รับมือ Covid-19
แบบบูรณาการ - ข้อเสนอแนะของ ศ. ดร. นพ. สุรศักดิ์ บูรณะตรีเวทย์
รับมือ Covid-19 แบบบูรณาการ - ข้อเสนอแนะของ ศ. ดร. นพ.สุรศักดิ์ บูรณะตรีเวทย์
ผมได้รับอีเมล์ จาก ศ. ดร. นพ.
สุรศักดิ์ บูรณะตรีเวทย์ ดังข้างล่าง และเห็นว่าเสนอแนวความคิดการดำเนินการรับมืการระบาดของโควิด ๑๙ อย่างเป็นระบบ เป็นการเสนอแนะไม่ใช่บอกว่าต้องทำอย่างที่เสนอทั้งหมด น่าจะมีมาตรการที่ดีและครบถ้วนกว่านี้ จึงช่วยนำมาบอกต่อ
หมดเวลาที่จะมัวชี้นิ้วใส่รัฐบาลและคนอื่นในการจัดการแก้ไขปัญหาCovid-19 แล้ว
รอให้ปัญหาคลี่คลายค่อยมาตามจัดการกันถึงเวลาที่เราประชาชนชาวไทยทุกคนจะต้องร่วมด้วยช่วยกันเพื่อให้ผ่านวิกฤต Covid-19 นี้ไปด้วยกัน
ช่วยกันคิดช่วยกันทำผมลองคิดเบื้องต้นมาได้ประมาณข้างล่างนี้จะทำปลายเปิดไว้ให้ช่วยใส่เพิ่มเติมได้เรื่อย
ๆและช่วยกันส่งต่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและช่วยกันทำหน้าที่ของตนเองทั้งตามหน้าที่การงานและหน้าที่การเป็นพลเมืองที่ดีดูแลตนเองและคนรอบข้างให้ได้มากที่สุด
1.
การเฝ้าระวังและสอบสวนโรค Covid-19 ผมเชื่อมั่นในทีมงานที่ทำอยู่ในปัจจุบัน
เพราะผมรู้จักนักระบาดวิทยาหลายคนที่ทำเรื่องนี้อยู่ว่าเป็นคนจริงจังขนาดไหนแต่เรื่องกำลังคนและแรงกายแรงใจของคนที่ทำอยู่จะไม่เพียงพอ
ต้องระดมนักระบาดวิทยามาร่วมด้วยช่วยกันโดยผู้ทำงานต้องมีความปลอดภัยปลอดโรคด้วยสำหรับการเฝ้าระวังผู้กักกันตัวที่บ้านต้องสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านที่เป็นกำลังหลักในการเฝ้าระวังกลุ่มนี้และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยจากการติดโรคสำหรับเจ้าหน้าที่และ
อสม. เหล่านี้ด้วย
2.
การตรวจวินิจฉัยโรค Covid-19 อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าแนวทางการตรวจคัดกรองโรคในรายที่ไม่มีประวัติอาการเสี่ยงจะมีประโยชน์ในระยะที่
2 มากน้อยเท่าไร และเมื่อประกาศเป็นระยะที่
3จะมีประโยชน์มากขึ้นหรือไม่อันนี้ผู้เชี่ยวชาญต้องออกมาร่วมคุยกันและออกแนวทางที่ชัดเจนโดยคำนึงถึงความคุ้มค่า
คุ้มทุนมากที่สุด
3.
