Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Home > ประชาสัมพันธ์ > ประชาสัมพันธ์ > เจ็ดสิบปีแห่งชีวิต ไม่คิดตะได้เห็นก็ได้เห็น ไม่คิดจะได้ยินด็ได้ยิน

เจ็ดสิบปีแห่งชีวิต ไม่คิดตะได้เห็นก็ได้เห็น ไม่คิดจะได้ยินด็ได้ยิน

พิมพ์ PDF

ต้องขออนุญาต คุณพี่ท่านนี้ เขียนได้ตรงใจกระผมมากเลยครับ และคงถูกใจเพื่อนๆหลายคน

เวลาและประสบการณ์ เพาะบ่มความคิด ผ่านการเรียนรู้ถูกผิด 70ปีของคุณพี่เพียงพอ ที่จะสอนอะไรให้ใครหลายคน

เจ็ดสิบปีแห่งชีวิต…ไม่คิดจะเห็นก็ได้เห็น……ไม่คิดว่าจะได้ยิน……ก็ได้ยิน..!!!

นั่งอยู่บ้านเซ็งๆค่ะ ฝรั่งเศสสำหรับดิฉันในตอนนี้ และ ตลอดปีโควิดที่ผ่านมาก็คือบ้านเล็กๆกับหมาสามตัวที่ช่วยกำหนดการใช้ชีวิตในแต่ละวันให้ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ บางทีก็ต่อโทรศัพท์เข้าเครื่องของลุง (เพราะยังรักษาสายไว้) เพื่อที่จะได้ยินเสียงเขาตอบรับในการฝากข้อความ ก็อุ่นใจดี เหมือนยังอยู่ใกล้ๆ สถานะการณ์ตอนนี้ยิ่งย่ำแย่ อากาศมัวซัว ฝนปรอย ลมแรง
บ้านเมืองเงียบเหงาเศร้าสร้อย จะออกไปไหนทีก็ต้องกรอกแบบฟอร์มว่าไปไหน ไปกี่โมง ไปทำอะไร  ทุ่มนึงก็ต้องอยู่บ้าน
ทางด้านความปลอดภัย...ก็เดินล่อกแล่กไปซิคะ เพราะวันนี้ที่เวียนนา มีการกราดยิงในโรงสวดยิว  ข่าวว่า ตายหนึ่ง บาดเจ็บอีกหลาย เมื่อวันก่อน ที่ฝรั่งเศส มีการบุกเข้าไปยิงพระ ตอนที่ท่านออกมาจากโบสถ์ ดิฉันรู้สึกแย่ ที่ได้ยินประธานาธิบดีมาครงยืนยันว่า เขายังคงสนับสนุนเสรีภาพของฝรั่งเศสในเรื่อง การพูด การเขียน การวาด...!! เสรีภาพก็ต้องมีขอบเขต ถ้าจะไปให้เสรีภาพเที่ยวไปประนาม ดูถูก เหยียดหยามสิ่งที่เป็นของ”ต้องห้าม” หรือสิ่งสักการะของคนอื่น มันก็คือการหมิ่นประมาท……
และนี่คือประเด็นสำคัญที่เราประสบอยู่ในทุกวันนี้ คือ ความไม่ปลอดภัย ความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ ความไม่สงบ

การเลือกตั้งในอเมริกา ที่กำลังจะเข้าสู่เส้นชัย ที่ต้องเรียกว่าสูสีจนไม่รู้ว่าจะเชื่อโพลไหนดี…ไบเดนกำลังนำ ทรัมป์ก็ยังมีสิทธิเข้าวิน แต่ไม่ว่าใครจะมา…ก็ไม่เกี่ยวกับฝรั่งเศส เพราะฝรั่งเศสขึ้นตรงกับนายทุนผู้อุดหนุนอเมริกา…ไม่ใช่ประธานาธิบดี

