่ยวชมเมือง หมักเซย แบบคนแก่ ที่ได้ชมแบบไม่ต้องเดินมาก แต่ได้เห็นมาก ได้เห็นวิวทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เห็นเกาะ ๒ เกาะในอ่าว เกาะหนึ่งเป็นป้อมปราการป้องกันเมือง และต่อมาเป็นที่กักกันนักโทษ อีกเกาะหนึ่งเคยใช้เป็นที่กักกันผู้ป่วยไข้เหลือง

รถบัสสาย ๖๐ พาเราไต่ขึ้นเขาลูกเดียว ไปจนสุดทางที่มหาวิหาร นอเตรอะดาม แล้วเราต้องขึ้นบันไดไปทีละระดับ เพื่อชมวิว สลับกับเข้าชมโบสถ์ ได้ชมวิวและถ่ายรูปสมใจ

เราจับรถ ไฟเที่ยว ๑๔.๑๐ น. กลับ อาวีญง สาวน้อยบอกว่า เที่ยวนี้แหละที่เรารอเสียเหนื่อยเมื่อวานนี้ที่ อาร์ลส วันนี้ตรงเวลา แต่โบกี้ทรุดโทรมมาก และอากาศร้อนอบอ้าว สงสัยแอร์เสีย

สรุปว่า ที่ หมักเซย เราไปดูเฉพาะส่วนเมืองเก่า ไม่ได้ไปดูส่วนเมืองใหม่ ที่ทันสมัยใหม่เอี่ยมที่เขาเรียกว่า Marseille Euromediterranee

กลับถึงสถานี อาวียง ซ้อตร์ (Avignon Centre) เกือบ ๑๖ น. เรากลับไปพักผ่อนที่โรงแรม ซึ่งมีเครื่องปรับอากาศเย็นสบาย หลังจากนั่งอบความร้อนในตู้รถไฟมาตลอดทาง

เกือบ ๑๘ น. เราออกไปเดินเล่น ซื้อแซนวิชเจ้าอร่อยที่ซื้อเมื่อวาน ชื่อร้าน Pains – Sandwicherie – Tarterie ไปนั่งกินที่สวนสาธารณะใกล้ Information Centre สาวน้อยเห็นขนม ท้าร์ต น่ากินจึงซื้อไปหนึ่งชิ้น ชมว่าอร่อยมาก วันนี้สวนสาธารณะน่านั่งน้อยกว่าเมื่อวาน เพราะอากาศร้อน และไม่มีลม ขากลับเราลองนั่งรถ CityZen รอบเมืองในเวลา ๑๒ นาที จอดตามป้ายต่างๆ เป็นรถเล็กๆ นั่งได้ไม่ถึง ๑๐ คน ราคาคนละ ๕๐ เซ็นต์ แล้วเดินกลับมาพักผ่อนและเขียนบันทึกี่โรงแรม

๔ มิถุนายน ตอนเช้าเที่ยว อาวีญง บ่ายเดินทางกลับ ลียง วันนี้พอเจอหน้าเจ้าของโรงแรมคนพ่อ เขาก็บอกว่าวันนี้อากาศไม่ดี แต่เราก็โชคดีที่โดนฝนพรำๆ เล็กน้อยเท่านั้น ระหว่างเดินเที่ยว


อาวีญง อดีตนครวาติกันนอกกรุงโรม

ในคริสตศตวรรษที่ ๑๔ ด้วยเหตุผลทางการเมือง ศูนย์กลางศาสนาคอทอลิก ย้ายจากโรมไปอยู่ที่ อาวีญง เราไปชมวังของพระสันตปาปา (Palais des Papes) ซึ่ง UNESCO ยกย่องให้เป็นมรดกโลก เดินขึ้นเดินลงปราสาทที่กว้างใหญ่ มีหลายชั้นและ มีห้องต่างๆ มากมาย ทั้งห้องรับรองแขก ห้องเลี้ยงอาหาร โรงครัว ห้องอ่านหนังสือ ห้องขังนักโทษ โดยเราต้องไม่ลืมว่า เราไปชมอาคารที่ก่อสร้างขึ้นใช้งานเมื่อ ๗๐๐ ปีมาแล้ว ที่วิถีการดำเนินชีวิตของผู้คน ต่างจากสมัยนี้มากมาย รวมทั้งเขาบอกว่าหลังจากไม่ได้เป็นวังของโป๊บ เพราะโป๊บย้ายกลับไปอยู่ที่โรมอย่างเดิม มีการรื้ออาคารบางส่วน และต่อเติมบางส่วน อีกหลายครั้ง

