Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Home > Articles > บทความของ ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท > ประสบการณ์ชีวิตของ ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท ตอน ๔ "วัยรุ่น เรียนรัก"

ประสบการณ์ชีวิตของ ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท ตอน ๔ "วัยรุ่น เรียนรัก"

พิมพ์ PDF
บทเรียนการดำเนินชีวิตของผู้สูงวัย ตอน ๔ : วัยรุ่น เรียนรัก - รักงาน (ประสบการณ์ชีวิตของ ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท)
ช่วงจบมัธยมต้น ผู้เขียนตั้งใจสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร และไปไหว้ที่ศาลพระพรหมเอราวัณ ราชประสงค์ เพื่อขอให้สอบติด แต่เวลาไหว้ไปนึกถึงท่านท้าวเวชสุวรรณ ผู้เขียนสอบไม่ติดโรงเรียนเตรียมทหาร และสลบไปสองคืนสามวัน เนื่องจากคุณแม่ชวนให้ผู้เขียนนั่งรถไปเอาของที่กรุงเทพกับคุณแม่ โดยหลอกว่าจะให้ช่วยขับรถ ผู้เขียนเพิ่งขับรถเป็นใหม่ๆจึงอยากขับรถ ขาไปกรุงเทพ คุณแม่ยังไม่ให้ขับ พอขากลับก็อ้างว่าจะมืดแล้ว ผู้เขียนโกรธคุณแม่มากที่มาหลอกและไม่รักษาคำพูด จึงบอกให้คนรถจอดรถ จะแยกทางกับคุณแม่ คุณแม่ไม่ให้คนรถหยุดรถ ผู้เขียนจึงโดดลงจากรถเพราะเข้าใจว่าคงไม่เป็นไร (รถวิ่ง ๘๐ กม/ชม) เมือผู้เขียนกระโดดลงจากรถ ก็จำอะไรไม่ได้ สลบไป ๒ คืน ๓ วัน ตื่นมาเจอหน้าคุณพ่อเป็นคนแรกท่านน่าเศร้าเหมือนกับไม่ได้นอน สงสารท่านมาก ผู้เขียนจำเหตุการณ์ระหว่างที่สลบได้อย่างแม่นยำว่า มีใครก็ไม่ทราบ มาพาผู้เขียนไปชมนรก และสวรรค์ ผู้เขียนได้ไปเที่ยวชมหลายแห่ง ขณะนั้นจำได้ทุกอย่าง แต่ตอนนี้ลืมหมดแล้ว

ชีวิตช่วงประถมศึกษา อยู่โรงเรียนเป็นเด็กเรียบร้อย เล่นอยู่กับกลุ่มเพื่อผู้ชาย ไม่เคยพูดคุยกับเพื่อนผู้หญิง จะมีทักทายก็ไม่เกิน ๒-๓ คน ส่วนมากจะเล่นลูกหิน และซ่อนไม้ การเรียนไม่ได้สนใจและรักเรียนเท่าไหร่ คุณครูให้การบ้านมาทำมาก ผู้เขียนไม่ค่อยสนใจทำการบ้าน โดยเฉพาะการบ้านท่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษ คุณครูจะตรวจเช็คการบ้านทุกวัน ใครไม่ทำก็โดนทำโทษ ผู้เขียนจะโดนทำโทษบ่อยๆ เบื่อหน่ายมากเพราะท่องศัพท์ไม่ค่อยได้ คุณครูสมคิดดุมาก สอนวิชาเลขคณิต ระหว่างสอนครูยืนใกล้ใครคนนั้นจะตัวสั่นด้วยความกลัว เพราะเมื่อทำผิดก็จะโดนตีด้วยไม้วงเวียนที่แขน ผู้เขียนเคยโดนตีที่แขนจนเป็นลอยแผล คุณแม่ต้องมาฟ้องคุณครูใหญ่ คุณครูสมคิด ถูกผู้ปกครองร้องเรียนหลายคนและหลายครั้งด้วยกัน สำหรับผู้เขียนกลัวครูสมคิดมาก แต่เมื่อเรียนจบรักและคิดถึงคุณครูสมคิดมากที่สุด ท่านสอนให้ผู้เขียนเก่งเลขคณิต ผู้เขียนมีโอกาสพบท่านอยู่ระยะหนึ่งในช่วงที่ผู้เขียนทำงานใหม่ๆ ชีวิตของท่านไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะท่านดื่มเหล้ามาก และสุขภาพไม่ค่อยดี เมื่อพบท่านก็พยายามหาโอกาสได้ตอบแทนบุญคุณท่านแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากเท่าไหร่