ทางเมืองไทย……เรื่องปฏิรูป ปฏิแรบ อะไรนั่น ดิฉันได้พูดมานานแล้วว่า ไม่มีทางทำได้ ยังไม่ถึงเวลา และยังอีกนาน……
เนื่องจากเราอยู่กันมาในการปกครองของกษัตริย์มานานกว่าเจ็ดร้อยปี ไม่ว่าจะราชวงศ์ไหนก็มีพิธีการ มีธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดกันมา  และมีการปรับปรุง ปรับเปลี่ยนไปตามสมัย ในช่วงการปรับสู่รัชกาลปัจจุบัน เรามีช่องว่างของเวลาที่หายไป
แทบไม่มีใครรู้จักในหลวงพระองค์นี้ นอกจากเสียงซุบซิบ นินทา ให้ร้ายไปต่างๆนานา  แม้ว่าทั้งหมดทั้งมวลคือเรื่องส่วนพระองค์ในครอบครัว ซึ่งคนบางคนยังแยกไม่ออก ……ในช่วงช่องว่างนี้  มีนักวิชาการ นักต่อต้าน ฝ่ายนิยมซ้ายได้ก่อตัว
ฝังตัวไปกับการเมืองไทยที่มุ่งแต่หาประโยชน์เข้าตัว มีการปลุกระดม โน้มน้าวเพื่อที่จะเปลี่ยาทิศทางทางการเมืองให้สมเจตนารมย์ เพราะอำนาจ...มันหอมหวนยิ่งนัก...!!!

การศึกษาของประเทศเรา...ขอบอกว่าล้าหลังมาก เนื่องจากเราไม่เน้นอ่าน ไม่เน้นการใช้ทักษะค้นคว้า……ถนัดรับการป้อนให้ถึงปาก ภาษาอังกฤษย่ำแย่ ยังอยู่กับที่ นอกจากนักเรียนที่ต้องเสียเงินแพงๆถึงจะได้เรียนระบบอินเตอร์…ตรงนี้ที่เกิดช่องว่าง
(ดิฉันเห็นด้วยกับการเรียกร้องให้มีการพัฒนาปรับปรุงตรงนี้…) และการศึกษาที่แสนง่อยนี้...เติบโตไม่ทันกับการเข้าถึงข่าวสารของนักเรียน……เขาจึงตื่นเต้นกับข้อมูลใหม่แบบล้วงลึกตามที่ผู้ไม่ประสงค์ดีได้ป้อนให้อย่างอิ่มเต็ม  สนุกสนานไปกับสำนวน อิดอก..!!! เมื่อปลุกปั่นจนได้ที่ โดยประมวลได้จากหน้าเพจหลายเพจที่มีคนติดตามนับหมื่น นับแสน บางเพจมีเป็นล้าน
จึงเป็นที่เชื่อใจได้ว่า ถึงเวลาแล้ว……ต่อการโค่นล้มเพื่ออนาคตที่ดีกว่า (ของผู้ยั่วยุ)

ดิฉันได้เห็นนักเรียนชั้นมัธยมต้นในโรงเรียน”เจ้าตั้ง” ออกมาชูสามนิ้ว ด่าทอ ไม่มีความยำเกรงอาจารย์ ได้ยินแกนนำด่าทอรัฐบาล และ สถาบันสูงสุดของเราอย่างมันส์ปาก เหมือนกับโกรธแค้นมาแต่ครั้งไหน นิสิต นักศึกษา ยอมรับปริญญากั