ค่าเข้าชมวังคนละ ๙ ยูโร ค่าเช่า audio guide คนละ 2 ยูโร การชมด้วย audio guide ช่วยมาก เขาใช้ระบบให้เรากดหมายเลข เครื่องก็จะ sync กับ wifi มีเสียงอธิบายออกมาทางลำโพงเล็กๆ ที่ดังพอที่ผม จะอาศัยฟังของสาวน้อยได้ เครื่องนี้หรี่หรือเพิ่มเสียงไม่ได้ เป็นวิธีให้บริการชมพิพิธภัณฑ์ที่น่าเอาอย่าง กรมศิลปากรน่าจะร่วมมือกับ NECTEC / NSTDA ทำระบบนี้ขึ้นใช้เอง กับพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศ

ชมวังของโป๊บอยู่ราว ๒ ชั่วโมง แล้วเดินไปทางเมืองเก่าสู่แม่น้ำโรน ไปชมสะพานขาด (Pont D’Avingon หรือ St. Benezet Bridge) จุดที่คนชอบถ่ายรูปที่สุดแห่งหนึ่งถ่ายรูปเสร็จสาวน้อยก็หมดแรง เดินกลับไปนั่งพักที่สถานีรถไฟ ผมเดินกลับโรงแรม ไปเอากระเป๋า และร่ำลาคุณ Fred

ผมขอแนะนำว่า เมือง อาวีญง น่าเที่ยวครับ อาจค้นลู่ทางไปเที่ยวได้ที่ www.avignon-tourisme.com

เราไปนั่งรอในสถานีรถไฟเป็นเวลาชั่วโมงเศษ ได้เห็นเหตุการณ์ไม่เรียบร้อยที่สถานี จึงมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกว่าสิบคนมาออกันอยู่ และมีการตรวจบัตรผู้โดยสารอย่างเข้มงวด เขามาขอดูตั๋วของเราด้วย

เรานั่งรถ ter ขบวน 14.18 น. ไป ลียง ได้พบหนุ่มสาวชาวจีนมาฮันนีมูน เราบอกว่าเราก็มาฮันนีมูนเหมือนกัน แต่เป็นครั้งที่ ๓๐ เจ้าบ่าวทำงานที่ China National Radio

ระหว่างนั่งรถไฟจาก อาวีญง ไป ลียง ฝนตก

ผมมาอ่านพบในแผ่นพับที่หยิบมาจาก Information Center ที่ อาวีญง ว่ามีทัวร์ที่น่าสนใจของProvence Panorama Sightseeing Toursทัวร์ที่ 7 Provence Best of ใช้เวลาทั้งวัน ราคาคนละ ๙๕ ยูโร หากผมรู้จัก ทัวร์นี้ก่อน ผมจะเลือกไปทัวร์นี้ แทนที่จะไป มาร์เซย์

นอกจากนั้น ยังมีแผ่นพับ Bienvenue en Provenceแนะนำสถานที่เที่ยวในแคว้น โปรว้อง ๔๒ ที่ ที่ผมสนใจที่สุดคือ สะพานส่งน้ำโรมัน Pont du Gard

วิจารณ์ พานิช

๓ มิ.ย. ๕๗ โรงแรม Avingon Hotel Monclar

ปรับปรุง ๔ มิ.ย. ๕๗ บนรถไฟกลับ ลียง

วิจารณ์ พานิช

ดูภาพประกอบโปรดกด Link : http://www.gotoknow.org/posts/571421

แก้ไขล่าสุด ใน วันศุกร์ที่ 11 กรกฏาคม 2014 เวลา 13:16 น.  
Home > Articles > ท่องเที่ยว > ชีวิตที่พอเพียง : ๒๑๙๑. ควงสาวเที่ยวฝรั่งเศส ๕. อาวียง

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5606
Content : 3049
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8600676

facebook

Twitter


บทความเก่า