Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Home > Articles > ท่องเที่ยว > เที่ยวสวิส ๒

เที่ยวสวิส ๒

พิมพ์ PDF

เราเดินทางโดยการบินไทย TG 970 ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา ๐.๔๐ น. ของวันที่ ๙ พ.ค. ๕๖

เราได้ที่นั่ง 17 AB ซึ่งเป็นที่นั่งหลังสุดของชั้นธุรกิจห้องแรกแต่ยังมีชั้นธุรกิจห้องหลังอีกด้วยเครื่องบิน Airbus A 340-600  เราอดกินอาหารที่เสิร์พตอนตีหนึ่งครึ่งไม่ได้เพราะรู้ว่าอร่อยผมกินเนื้อเนื้อลูกวัวปรุงแบบซูริกแกล้มไวน์แดง Pinot Noir อร่อยมาก สาวน้อยกินปลากินไม่หมดจะเอามายกให้ผมช่วยกินผมยอมแพ้

เราเข้านอนตีสองครึ่งรวมแล้วได้นอนราวๆ ๕ ชั่วโมง แล้วตื่นมาดูหนังเรื่อง Life of Pi ซึ่งแสดงดีจริงๆผมชอบคำคมของพระเอกตอนอายุวัยกลางคนที่กล่าวว่า Faith has many rooms and floors คือพระเอกเป็นคนจิตใจดีมีเมตตา  ตั้งแต่เป็นเด็ก จากการอบรมของแม่  เขานับถือ ๓ ศาสนา  และชอบคติ  Don't lose hopeตอนที่พระเอกเรือแตกอยู่ในเรือกับเสือเบงกอล ๑ ตัว

จบแล้วดูเรื่อง Ann Karenina ได้อีกนิดหน่อยผมชอบที่เพลงเพราะมากและเครื่องแต่งกายงดงามรวมทั้งได้เรียนรู้ชีวิตคนในรัสเซียสมัยโบราณ

อาหารเช้าผมขอเนยแข็งและเนื้อเย็นแต่หมดจึงกินไส้กรอกเนื้อลูกวัวเบคอนและไข่กวนซึ่งก็อร่อย

ใกล้ถึงซูริกบินผ่านเทือกเขาที่ยอดมีหิมะขาวโพลนและเมฆมากเรานั่งที่นั่งด้านซ้ายมือ 17AB จึงได้เห็นวิวยอดเขาหิมะที่แดดส่องสวยงามมากพอเครื่องบินจะลงแดดร่มแต่อากาศใสดี

ตอนเครื่องบินเข้าเทียบทางเชื่อมปีกไปสะกิดเข้ากับรถขนสัมภาระโดนเครื่องยนต์ตัวที่๔  ต้องรอบนเครื่องครู่หนึ่งและเมื่อลงมารับกระเป๋าก็ต้องรอนานกว่าปกติเป็นครั้งแรกที่ผมเจอเหตุการณ์แบบนี้

ที่สนามบินเราถามทางไปสถานีรถไฟไปหาที่ขายตั๋วเพื่อ validate ตั๋วSwissPassเขาต้องการพาสปอร์ตไปยืนยันเดี๋ยวเดียวก็เรียบร้อยพร้อมกับแนะนำว่าไปเบิร์นที่ชานชาลา ๔  ออกเวลา ๘.๔๐ น.

รถไฟชั้น ๒ คนแน่นแต่ลงที่ซูริกเกือบหมดแล้วมีคนขึ้นมาใหม่ดูสถานการณ์วันนี้ผมคิดว่าหากเราซื้อตั๋วชั้น ๑ จะดีกว่า(แต่ความคิดนี้เกิดขึ้นชั่วครู่หลังจากไปเที่ยวจนครบ ๑ สัปดาห์ก็สรุปว่าซื้อตั๋วชั้น ๒ ดีกว่าประหยัดเงินและสดวกสบายเพียงพอแล้ว)  จากซูริกรถไฟแล่นรวดเดียวถึงเบิร์นโดยไม่หยุดที่ไหนเลยเพราะนี่เป็นรถ IC - Intercity แล่นระหว่างเมืองระหว่างทางวิวสีเขียวของต้นไม้และหญ้าบางที่ก็มีดอกหญ้าสีเหลืองเต็มทุ่งสวยงามบางที่เป็นแปลงต้นRapeseedสีเหลืองเข้มไม่มีวิวยอดเขาหิมะคลุมในรถไฟสาวน้อยบอกว่าไม่เห็นหนาวเลยตอนเครื่องบินจะลงกัปตันประกาศว่าอุณหภูมิ ๑๕ องศาเซลเซียสและฝนตกที่จริงสาวน้อยเขาตรวจสอบพยากาณ์อากาศรู้มาก่อนแล้วว่าวันนี้ที่เบิร์นฝนตก