เพื่อนนักเรียนส่วนมากจะเป็นเพื่อนที่มีบ้านพักอยู่ใกล้ๆโรงเรียน นับถือศาสนาคริส ผู้เขียนเข้าโบสถ์คริสเป็นประจำ เพื่อนที่นับถือศาสนาคริส จะนำ card ของศาสนาคริสมาให้ผู้เขียนดูผู้เขียนชอบมาก ผู้เขียนอยากได้ card เหล่านั้น แต่เพื่อนไม่ค่อยให้ เข้าใจว่า card นั้นจะเหมือนกับพระห้อยคอในศาสนาพุทธ

พงษ์ศักดิ์เพื่อร่วมห้องและผู้เขียนไปสมัครเล่นฟุตบอลยุวชน ของสโมสร JCT ทั้งผู้เขียนและเพื่อนต่างเล่นฟุตบอลเก่งทั้งคู่ แต่อยู่คนละทีม เพื่อนที่สนามฟุตบอลส่วนมากจะเป็นพวกนับถือศาสนาอิสลาม พวกนี้อึดมาก ผู้เขียนเลยมีโอกาสเข้าสุเหร่าของอิสลามก็เพราะเพื่อนกลุ่มนี้

อยู่บ้านผู้เขียนเป็นหัวหน้าแก็งเด็กรุ่นเดียวกัน ชอบแกล้งเด็กผู้หญิง คุณแม่ถูกเพื่อบ้านฟ้องว่าผู้เขียนไปแกล้งลูกสาวเขาเป็นประจำ สมัยนั้นเพิ่งมีทีวีใหม่ๆ เป็นทีวี ขาวดำ ละแวกบ้านของผู้เขียนมีทีวีไม่กี่บ้าน ผู้เขียนโชคดีที่คุณพ่อซื้อทีวีให้ และเปิดให้เพื่อนๆเข้ามาดูทีวีทุกวันตั้งแต่หัวค่ำจนถึง 20.00-21.00 น เข้าๆออกบ้านกันเป็นว่าเล่น วันหยุดเสาร์ อาทิตย์ บ้านของผู้เขียนกลายเป็นบ่อนเล่นไพ่ โดยผู้เขียนเป็นเจ้ามือ แต่ไม่ได้เล่นกินเงิน สมัยนั้นก็เล่นกินหนังสติ๊ก (หนังยาง) ไพ่ ลูกหิน เป็นช่วงๆสลับกัน ถ้าไม่เล่นไพ่ ก็เล่นหยอดหลุม ทอยกอง ตั้งเต จับจิ้งหรีด จับปลา มีสิ่งให้เล่นมากมาก ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน ผู้เขียนจึงไม่ค่อยทำการบ้าน เพราะเมื่อกลับมาถึงบ้านก็มีของเล่น พอค่ำก็ดูทีวี วันหยุดก็เล่นทั้งวัน และยังไปเล่นฟุตบอลอีก ทั้งเล่นที่บ้านและ ไปเล่นที่สวนลุม วัยนี้จึงเป็นวัยที่รักเล่น แน่นอนผู้ชายก็ต้องมีชกต่อยกันเป็นธรรมดา ผู้เขียนชกต่อยกับคนในระแวกบ้านเป็นประจำ เป็นการต่อยกันตัวต่อตัว ก่อนจะต่อยกันต้องใช้เวลานานมาก มีกองเชียร์ ขีดเส้นให้อยู่กันคนละข้างถุยน้ำลายลงฟื้นของอีกฝ่ายหนึ่ง เขียนชื่อคนที่จะต่อยด้วยแล้วเอาเท้าเหยียบ ในหมู่บ้านของผู้เขียนมีกีฬาเล่นหลากหลาย วิ่งเปรี้ยว วิ่งผลัด ฟุตบอล ตีคลี ฯลฯ มากมาย ช่วงปีใหม่ทุกปีจะมีการแข่งขันกีฬา ช่วงค่ำก็จะมีภาพยนต์มาฉายยันสว่างในคืนวันที่ ๓๑ และวันที่๑ บางบ้านก็จะมีการเลี้ยงปีใหม่มีเต้นรำ สลับกันไป เป็นชีวิตที่มีความสุขมาก เป็นช่วงแห่งการรักเล่น รักสนุก