การรักษาโรค Covid-19 สถานพยาบาลทุกแห่ง
ทุกระดับทุกสังกัดต้องเตรียมพร้อมรองรับการรักษาผู้ป่วยโรค Covid-19 ใน กทม
ซึ่งระบบบริการสุขภาพมีความซับซ้อนมาก ผู้ว่าราชการ
กทมควรนั่งเป็นประธานร่วมกับกลไก คกก ควบคุมโรคติดต่อ
กทมวางแนวทางในการรับมือผู้ป่วยใน กทม สำหรับจังหวัดอื่นๆ ผมเสนอแนวทางดังนี้
3.1
ผู้ป่วยที่ไม่ใช่โรค Covid-19
3.1.1 กรณีผู้ป่วยนอก
ให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องจัดให้มีการโยกย้ายกำลังคนและทรัพยากรด้านสุขภาพไปที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้พร้อมให้ผู้รับบริการที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรค Covid-19 และจัดการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลชุมชนโรงพยาบาลทั่วไป
โรงพยาบาลศูนย์ในรายที่ไม่สามารถรักษาได้
3.1.2
กรณีผู้ป่วยใน จัดแยกหอผู้ป่วยที่ไม่ใช่โรคCovid-19 แยกห่างจากหอผู้ป่วย Covid-19
3.1.3 กรณีผู้ป่วยฉุกเฉิน
ให้จัดช่องทางการเข้ารับการรักษาแยกจากผู้ป่วย Covid-19 เพื่อลดการสัมผัสเชื้อให้มากที่สุด
3.2
ผู้ป่วย Covid-19
3.2.1 โรงพยาบาลเฉพาะที่จะสร้างใหม่พยายามสร้างให้มีแสงแดดส่องถึงหอผู้ป่วยได้รอบทิศ
และทำระบบระบายอากาศให้เหมาะสม การวางแผนนำบุคลากรสุขภาพมาช่วยงานต้องเป็นระบบชัดเจน
3.2.2
โรงพยาบาลที่มีอยู่ทั้งภาครัฐ(ทุกสังกัด)
และเอกชนต้องมาวางแผนในการรองรับผู้ป่วยร่วมกันว่าจะให้โรงพยาบาลชุมชนโรงพยาบาลทั่วไป
โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลสังกัดอื่นๆและโรงพยาบาลเอกชนดูแลผู้ป่วย Covid-19 กลุ่มไหนอย่างไรบ้าง3.2.3
การส่งต่อผู้ป่วย Covid-19 ระหว่างสถานพยาบาลต้องมีระบบการส่งต่อที่ป้องกันการแพร่เชื้อโรค
3.2.4
จัดทำระบบข้อมูลทรัพยากรในการรักษาพยาบาล โดยเฉพาะเครื่องช่วยหายใจ (ventilator)
ว่าในแต่ละจังหวัดมีอยู่ที่ไหนและเป็นประเภทอะไรบ้างตลอดจนวางระบบการยืมคืนอย่างชัดเจน
4.
การป้องกันตนเองของประชาชนทั่วไปต้องปฏิบัติตามข้อแนะอย่างเคร่งครัด
หลีกเลี่ยงการออกไปในที่สาธารณะและแออัดหากจำเป็นต้องออกไปต้องใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งที่ไปสัมผัสพื้นผิววัตถุภายนอกบ้าน
เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย1 เมตร
5.
หน่วยงานทั้งภาครัฐเอกชนที่เกี่ยวข้องกับหน้ากากอนามัย เจลล้างมือต้องจัดการผลิต
จัดหาและกระจายให้ถึงประชาชนอย่างทั่วถึง
5.1
บริษัทที่ผลิตหน้ากากอนามัย/เจลแอลกอฮอล์ให้รวมกลุ่มกันแจ้งจำนวนที่ผลิตได้ทั้งหมดต่อวัน
และร่วมกับภาครัฐภาคประชาชนในการจัดจำหน่ายให้ทั่วถึงประชาชนโดยตรง
6.
ชาวบ้านร้านค้าบ้านเรือนที่อยู่ใกล้ที่ชุมนุมชนจัดเตรียมห้องน้ำและน้ำสบู่เอื้อเฟื้อให้แก่ประชาชนทั่วไปในการเข้าถึงการล้างมือ
7.
บริษัทที่ผลิตอาหารให้รวมกลุ่มกันและประกาศกำลังผลิตอาหารสำเร็จรูปให้ประชาชนรับทราบและจัดช่องทางการกระจายจำหน่ายสินค้าอย่างทั่วถึงตลอดจนวางแผนการผลิตสินค้ากรณีที่สินค้าขาดแคลน
8.
เกษตรกรที่ปลูกพืช
เลี้ยงสัตว์ให้ช่วยเหลือกระจายจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรแก่เพื่อนบ้านและคนในชุมชนใกล้เคียง
9.
สถานศึกษา ปิดการเรียนในห้องเรียนจัดระบบเรียนออนไลน์
10.
รัฐบาล
10.1
บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
10.2
ออกมาตรการกักกันตัว 14 วันสำหรับทุกคนที่เข้ามาในประเทศไทย
10.3
ควบคุมกำกับสินค้าที่จำเป็นไม่ให้มีการกักตุน
10.4
สนับสนุนการดำเนินงานของภาคประชาชน
11.....................
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย Prof.
Vicharn Panich ใน KMI
Thailand
< ย้อนกลับ | ถัดไป > |
---|