ภาพคัทเอ้าท์ของคนเนรคุณแผ่นดิน มากกว่าที่จะรับจากพระหัตถ์  สารพัดที่จะเห็น จะได้รับฟัง………ได้แต่นึกในใจว่า……พ่อแม่ของเด็กพวกนี้ไปไหน……เขาเห็นดีเห็นงามด้วยหรือไม่? แต่ก็นั่นแหละ……เขาว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ลูกมะนาวก็ต้องมาจากต้นมะนาว………!! ทุกอย่างเกิดขึ้นรายวัน...แต่ไม่เห็นมีใครออกมาต่อต้าน หรือ ออกมาเผชิญหน้าท้าดีเบต ได้แต่อึดอัด ซุบซิบกันแต่ในเฟสบุ๊คของตัวเอง ทางรัฐบาลก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะเขาใช้ “เยาวชน” มาเป็นอาวุธ เรื่องอย่างนี้ คือ ความไม่มีประสิทธิภาพของกระทรวงศึกษาธิการและความโหลยโท่ยของสำนักงานข่าวกรอง  ดิฉันคิดถอดใจเหมือนกัน...อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด มียศเสื่อมยศ มีลาภเสื่อมลาภ ตามคำโบราณเขาว่ากัน  อนาคตจะเป็นอย่างไร…ก็ต้องเรียนรู้กันไป  ดิฉันได้แต่นั่งมองรูปความงามของเกาะรัตนโกสินทร์ในสถานที่ต่างๆ หวังว่าจะคงอยู่ต่อไปชั่วฟ้าดิน จนเมื่อเกิดเหตุการณ์วันที่ประชาชนได้รับเสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทานในวันปิยมหาราช 23 ตุลาคม ที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปจากสิ่งที่เคยเห็นในขบวนเสด็จของรัชกาลก่อน นั่นคือ ความเป็นทรงพระน่ารัก…ทรงพระกันเอง…ทรงพระสรวล...ทรงขำขันกับสโลแกน ในหลวงสู้สู้... สมเด็จพระราชินีได้ทรงทำหน้าที่อย่างเหมาะเจาะ สมบูรณ์ และเหมือนจะติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด มีการสัมผัสมือกับผู้ที่เข้าเฝ้า มีการเกาะกุมพระบาท อะไรกันนี่.……ราวกับฝันไปทีเดียวเชียว เพราะนี่คือสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นในชีวิต เพราะจำได้ว่า สมัยดิฉัน เมื่อเสด็จพระราชดำเนินผ่านก็ได้แต่หมอบกระแต เงียบกริบจนได้ยินเสียงหายใจของตัวเอง (ในงานกาชาด) คำว่า ทรงพระเจริญจะเปล่งก็ตอนส่งเสด็จตอนรถยนตร์พระที่นั่งขับผ่าน...พอมาถึงเสด็จวัดพระแก้วเมื่อวานนี้ เกิดปรากฏการณ์ของคลื่นมหาชนเสื้อเหลืองที่สะพรั่งไปทุกหย่อมหญ้า นั่นยิ่งเจิดขึ้นไปอีก……เพราะเป็นการทำงานประสานแบบทีมเวิร์ค
เจ้าฟ้าหญิงทั้งสองพระองค์วิ่งเอนเตอร์เทนประชาชน ทรงทำหน้าที่เป็นพีอาร์ที่คอยส่งข่าวให้ทูลกระหม่อมพ่อทรงทราบว่า ใครมา...ใครนั่งตรงไหน แนะนำให้ทรงรู้จักเบ็ดเสร็จ พร้อมกับรู้ถึงการงานของคนคนนั้นด้วยว่า เป็นนักแต่งเพลง (คุณนิติพงษ์ ห่อนาค)  พระราชินีทรงอ่อนหวานที่ดูเป็นธรรมชาติมาก ทรงเข้าใจถึงความต้องการของพสกนิกรเป็นอย่างดี พีคสุด....คือ ทรงพระเซลฟี่กับเด็กหนุ่มผู้กล้าร้องขอ……!!ใจที่เคยห่อเหี่ยว……กลับอิ่มฟูขึ้นมาอย่างประหลาด เพราะคำบอกเล่า...ความภาคภูมิใจ…ความภักดี จะถูกถ่ายทอดออกไปอีกนับล้านๆคำ จากปากต่อปาก จากใจสู่ใจ……ดิฉันซึมซับได้ถึง “บารมี” ที่มีจริงในโลกใบนี้ กล่าวคือ……เมื่อเข้าใกล้…จนบารมีนั้นได้แผ่ถึง...อาการน้ำตาไหลพรูจะเกิดขึ้นมาเอง……ห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่…
รับรองว่า……อาการอย่างนี้มีคนไทยเป็นอยู่ชาติเดียว……!! เพราะเคยใกล้ ปธน. Nixon, ปธน. Reagan แบบประจันหน้ากัน ก็เฉยๆ คนอื่นๆก็เฉยๆ ไม่มีใครแสดงอาการปลาบปลื้มอะไรมากนัก นอกจากวุ้ยว๊ายกันทีหลัง...