ชีวิตช่วงมัธยมปลาย ชีวิตเริ่มเปลี่ยน กิจกรรมในระแวกบ้านน้อยลงแทบจะไม่มีเพราะต่างคนต่างโต รุ่นพี่ที่เป็นหัวแรงจัดกิจกรรมต่างๆเริ่มไปทำงาน สังคมในระแวกบ้านเริ่มห่างเหิน การรวมตัวกันยากไม่เหมือนเดิม ชีวิตของผู้เขียนเน้นไปที่โรงเรียน เป็นนักกีฑาวื่งเร็ว นักฟุตบอล ของโรงเรียน เลิกเรียนต้องไปซ้อมวิ่งที่สนามศุภ ซ้อมวิ่งไปมองนักกีฑาหญิงไป ซ้อมฟุตบอลที่สนามของกรมทหาร ไม่มีนักเรียนหญิงให้ดูจึงซ้อมอย่างจริงจัง ผู้เขียนไม่ค่อยเข้าเรียนในชั่วโมงสุดท้าย เนื่องจากต้องออกเดินทางไปซ้อมวิ่งหรือซ้อมฟุตบอล นอกโรงเรียน เริ่มหนีเรียน มาโรงเรียนแต่ไม่เข้าเรียน ไปอยู่ที่โต๊ะสนุกเกอร์ โบวล์ริง และสเก็ตน้ำแข็ง ช่วงนี้เป็นช่วงที่หนีเรียนและจีบผู้หญิง เนื่องจากผู้เขียนเป็นนักกีฬาจึงมีนักเรียนหญิงมาชอบมาก ต้องสัปหลีกอยู่บ่อยๆ เปลี่ยนแฟนเกื่อบทุก ๓ เดือน แต่แฟนสมัยนั้นเป็นแฟนแบบเด็กๆ จีบให้เขาชอบ พอชอบเราก็หาคนอื่นต่อ ผู้เขียนไม่เคยจับไม้จับมือหรือล่วงเกินแฟน เพียงแค่ว่าเขาชอบเราๆชอบเขาแค่นั้น ไม่มีอะไรเกินเลยไปจากนั้น อย่างไรก็ตามมีเรื่องสลดใจอยู่เรื่องหนึ่งที่ไม่สามารถลืมได้ คือมีเด็กนักเรียนรุ่นน้องคนหนึ่ง ที่ผู้เขียนไปจีบและเด็กคนนี้รักผู้เขียนมาก เพื่อนสนิทของผู้เขียนรักเด็กผู้หญิงคนนี้ ผู้เขียนจึงวางแผนเพื่อยกเด็กคนนั้นให้เพื่อนของผู้เขียน แกล้งแสดงให้เห็นว่าผู้เขียนมีแฟนอยู่แล้วและให้เพื่อเข้าไปดูแลเด็กคนนั้นแทนผู้เขียน ผู้เขียนหลบและไม่ยอมติดต่อเด็กคนนี้อีกเลย เพราะตกลงยกให้เพื่อนแล้ว จนกระทั่งวันหนึ่งผู้เขียนฝันว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นมาร้องไห้และต่อว่าผู้เขียนว่าทำไมถึงทำกับเขาอย่างนั้น ผู้เขียนจำรายละเอียดไม่ได้ เมื่อได้พบเพื่อนจึงถามเพื่อนถึงเด็กผู้หญิงคนนั้น จึงทราบว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเสียชีวิตในวันที่มาเข้าฝันผู้เขียน เพื่อนผู้เขียนรักเด็กคนนั้นมาก เขาแสดงความเสียใจและหลังจากนั้นความสัมพันธ์ของผู้เขียนกับเพื่อนคนนั้นก็ห่างๆกันไป และไม่มีโอกาสได้ทราบข่าวคราวเพื่อนคนนี้อีกเลย