ในเวลา ๑ ชั่วโมงรถไฟแล่นมุดอุโมงค์หลายครั้งสวิสเป็นประเทศภูเขาจึงเก่งเรื่องเจาะภูเขาให้รถไฟผ่านเวลา ๑๐ น. รถไฟก็ถึงเบิร์นเราหาแผนที่ที่สถานีรถไฟไม่ได้เดิมกะว่าจะเดินลากกระเป๋าไปโรงแรมเองแต่คลำทางไม่ถูกจึงใช้แท็กซี่จ่ายค่าโดยสารไป ๑๔ ฟรังก์เรามาพบว่าที่จริงโรงแรมเบสเวสเทิร์นคือโรงแรมเบิร์นนั่นเองป้ายชื่อด้านนอกเขียนว่า Bern Hotel แต่ด้านในบอกว่าเป็น Best Western Bern

โชคดีที่ห้องว่าง เราจึงไม่ต้องรอเวลา เช็คอิน ตามกำหนดคือ ๑๕.๐๐ น.  ผมอาบน้ำแล้วชวนสาวน้อยออกชมเมือง เบิร์น ทันที  รวมแล้วเราเที่ยวอยู่แถวเมืองเก่านั่นเอง   โดยเริ่มต้นเรานั่งรถรางป้ายเดียวไปด้านใต้ของเมือง ไปที่หมู่พิพิธภัณฑ์ ซึ่ง History Museum เขามีนิทรรศการพิเศษ Qin The Eternal Emperor and His Terra Cotta Warriorsคือจิ๋นซีฮ่องเต้ (259-210 BC) มาถึงเบิร์น  เราจึงเข้าไปชม โดยเสียค่าตั๋วและ audio guide คนละประมาณ ๑ พันบาท  เราได้รับคำบอกเล่าจากหนังสือนำเที่ยวว่าคนถือตั๋วสวิสพาส เข้าชมพิพิธภัณฑ์ฟรี  แต่นิทรรศการพิเศษอย่างนี้  ตั๋วสวิสพาส ไม่มีฤทธิ์  ผมชอบมาก แต่สาวน้อยไม่ชอบ  ถ้ามีเวลาผมอยู่ชมได้ทั้งวันหรือสองวัน

จิ๋นซีฮ่องเต้และเหล่าพลรบปฐพี ๘ พันนาย นอนสงบอยู่ใต้ดินกว่าสองพันปี จนชาวนากลุ่มหนึ่งบังเอิญไปขุดพบศีรษะของพลรบหนึ่งเข้าในปี ค.ศ. 1974  ดูรายละเอียดของนิทรรศการได้ที่ www.qin.ch/en/exhibition/catalogueผมชอบที่ทางการจีนเขาพัฒนาวิชาการขึ้นมาอนุรักษ์สินทรัพย์ล้ำค่าทางประวัติศาสตร์นี้อย่างเอาจริงเอาจังมากเราได้เห็นผลงานวิจัยทำให้ทราบว่าสภาพของทหารดินเผาตอนสร้างเสร็จสวยงามอลังการ์คล้ายคนจริงๆอย่างไรโดยเฉพาะสีของเสื้อผ้าที่ฉูดฉาดงดงาม

ผมชอบที่ทางสวิสเขามีคำอธิบายเป็นวิชาการดีมาก  แต่ตอนนั้นสาวน้อยไม่ค่อยสบาย  ผมจึงต้องชมแบบรีบๆ  โดยที่มีคนเข้าชมแน่น  เขามีโปสเตอร์โฆษณานิทรรศการนี้ทั่วเมือง

ที่จริงมีอีกหลายพิพิธภัณฑ์ ที่ผมอยากเข้าชม  แต่สาวน้อยไม่สนใจ ผมจึงเอาใจเมีย  เพราะมาคราวนี้เป้าหมายคือมาพักผ่อนฮันนีมูน แบบคนแก่ใกล้ลาจากกัน

จากนั้นเราไปนั่งพักผ่อนให้สาวน้อยฟื้นแรง ที่สวนเล็กๆ หน้าพิพิธภัณฑ์  ผมกินแซนวิชที่สาวน้อยทำมาให้  สาวน้อยไปซื้อไอศครีมเนสเล่ รสกาแฟมากิน กินแล้วติดใจ  และมีแรงขึ้นทันใด  แล้วเราเดินสวนทางรถรางที่นั่งมาเมื่อเช้า  เพื่อไปที่สะพานข้ามแม่น้ำอาเรอ  เพราะรู้แล้วว่าระยะทางใกล้นิดเดียว  เห็นทางเดินข้างแม่น้ำข้างล่างน่าสนใจ  ถามคนสวิสเขาบอกว่าลงไปเดินได้  ทางเดินเป็นธรรมชาติ มีต้นไม้ใหญ่และดอกไม้ สวยงามและให้ความสดชื่นมาก  ช่วงนี้จึงเป็นไฮไล้ท์ของผม  แต่สาวน้อยปวดขา เพราะข้อเข่าข้างหนึ่งเสื่อม  จึงต้องใช้สามีเป็นไม้เท้าเป็นระยะๆ

