Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Thaiihdc.org

เรียนโดยลงมือทำ : ๖. AAR นักเรียนนักทำงาน และสร้างสรรค์

พิมพ์ PDF

บันทึกชุดเรียนโดยลงมือทำ รวม ๖ ตอนนี้ ตีความจากหนังสือ Who Owns the Learning? : Preparing Students for Success in the Digital Age โดย Alan November ซึ่งผมตีความว่า เป็นเรื่องการใช้ digital technology ช่วยให้เกิด active learning หลากหลายรูปแบบ    ทำให้เปลี่ยนแปลงบทบาทของนักเรียน เป็นผู้ทำงานสร้างสรรค์ หรือสร้างความรู้เพื่อการเรียนรู้ของตน   ครูเปลี่ยนไปทำหน้าที่ โค้ช หรือ “คุณอำนวย” (learning facilitator)

ตอนที่ ๖ ซึ่งเป็นตอนจบ    เป็นทบทวนสะท้อนความคิด (reflection)  หรือ AAR  หรือโยนิโสมนสิการ    ว่าหนังสือเล่มนี้บอกอะไรเราบ้าง

หัวใจของเรื่องที่ผู้เขียน คือ Alan November สื่อคือ    ในยุคศตวรรษที่ ๒๑ นี้ นักเรียนต้องย้อนกลับไป เรียนเหมือนสมัยที่สังคมยังเป็นสังคมเกษตรกรรม คือเด็กเรียนจากการทำงาน    เพื่อให้การเรียนรู้เป็น กระบวนการเรียนที่จริงแท้(authentic learning)    เกิดผลการเรียนแบบรู้จริง(mastery learning)    โดยเด็กสมัยก่อนเรียนโดยช่วยพ่อแม่ทำฟาร์ม    Alan November จึงเสนอโมเดลการเรียนรู้แบบทำฟาร์มสมัยใหม่   ที่เขาเรียก ดิจิตัล ฟาร์ม    คือใช้โลกดิจิตัล เป็นเครื่องช่วยให้นักเรียนทำงานเพื่อเรียนรู้

จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้คือ ชี้แนวทางทำงานที่หลากหลายให้นักเรียนจัดแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบ ทำงานเป็นทีม    เพื่อเอื้อเฟื้อช่วยเหลือการเรียนรู้ในหมู่เพื่อนและเอื้อเฟื้อออกไปภายนอก กว้างขวางออกสู่โลกด้วย    เป็นการบ่มเพาะนิสัยและทักษะความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่  และการเป็นพลเมืองโลก

และแน่นอนว่า การเข้าไปฝึกฝนการใช้เทคโนโลยี ไอซีที  และใช้ตัวสารสนเทศที่ค้นได้ อย่างชาญฉลาดและรู้เท่าทัน    จะเป็นการวางพื้นฐานชีวิตที่สำคัญในอนาคต ที่ระบบเทคโนโลยีการสื่อสาร และโซเชี่ยลมีเดียจะก้าวหน้าไปในลักษณะที่คาดไม่ถึง    พื้นความรู้นี้จะช่วยสร้างทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต ให้แก่นักเรียน

นี่คืออีกรูปแบบหนึ่งของการเรียนรู้ ที่จะช่วยส่งเสริมให้นักเรียนบรรลุทักษะ ๓ร  ๑ว   คือทักษะการสร้างแรงบันดาลใจ  การเรียนรู้  ความร่วมมือ  การมีวินัยในตน    รวมทั้งทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ทั้งชุด

จุดอ่อนของหนังสือเล่มนี้สำหรับสังคมไทยคือ เขาเน้นที่การใช้เทคโนโลยี ไอซีที มากเกินไป    ละเลยเรื่องราวในชีวิตจริงที่นักเรียนเข้าไปทำงานได้มากมาย    เช่น (๑) เข้าไปดูแลความสะอาดเป็นระเบียบ เรียบร้อย ของโรงเรียน ในสารพัดแง่มุม    เพื่อช่วยกันทำให้เป็นโรงเรียนที่ร่มรื่นน่าอยู่น่าเรียน    ความเป็นระเบียบ เรียบร้อย และให้ความสุขนี้ตีความได้กว้างขวางมาก รวมทั้งสภาพบรรยากาศที่ปลอดการข่มเหงรังแก    มีที่เล่นออกกำลังกาย มีที่ให้ฝึกคุณลักษณะ (พหุปัญญา) เด่นพิเศษของแต่ละคน   (๒) เข้าเป็นทีมอาสาพัฒนา ชุมชนที่โรงเรียนตั้งอยู่ หรือตัวนักเรียนอาศัยอยู่    นี่ก็มีประเด็นให้ทำเพื่อการเรียนรู้มากมาย เช่น การจัดการขยะ  การดูแลสภาพแวดล้อม  การดูแลคนชรา ผู้พิการ ผู้ป่วย    การเป็นพี่เลี้ยงเด็กเล็ก   การจัดการป่าชุมชน  เป็นต้น

 

 

วิจารณ์ พานิช

๑ ม.ค. ๕๗

 

 

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 19:22 น.
 