ช่วงปิดเทอมผู้เขียนและน้องๆทุกคนไปพักกับคุณพ่อคุณแม่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เนื่องจากคุณพ่อไปรับตำแหน่งสหกรณ์จังหวัด เพื่อร่วมห้องเรียนอีก ๒ คน ก็ไปอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เช่นกัน คนหนึ่งแม่เป็นเจ้าของโรงแรมที่สุพรรณ อีกคนพ่อเป็นผู้พิพากษา เลยเข้าแก็ง เย็นมาก็ขี่จักยาน ขีมอเตอร์ไซด์ จีบสาว เนื่องจากเป็นลูกชายข้าราชการผู้ใหญ่ของจังหวัด ทำให้มีสาวชอบมาก มีทั้งลูกพ่อค้า ลูกข้าราชการ ลูกตำรวจ มากมายหลายคน มีอยู่คนหนึ่งเป็นลูกสาวนายตำรวจใหญ่ ด้วยความคะนองจึงไปจีบเล่นๆ แต่เธอเอาจริง ติดตามสืบจนรู้จักบ้านของผู้เขียนที่กรุงเทพ และชวนคุณแม่ของเธอมาเช่าบ้านใกล้ๆกับผู้เขียนที่กรุงเทพ เข้าหาคุณแม่ของผู้เขียน เธอพยายามทุกวิถีทางที่จะดึงผู้เขียนให้ไปร่วมงานของครอบครัวเธอ ซึ่งเป็นครอบครัวที่มีเชื้อสายและตระกูลที่ดี แต่ผู้เขียนไม่ได้คิดอะไรกับเธอจึงหลบและบ่ายเบี่ยงตลอดเวลา ไม่ยอมใกล้ชิดและไม่ไปงานที่เธอมาขอร้องให้ไปด้วย


ช่วงจบมัธยมต้น ผู้เขียนตั้งใจสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร และไปไหว้ที่ศาลพระพรหมเอราวัณ ราชประสงค์ เพื่อขอให้สอบติด แต่เวลาไหว้ไปนึกถึงท่านท้าวเวชสุวรรณ ผู้เขียนสอบไม่ติดโรงเรียนเตรียมทหาร และสลบไปสองคืนสามวัน เนื่องจากคุณแม่ชวนให้ผู้เขียนนั่งรถไปเอาของที่กรุงเทพกับคุณแม่ โดยหลอกว่าจะให้ช่วยขับรถ ผู้เขียนเพิ่งขับรถเป็นใหม่ๆจึงอยากขับรถ ขาไปกรุงเทพ คุณแม่ยังไม่ให้ขับ พอขากลับก็อ้างว่าจะมืดแล้ว ผู้เขียนโกรธคุณแม่มากที่มาหลอกและไม่รักษาคำพูด จึงบอกให้คนรถจอดรถ จะแยกทางกับคุณแม่ คุณแม่ไม่ให้คนรถหยุดรถ ผู้เขียนจึงโดดลงจากรถเพราะเข้าใจว่าคงไม่เป็นไร (รถวิ่ง ๘๐ กม/ชม) เมือผู้เขียนกระโดดลงจากรถ ก็จำอะไรไม่ได้ สลบไป ๒ คืน ๓ วัน ตื่นมาเจอหน้าคุณพ่อเป็นคนแรกท่านน่าเศร้าเหมือนกับไม่ได้นอน สงสารท่านมาก ผู้เขียนจำเหตุการณ์ระหว่างที่สลบได้อย่างแม่นยำว่า มีใครก็ไม่ทราบ มาพาผู้เขียนไปชมนรก และสวรรค์ ผู้เขียนได้ไปเที่ยวชมหลายแห่ง ขณะนั้นจำได้ทุกอย่าง แต่ตอนนี้ลืมหมดแล้ว

