คนแก่เที่ยวสวิส ๗

วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2013 เวลา 00:00 น. ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท บทความ - ท่องเที่ยว
พิมพ์

โรงแรม Alpha - Palmiersอยู่สบายมากเช้าวันที่ ๑๔ พ.ค. ๕๖เราตื่นตีห้าตามนาฬิกาปลุกอาบน้ำแต่งตัวไปเช็คเอ้าท์และขอให้เรียกแท็กซี่ไปสถานีรถไฟ โชเฟอร์หัวเราะเพราะคนเขาเดินไปใกล้นิดเดียวแต่คนแก่ขาเจ็บเดินไม่ไหว เมื่อคืนสาวน้อยซ้อมเดินด้วยไม้เท้าจนชักจะใช้เป็น

ไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้กับล็อกเก้อร์แล้วหาขบวนรถที่จะไปมองเทรอซ์ได้ขบวน IC ออก ๖.๑๗ น.  เนื่องจากหน้าตาเราเป็นนักท่องเที่ยวเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วจะถามเสมอว่าไปไหนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ผิดขบวน เมื่อเราบอกว่าไปมองเทรอซ์เขาก็บอกว่า next stop

ที่สถานีมองเทรอซ์นั่งแท็กซี่ไปฝากกระเป๋าที่โรงแรม Royal Plaza โดยบอกว่าเราเป็น Thai Team (ซึ่งมาประชุม Coordinators ของ PMAC 2014)  ได้รับบริการดีมาก เดี๋ยวเดียวก็นั่งรถกลับโดยเขาคิดค่าโดยสารคูณสองรวม ๒๐ ฟรังก์ระยะทางไม่ถึงก.ม.

เรานั่งรถ IR เที่ยว 7.06 น.ไปเปลี่ยนรถที่Vispเพื่อเดินทางไปเมือง Zermatt ระหว่างทางมีการเกษตรที่สูงทำให้ผมนึกว่าชาวสวิสเป็น "ชาวเขา" ที่แม้มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูงด้านอุตสาหกรรมแต่เขาก็ไม่ทิ้งเกษตรกรรม เดาว่าไม่มีปัญหาคนทิ่งถิ้นทิ้งลูกไว้กับปู่ยาตายายในชนบทแบบบ้านเรา

บ้านเรือนทางใต้นี้แตกต่างจากเมื่อวานที่มักเป็นอาคารไม้แต่ที่นี่เป็นตึกคอนกรีตสูงหลายชั้นเมื่อวานมีทุ่งหญ้าเลี้ยงวัวตามไหล่เขา ที่นี่ปลูกองุ่นและผลไม้อื่นๆ

ถึงVisp ๘.๒๕ น.จนท. รถไฟถามว่าจะไปไหนสาวน้อยบอก Zermatt เขาบอกให้ไปที่ชานชาลา ๓  ต่อรถ R (Regio) ที่ชานชาลา ๓ ออก ๘.๔๓ น.ไป Zermatt  ซึ่งเป็นเส้นทางที่ทับกับGlacialExpress

สังเกตว่าช่วงนี้บ้านเริ่มเป็นบ้านไม้มากขึ้นแบบเมื่อวาน และหลังคาก็นิยมมุงหินชนวนตามทางมีร่องรอยการทำป่าไม้และการก่อสร้าง

วันนี้แดดออกจ้าวิวสวยมากสาวน้อยรีบเอายา sun block ทาหน้าผมได้โอกาสใช้ด้วย โบกี้ชั้น ๒ ที่เรานั่งมี ๒๖ ที่มีผู้โดยสาร ๔ คนเท่านั้น

ที่สถานี St. Niklausสังเกตว่าบ้านเกือบทุกหลังมุงด้วยหินชนวนซึ่งมีทั้งชนิดหยาบและชนิดสวย

ที่ความสูง ๑,๒๙๐เมตรเริ่มเห็นหิมะที่พื้นที่สถานีTaesch 1,430 เมตรมีลำธารและ trekking path ขนานไปกับรางรถไฟสวยมาก

เมื่อถึง Zermatt (ความสูง ๑,๖๒๐เมตร) ไปซื่อตั๋วรถไฟไปGronergrat(ความสูง ๓,๐๘๙ เมตร) เพื่อไปชมวิวยอดเขา Matterhorn ซึ่งถือเป็นยอดเขาที่งดงามที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ เรามีตั๋วสวิสพาสส์ได้ลดครึ่งเหลือคนละ ๔๒ ฟรังก์ไปเที่ยว 10.24 น. พอรถไฟออกเลี้ยวโค้งยอดเขา Matterhorn ก็ปรากฎแก่สายตา  ตากล้องขยับตัวถ่ายรูปกันพรึ่บพรั่บ  ผมนั่งฝั่งที่ไม่ใช่ฝั่งยอด มัทเทอร์ฮอร์น  แต่ในที่สุดผมก็พบว่าตรงที่ยืน ติดกับที่คนแก่และคนพิการ ได้วิวสวยกว่า  ถึงGonergrat 10.57น.กลับเที่ยว 11.31 น.ถึงZermatt  12.15น.