KM วันละคำ : ๖๒๔. วิธีเก็บเกี่ยว Tacit Knowledge

พิมพ์ PDF

วันที่ ๑๒ ก.พ. ๕๗ คุณหมอสมศักดิ์ชวนทีมเขียนหนังสือ Tacit Knowledge ที่ร่วมกันเขียนร่างแรกเสร็จ มาร่วมประชุม เพื่อ สุนทรียสนทนากัน หาทางใช้ Tacit Knowledge ของแต่ละคนทำความเข้าใจ Tacit Knowledge เพื่อเขียนออกมาเป็นหนังสือ

การอ่านต้นร่างหนังสือเล่มนี้ ทำให้ผมตระหนักว่า จริงๆ แล้วคนเราใช้ Tacit Knowledge มาก    ใช้อยู่ทุกขณะจิต    โดยไม่รู้ตัว    ทั้งใช้ผิดๆ และใช้อย่างถูกต้อง    ทั้งใช้แบบก่ออกุศลกรรม และก่อกุศลกรรม

แต่ที่ผมคิดว่ามีพลังลี้ลับ ที่เรายังไม่ค่อยได้จับมาใช้ คือ Collective Tacit Knowledge    และ Dynamic Tacit Knowledge    โดยที่ TK สองบริบทนี้เกี่ยวข้องหรือซ้อนทับกัน

TK ของปัจเจก มีพลังสู้ของทีมงานไม่ได้เลย     เพราะของทีมงาน เกิดการหมุนเกลียวความรู้ เพื่อยกระดับความรู้ ได้ง่าย    ซึ่งก็คือ ใช้พลังของความเป็นพลวัต (Dynamism) ของการทำงานร่วมกัน

ถามว่า ใช้ “เคียว” อะไร เกี่ยวข้าว TK    และเอาบรรจุลงภาชนะอะไร

“เคียว” คือ พื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้  จิตใจแบ่งปัน  ความเอื้ออาทรไว้วางใจต่อกัน  รับฟังกัน  ชื่นชมยินดีในความสำเร็จของกันและกัน  รวมทั้งการมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ร่วมกัน

ภาชนะใส่ TK คืองาน การทำงานเป็นทีม การเรียนรู้ร่วมกันผ่านการปฏิบัติ  ผลงานที่อาจเป็นผลิตภัณฑ์ หรือกระบวนการทำงานที่ได้รับการยกระดับขึ้น  และตัวผู้ปฏิบัติงานทุกคน

 

 

วิจารณ์ พานิช

๑๒ ก.พ. ๕๗

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 19:32 น.
 

ชีวิตที่พอเพียง : ๒๑๐๔. ทบทวนตนเองในช่วงวิกฤติการเมืองไทย

พิมพ์ PDF

เมื่อเกิดเหตุการณ์ร่าง พรบ. นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย    ผมเริ่มเขียน บล็อก คัดค้าน เมื่อวันที่ ๓๑ ต.ค. ๕๗ ที่นี่ เป็นเวลาเกือบ ๓ เดือน

จุดยืนของผมคือ ต่อต้านคอรัปชั่น    โดยอาศัยหลักฐานจากโครงการรับจำนำข้าว ที่ผมเขียน บล็อก คัดค้านเปิดโปงมาตลอด     แต่ก็ไม่รู้ว่าวิธีโกงกินเขาทำกันอย่างไร

เมื่อวันที่ ๒๕ ม.ค. ๕๖ ผู้ใหญ่ที่คนรู้จักกันทั้งเมือง และเคยทำงานรับใช้รัฐบาลทักษิณมาก่อน    บอกผมว่า วิธีโกงกินง่ายนิดเดียว คือรัฐบาลขายข้าวสารผ่านบริษัทของ เจ๊ D    ในราคาต่ำ เช่นสมมติว่า รัฐบาลขายให้ ก.ก. ละ ๑๐ บาท    บริษัทเจ๊ D เอาไปขายต่อ ๑๓ บาท    ท่านบอกว่าลองคูณดูเถิด ว่าผลประโยชน์มันมากแค่ไหน

วิกฤติการเมืองครั้งนี้ ก่อความสูญเสียทางเศรษฐกิจน่าจะเป็นแสนล้านบาท     แต่เราเห็นแล้วว่า รัฐบาลทักษิณที่มียิ่งลักษณ์เป็นหุ่นเชิด ได้ก่อความเสียหายมากกว่านี้นับสิบเท่า     โดยที่การชุมนุมประท้วง เมื่อเลิกรา ประเทศจะได้รับผลประโยชน์กลับคืนมามากกว่าที่สูญเสีย    แต่ผลลบจากรัฐบาลที่ชั่วร้ายของทักษิณ จะยังก่อผลร้ายต่อเนื่องอีกยาวนานต่อสังคมไทย