ถือว่าตั้งแต่จำความได้ จนถึง ช่วงมัธยปลายเป็นช่วงที่ผู้เขียนเจอแต่สิ่งที่ไร้สาระ ไม่ตั้งใจเรียน เอาแต่เล่นกีฬา และจีบผู้หญิง ทำให้คนต้องเสียใจในการกระทำของผู้เขียน เจ็บตัว เหมือนกับตายแล้วเกิดใหม่ โดยเฉพาะช่วงมัธยมปลายถือว่าเป็น ๒ ปีที่เลวร้ายที่สุด ไม่ได้ทำประโยชน์ให้กับใคร ทำให้ตัวเองตกต่ำ และทำร้ายจิตใจของคนดีๆที่มีใจที่ดีให้กับผู้เขียน ทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องวิตกและกังวล เสียเงิน เสียใจ เป็นช่วงที่ผู้เขียนไม่มีความรับผิดชอบ ไม่รู้คุณค่าของความรัก และไม่รักตัวเอง มาคิดดูก็แปลก เหมือนกับตายไปแล้ว อุตส่าห์ได้ไปเห็นนรก เห็นสวรรค์ แต่ทำไมหลังจากฟื้นขึ้นมาจึงไม่คิด ไม่เรียนรู้อะไรเลย เอาแต่สนุกและหมกมุ่นแต่เรื่องการจีบผุ้หญิง เห็นว่าเป็นของเท่ห์ แต่ก็ยังดี ที่ไม่เคยล่วงเกินใคร ไม่เคยจับมือใคร ถ้าใช้โอกาสนั้นมีความสัมพันธ์กับใครคงเป็นบาปอย่างใหญ่หลวง

ช่วงเรียนไปทำงานไป ช่วงนี้ถือเป็นการเรียนรู้อย่างแท้จริง ตั้งใจเรียนไม่วอกแวก เรียนสนุก ทำงานสนุก มีความสุขในการเรียน มีความสุขในการทำงาน มีแรงบันดาลใจสูง สมองมีแต่เรียนกับงาน อดทน ขยัน ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีคุณค่ามาก เป็นช่วงของการให้ ให้ผู้อื่นและให้ตัวเอง คิดถึงคนอื่น คิดถึงตัวเอง ทุกอย่างดีหมด ได้เรียนสิ่งที่ชอบ ได้ทำงาน ที่ใจรัก มีรายได้จากการทำงานของตัวเอง และ ช่วยแบ่งเบาภาระของคุณพ่อคุณแม่

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

ขอแนะนำว่าหลังจากอ่านบทความนี้แล้ว ขอให้เข้าไปอ่าน บทความ "กรณีศึกษาทัวร์รอแยล" ตาม link ข้างล่างจะทำให้เข้าใจบทความตอนที่ ๓ และตอนที่ ๕ ที่จะตามในเร็วๆนี้

http://www.gotoknow.org/dashboard/home#/posts/435529

เขียนใน GotoKnow
 โดย ชาญโชติ
 ใน บทความของ ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท
 
Home > Articles > บทความของ ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท > ประสบการณ์ชีวิตของ ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท ตอน ๔ "วัยรุ่น เรียนรัก"

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5606
Content : 3049
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8602124

facebook

Twitter


บทความเก่า