วันนี้โชคดีที่ฝนไม่ตก มีตกลงมาแบบน้ำค้างในตอนเย็น

เราเดินมาหาทางนั่งรถไปหาตลาดชาวนา แต่หาไม่พบ  จึงไปเดินแถวสถานีรถไฟ  แล้วคลำทางกลับโรงแรม เพื่อพักผ่อน  และฉลองวันครบรอบแต่งงาน ๔๔​ปี ด้วยมาม่าปาร์ตี้

ตอนจองโรงแรมเราระบุว่าเป็นห้องเตียงใหญ่  พอนอนจริงจึงรู้ว่าเขาเอาเตียงเล็ก ๒ เตียงมาต่อกัน ไม่ใช่เตียงใหญ่จริงๆ  และบริการ Wifiแย่มาก หลุดอยู่ตลอดเวลา  เป็นจุดอ่อนที่สุดของโรงแรมนี้  แต่บริการอื่นๆ ดี  อาหารเช้าดี แต่ไม่มีผลไม้  แถมมีนกร้องขับกล่อมด้วย แม้จะอยู่กลางเมือง

 

คืนวันที่ ๙ พ.ค. ๕๖ เราเข้านอนตั้งแต่สองทุ่ม  ผมนอนรวดเดียว ๗ ชั่วโมงด้วยความช่วยเหลือของยานอนหลับ Lorazepam 0.5 mg.  ตื่นตีสามพอดี

ตื่นขึ้นมาก็เจอข่าวร้าย คือฝนตกหนักในขณะนั้น  และพยากรณ์อากาศบอกว่ามีฝนไม่หนักในวันที่ ๑๐  แต่จะมีฝนติดต่อกันไปอีกหลายวัน

พอ ๖.๓๐ น. ก็ลงไปกินอาหารเช้า ซึ่งอุดมสมบูรณ์และอร่อย คุ้มกับราคาคนละ ๑๘ ฟรังก์  เสียแต่ไม่มีผลไม้  ตลอดเวลา ๔๐ นาทีที่เรากินอาหารเช้า มีเรา ๒ คนเท่านั้นในร้านอาหารกว้างใหญ่

ฝ่าสายฝน ไปขึ้นรถรางเบอร์ ๑๐ ที่ป้าย Zytglogge ไปสถานีรถไฟ ใช้เวลารวม ๑๐ นาที  เราเริ่มคุ้นสถานที่ เล็งร้านที่จะฝากปากท้องได้หลายร้านเช่น Migros, COOP  สะดวกมาก  แล้วไปดูป้ายใหญ่บอกเวลารถออก  พร้อมทั้งหยิบเอกสารบอกเวลารถเข้าออกจากเบิร์น เล่มเล็ก เอาไว้เป็นคู่มือเดินทาง  ตอนแรกป้ายยังไม่ถึงขบวนรถที่จะออกเวลา ๘.๐๐ น. ไป ลูเซิร์น ที่เราเล็งไว้  สักครู่ป้ายก็บอกว่า ขึ้นที่ชานชาลา ๑๐

เราเดินไปนั่งสังเกตการณ์ที่ชานชาลา ๑๐ เวลาประมาณ ๗.๓๕ น.  พบว่า มีขบวนรถเข้ามาหลายขบวน  เราหลงไปนั่งที่เก้าอี้สำหรับคนมานั่งสูบบุหรี่  จึงสังเกตเห็นป้ายบอกบริเวณสูบบุหรี่ตรงม้านั่งทุกตัวที่เห็นในชานชาลา  แปลกมาก ที่เขาเอื้อเฟื้อที่นั่งเฉพาะคนสูบบุหรี่  มิน่า ผมจึงสังเกตเห็นคนสูบบุหรี่มากในสวิส

วันนี้นั่งรถไฟชั้น ๒ อย่างสุโข คือเราสองคนนั่งครองที่นั่ง ๔ คน  และส่วนใหญ่ผู้โดยสารคนเดียวก็ครองที่นั่ง ๔ คน  เส้นทางระหว่างเบิร์นกับลูเซิร์นก็เหมือนเมื่อวาน คือเป็นวิวทุ่งหญ้าและชนบทสลับกับเมือง