สำหรับผม การชุมนุมประท้วงในช่วง ๓ เดือนที่ผ่านมา     ได้เปิดเผยความจริงที่คนไทยไม่รู้ออกมา อย่างต่อเนื่อง    ว่าระบอบทักษิณได้ฉ้อโกงประเทศไปมากเพียงใด มีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ     เชื่อมโยงออกไปยังสื่อมวลชนนอกประเทศ

ทำให้ผมได้เรียนรู้เท่าทันสื่อ เพิ่มขึ้นมากมาย    ได้รู้ว่าเจ้าของที่แท้จริงของมติชนเป็นใคร    ได้รู้วิธี “ซื้อ” สื่อต่างประเทศ ที่ถือกันว่าเป็นสื่อคุณภาพ    ได้เข้าใจว่า เงินบวกความฉลาดแกมโกงมันซื้อได้ทุกอย่างที่ขวางหน้า    รวมทั้งระบบถ่วงดุลอำนาจทางการเมืองของประเทศไทย

ผมได้รู้จัก moral integrity ของคน

 

 

วิจารณ์ พานิช

๒๗ ม.ค. ๕๗

 

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 15:26 น.
 

ข่าวดี เรื่องการลงทุนวิจัยของประเทศในภาคเอกชน

พิมพ์ PDF

ข่าวจาก สวทน. ข่าวนี้ ทำให้ผมเริ่มเห็นความหวัง ในเรื่องการยกระดับประเทศไทยออกจาก middle income trap    เพราะในปี ๒๕๕๔ ภาคเอกชนไทยลงทุนวิจัยถึง ๒๑,๐๐๐ ล้านบาท    เพิ่มจากของปี ๕๓ และ ๕๒ กว่าเท่าตัว    และในปี ๕๔ นั้น ภาคเอกชนไทยลงทุนวิจัยมากกว่าภาครัฐ    คือภาคเอกชนลงทุนร้อยละ ๕๒ ของทั้งประเทศ

 

เมื่อภาคเอกชนขึ้นมาเป็นฝ่ายนำในการวิจัย    สิ่งที่มหาวิทยาลัยจะต้องเร่ง คือ ผลิตนักวิจัยฝีมือดีเพิ่มขึ้น อย่างรวดเร็ว

 

โครงการผลิตนักวิจัยที่น่าจับตามองคือ พวอ. ของ สกว. เพื่อผลิตนักวิจัยให้แก่ภาคอุตสาหกรรม

 

 

วิจารณ์ พานิช

๒๒ ม.ค. ๕๗

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 17:03 น.
 

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

พิมพ์ PDF

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)มีมติแจ้งข้อกล่าวหาต่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี กรณีทุจริตการขายข้าวรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ซึ่งเกี่ยวข้องกับโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล นัดรับทราบข้อกล่าวหา 27 กุมภาพันธ์ 2557

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติให้ทำหนังสือแจ้งไปยัง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้รับทราบข้อกล่าวหากรณีทุจริตการขายข้าวรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล โดยเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 

ทั้งนี้ ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ ในฐานะโฆษกคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงว่า ตามที่ประธานวุฒิสภาให้ส่งคำร้องขอให้วุฒิสภาถอดถอน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากมีพฤติการณ์ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย และมีเหตุควรสงสัยว่าปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าว โดยเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้น 

ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติให้ไต่สวนข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าวมาระยะหนึ่งแล้ว ปรากฏว่ามีพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคลและเอกสารยืนยันชัดเจนว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ได้รับหนังสือจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ทักท้วงว่าโครงการดังกล่าวจะก่อให้เกิดปัญหาทุจริตอย่างมหาศาล โดยเฉพาะการทุจริตทุกขั้นตอนและทุกกระบวนการในการดำเนินการ 

อีกทั้ง นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังทราบเรื่องทุจริตในการดำเนินโครงการจากการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร และได้รับรายงานว่าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกว่าเสียหายถึง 2 แสนล้านบาท และชาวนาที่เข้าโครงการก็ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ประกอบกับมีหนังสือจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินให้ทบทวนและยุติโครงการดังกล่าวแล้วด้วย 

แต่แทนที่จะระงับยับยั้งโครงการตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินฯ มาตรา 11 (1) กลับยืนยันที่จะดำเนินโครงการต่อไป จึงแสดงถึงเจตนาของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ที่จะปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการหรือโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และเป็นการจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 178 อันเป็นเหตุแห่งการถอดถอนออกจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 270 คณะกรรมการ ป.ป.ช. 

ป.ป.ช. จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้มีหนังสือเรียก นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกกล่าวหามาพบและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบตามระเบียบไต่สวนการทุจริต ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 14.00 น.

คัดลอกจาก facebook ของคุณพิชาญ พงศ์พิทักษ์

แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 16:57 น.
 


หน้า 386 จาก 558
Home

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5607
Content : 3052
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8610518

facebook

Twitter


บทความเก่า