ที่Gornergratแดดจ้าวิวสวยมากถ่ายรูป Matterhorn ได้ชัดเจนแต่พอเวลาผ่านไปก็เริ่มมีเมฆมาบังที่มุมหนึ่งของยอดเขา Matterhorn

ที่สถานี Zermatt ผมไปถามทางไปโรงแรม Simi ที่คนขายตั๋วรถไฟซึ่งทำหน้าที่ information center ไปในตัวเขาให้แผนที่เอาสีป้ายทางไปโรงแรมและแนะนำให้โทรศัพท์ไปตามเขามารับโดยเมืองนี้มีระบบแผงป้ายข้อมูลสถานที่สำคัญให้หมายเลขและใช้โทรศัพท์ติดต่อตามหมายเลขได้ใช้เวลา3-4 นาทีทางผู้จัดการโรงแรมขับรถไฟฟ้ามารับจริงๆแล้วเดินไปเอง ๕ นาทีก็ถึงแต่นี่สาวน้อยขาเดี้ยงยิ่งขึ้นจึงต้องอาศัยเขามารับ

ตอนนั้นมีคนมาถามเรื่องนั่งรถไฟกับนั่งรถกระเช้าขึ้นเขาเจ้าหน้าที่แนะนำให้ขึ้นรถไฟว่าความสูง๓ พันเมตรร่างกายจะพอทนได้แต่ขึ้นกระเช้าความสูง ๔ พันเมตรบางคนถึงกับไม่สบายเราจึงตัดสินใจไม่ขึ้นรถกระเช้าคิดว่าไปสัมผัสบรรยากาศที่Gornergratก็เพียงพอแล้ว

โรงแรม Simi ดีกว่าที่คิดดีกว่าโรงแรมเบิร์นและโรงแรมอัลฟ่าห้องกว้างกว่าและเฟอร์นิเจอร์เป็นไม้ให้ความรู้สึกสบายกว่านั่งพักในห้องและกินแซนวิชที่ซื้อจากร้าน COOP ข้างสถานีรถไฟจนชักมีเรี่ยวแรงสาวน้อยชวนออกไปเดินชมเมือง

เราไปชมซอยหมู่บ้านสมัยโบราณชื่อHinterdorfมียุ้งเก็บธัญพืชที่สร้างช่วงศตวรรษที่ ๑๕ - ๑๙  บางยุ้งอายุ ๒๐๐ ปีที่เสามีสถาปัตยกรรมกันหนูขึ้นยุ้งโดยใช้ก้อนหินแบนๆรองเสา

หลังจากนั้นไปชมMatterhorn Museumแสดงชีวิตของผู้คนในหมู่บ้านห่างไกลอย่าง Zermatt ในสมัยก่อนเป็นชนบทสุดๆและศาสนจักรเป็นกลไกหนึ่งให้ผู้คนอดทนกับสภาพชีวิตที่ยากลำบากได้จนในที่สุดกลายเป็นหมู่บ้านที่ใครๆอยากมาเที่ยวในยุคท่องเที่ยวอย่างปัจจุบันสาวน้อยไล่ให้ผมไปชมเพราะต้องเดินลงไปใต้ดินเขานั่งรออยู่ข้างนอกเพราะเดินไม่ไหวขาเจ็บเขารู้ว่าผมชอบดูพิพิธภัณฑ์

พิพิธภัณฑ์นี้ส่วนที่อยู่เหนือพื้นดินเฉพาะทางเข้าเท่านั้นนอกนั้นอยู่ใต้ดินผมมีตั๋วสวิสพาสส์เข้าชมฟรี

วันนี้อากาศดีมากไม่หนาวมากแดดจ้าตอนบ่ายสามโมงเศษป้ายบอกอุณหภูมิ 19 องศาเซลเซียส

โรงแรม Simi มีแฟ้มเอกสารสั้นๆ ๒ ภาษาคือเยอรมันกับอังกฤษแนะนำสถานที่ควรไปชมในหมู่บ้านรวมทั้งแนะนำเส้นทางเดิน trekking หลายเส้นทางสำหรับนักเดินที่ไม่สำบุกสำบันมากเป็นคำแนะนำพร้อมรูปสวยๆทำให้เห็นว่าสำหรับคนสวิสแซร์มัทคือเมืองตากอากาศพักผ่อนและออกกำลังผมถามเจ้าหน้าที่โรงแรมว่าเดือนไหนที่คนมาเที่ยวมากที่สุดเขาบอกว่ากรกฎาคมและสิงหาคมดูจากคนที่มากินอาหารเช้าวันที่ ๑๕ น่าจะมีแขกพักในวันที่ผมมาพักไม่เกิน ๒๐ คน

เช้าวันที่ ๑๕ พ.ค.๕๖ เราเปลี่ยนแผนเป็นออกสาย ๑๑ น. แล้วจับรถไฟกลับMontreuxเลยเพราะสภาพขาของสาวน้อยและเพราะเมื่อวานเราได้เห็นวิวที่ดีที่สุดตอนนั่งรถไฟขึ้นGornergratแล้วพอใจแล้วสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว ๗ วันในสวิสครั้งนี้และคิดว่าGlacierPassคนโดยสารมักนั่ง ๗ ๑/๒ ช.ม.ไปนอนที่ St. Moritz เลยนั่งพักผ่อนสบายๆไปทั้งวันแต่เราต้องการกลับMontreuxให้ถึงในตอนเย็นเพื่อประชุม PMAC 2014 Coordinators  meeting วันพรุ่งนี้

 

วิจารณ์ พานิช

๑๕ พ.ค. ๕๖

คัดลอกจาก http://www.gotoknow.org/posts/540672