ลงรถไฟที่สถานีลูเซิร์นเดินผ่าน i เราเข้าไปถาม  ได้คำแนะนำที่ยอดเยี่ยมรวบรัดเพื่อให้เราทันเรือเที่ยว 9.12 น.  ซึ่งเราก็ทันเฉียดฉิว  ได้ล่องเรือในทะเลสาบลูเซิร์นท่ามกลางหมอกและสายฝน  วิวสวยไปอีกแบบ  และผู้โดยสารบางตา ทั้งลำในชั้นสองสัก ๒๐ คนเท่านั้นเรือลำนี้ระวางบรรทุก ๓๕๐ คน  แต่เช้านี้ผู้โดยสารไม่เกิน ๓๕ คนในแต่ละช่วง  คือมีผู้โดยสารขึ้นลงตามท่าที่จอดไปเรื่อยๆ  เป้าหมายของเราคือ Vitznau

จากท่าเรือ วิสเนา มีป้ายบอกทางไปสถานีรถไฟขึ้นเขา Rigi เป็นรถสีแดงโบกี้เดียว  ว่าเป็นรถไฟที่ชัน จึงต้องมีฟันเฟืองลากรถขึ้นลง  ไปพบคนไทยแม่ลูกจากพัทยา ลูกสาวเป็นหมออยู่ที่ รพ. บางละมุง ชื่อ พญ. วันนาวี  มาเที่ยวกัน ๒ คน พักที่ ลูเซิร์น

ระหว่างทางทั้งฝนตก ทั้งหมอกลงจัด เมื่อไปถึง Rigi Kulm ฝนตกหนัก หมอกหนา  และอากาศหนาวมาก  เราจึงขึ้นรถไฟสีฟ้ากลับลงอีกทางหนึ่ง ไปยัง อาร์ธ - โกลเดา (Arth-Goldau)  บนรถมีผู้โดยสารเพียง ๓ คน  ระหว่างทางผมไปขอถ่ายรูปที่กระจกหน้ารถ เพราะกระจกข้างรถฝ้าหมด  โชเฟอร์ใจดี ช่วยปัดน้ำฝนให้ผมถ่ายรูปหลายครั้ง  จนถึงที่หนึ่งเขาหยุดรถให้ผมเอากระจกข้างลง ถ่ายรูปน้ำตก  ดังนั้นเมื่อถึงปลายทางที่ โกลเดา ผมจึงเดินไป ดังเก้เชิน (Danke Schoen) ขอบคุณมากครับ กับเขา  เขาตอบว่า Bitte Schoen ยินดีมากครับ

ที่สถานีโกลเดา มีอุโมงค์ลอดถนนไปยังสถานี  พอดีกับรถไปลูเซิร์นกำลังจะมาพอดี  ได้นั่งกินอาหารเที่ยงที่สาวน้อยเตรียมมาบนรถไฟอย่างสบายใจ  ระหว่างทางเราผ่านบริเวณริมทะเลสาบซุก (Zugersee) ที่สวยงามยิ่ง  เราไปถึงลูเซิร์น ก่อนรถ Golden Pass Line ไป  Interlaken Ost จะออกถึง ๒๕ นาที  จึงมีโอกาสเลือกที่นั่งที่วิวจะสวยงามมาก

เราลงที่ Brienz ต่อรถ Postbus ไปชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง (Swiss Open Air Museum for Rural Culture) Ballenberg ท่ามกลางสายฝนและความหนาว  ค่าเข้าชมฟรีจากตั๋ว สวิสพาส  ซื้อ Guidebook 2 ฟรังก์  ดูได้นิดเดียวก็กลับมารอรถเมล์กลับไปสถานีรถไฟ Brienz  เพราะสาวน้อยหนาวและปวดขา   จับรถไป Interlaken Ost  แล้วต่อ IR เวลา 17.00 น. ไปเบิร์น ถึง 17.52 น.  เป็น ๑ วันที่ได้เที่ยวสนุกมาก  ที่สถานีรถไฟ เบิร์น เราซื้อสลัด และผลไม้มากินกับมาม่า เป็นอาหารเย็น

ผมชักติดใจนั่งรถไฟสวิส เพราะสะดวก  ไม่ต้องรอนาน และตรงเวลา   ห้องน้ำก็สะอาด รวมทั้งรถไฟสะอาดทั้งหมด  แต่วันนี้ฝนตกเกือบทั้งวัน

วิจารณ์ พานิช

๑๐ พ.ค. ๕๖  ปรับปรุง ๑๙ พ.ค. ๕๖

คัดลอกจาก http://www.gotoknow.org/posts/539924http://www.gotoknow.org/posts/539958

 
Home > Articles > ท่องเที่ยว > เที่ยวสวิส ๒

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5607
Content : 3052
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8610876

facebook

Twitter


บทความเก่า