เชื่อว่า…ฝ่ายที่ยุยงปลุกปั่นเด็กคงต้องไปคิดใหม่ การที่จะปฏิรูปหรืออะไรที่ประดิษฐ์ออกมาให้ฟังสวยหรูนั่น คงยังใช้ไม่ได้ในตอนนี้ ดิฉันเชื่อว่าพวกเขาก็รู้ว่า…ยังไม่ใช่เวลา แต่ลองก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร เพราะนั่งอยู่หลังม่าน แต่ประชาชนเริ่มเห็นความโหดเหี้ยมของคณะปลุกปั่นที่ใช้เด็กหัวรุนแรงมารับเคราะห์กรรมแทน ไร้มนุษยธรรมที่สุด เพราะอนาคตพวกเขามืดมนจริงๆ ต่อไปจะมีแต่คดีความที่เพิ่มขึ้น หลักฐานชัดเจน และ จะถูกทอดทิ้งในเวลาไม่นาน
พวกพ่อแม่ของเด็กเหล่านี้……ทนได้อย่างไร? คิดว่า…คำปลอบใจอย่างเดียวที่มีให้ คือ รอให้พวกสามเกลอเป็นรัฐบาล…
อาจจะมีทางช่วยเหลือ นั่นก็ต้องแล้วแต่โชคชะตา ฟ้าลิขิต เพราะพวกหนูๆจะได้ใช้เวลาแห่งการอคอยวิ่งขึ้น-วิ่งลงศาล วิ่งเข้า-ออกที่คุมขัง...คอยรับการสมน้ำหน้า สมเพชจากคนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อการชุมนุม……เอาเถอะค่ะ หนูมาไกลถึงขนาดนี้แล้ว หยุดตอนนี้หัวก็คงทิ่มคะมำ……ไปต่อเลยค่ะ ไปให้สุดแรง...แล้วจะได้พักยาวๆ จะได้มีเวลาคิดทบทวน คิดถึงตัวเองให้มากๆ อย่าทำตัวเป็นคนโง่แต่เ-ือกขยัน…เพราะคนแบบนี้ในประวัติฮิตเล่อร์เอาไปรมควันหมด เพราะอยู่ไปก็สร้างแต่ความหายนะ……!!

หมายเหตุ มีผู้ส่งข้อความนี้เข้ามาเผยแพร่ในไลน์ กลุ่ม ผมไม่รู้จักทั้งผู้นำมาเผยแพร่ และผู้เขียน เมื่ออ่านดูแล้ว เห็นว่าเป็นข้อเขียนที่น่าสนใจ จึงนำมาแชร์ต่อให้ได้อ่านเรียนรู้ร่วมกันครับ และต้องขออนุญาตผู้เขียนนำมาเผยแพร่ด้วยครับ

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท


 
Home > ประชาสัมพันธ์ > ประชาสัมพันธ์ > เจ็ดสิบปีแห่งชีวิต ไม่คิดตะได้เห็นก็ได้เห็น ไม่คิดจะได้ยินด็ได้ยิน

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5605
Content : 3049
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8599008

facebook

Twitter


บทความเก่า