บทความของอาจารย์วิจารณ์ พานิช

วันอาทิตย์ที่ 07 ตุลาคม 2012 เวลา 00:00 น. ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท บทความ - พัฒนาทุนมนุษย์
พิมพ์
การเรียนไม่ได้ขึ้นกับการคิดเชิงเหตุผลเท่า นั้น นศ. จะผูกพันกับการเรียนเมื่อเรียนอย่างเป็นองค์รวม คือ Cognitive learning (เมื่อ นศ. คิดอยู่กับเรื่องที่กำลังทำ), Affective learning (นศ. รู้สึกสนุก และพุ่งความสนใจ), และ Psychomotor learning (ลงมือทำกิจกรรม)

ครูเพื่อศิษย์ส่งเสริมให้ศิษย์สนุกกับการเรียน  : 19. เคล็ดลับส่งเสริมการเรียนอย่างเป็นองค์รวม (๒)

บันทึกชุดนี้ ได้จากการถอดความ ตีความ และสะท้อนความคิด    จากการอ่านหนังสือ Student Engagement Techniques : A Handbook for College Faculty เขียนโดย ศาสตราจารย์ Elizabeth F. Barkley ในตอนที่ ๑๙ นี้ ได้จากบทที่ ๑๑ ชื่อ Tips and Strategies to Promote Holistic Learning   โดยในตอนที่ ๑๘ ได้บันทึก คล. ๔๓ - ๔๘ ไปแล้ว    ในตอนที่ ๑๙ นี้จะเป็น คล. ๔๙ - ๕๐

การเรียนไม่ได้ขึ้นกับการคิดเชิงเหตุผลเท่านั้น   นศ. จะผูกพันกับการเรียนเมื่อเรียนอย่างเป็นองค์รวม   คือ Cognitive learning (เมื่อ นศ. คิดอยู่กับเรื่องที่กำลังทำ), Affective learning (นศ. รู้สึกสนุก และพุ่งความสนใจ), และ Psychomotor learning (ลงมือทำกิจกรรม)

 

คล. ๔๙  จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายด้วย

นศ. สมัยนี้นั่งนิ่งๆ นานๆ ไม่เก่ง   และได้บันทึกแนะนำการกิจกรรมละลายพฤติกรรม   กิจกรรมกลุ่มย่อย และกิจกรรมให้ นศ. เคลื่อนไหวไปแล้ว    ต่อไปนี้เป็น ๔ กิจกรรมเพิ่มเติม ที่เสนอให้นำไปปรับใช้

จนครบ

เขาบอกว่า กิจกรรมที่เปลี่ยนสภาพกลุ่มไปเรื่อยๆ เช่นนี้ ทำให้เกิดสภาพที่ นศ. ได้รับการปลุกให้ตื่นตัว

วิธีนี้เหมาะแก่การให้ นศ. เปลี่ยนอิริยาบท ในคาบการเรียนนานๆ

กิจกรรมเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อทำให้ นศ. ได้เรียนรู้ตามจริตของตน หรือของคนสมัยใหม่    ที่นั่งเรียนนานๆ ไม่เก่ง    ต้องการการเคลื่อนไหว การเปลี่ยนอิริยาบท และการสังสรรค์    หากนำมาใช้ใน นศ. ไทย ควรพิจารณาปรับให้เข้ากับวัฒนธรรม นศ. ไทย

 

คล. ๕๐  นำเสนอเอกสารรายวิชาแบบรูปภาพหรือกราฟฟิก

ปัญหาของ นศ. ปัจจุบันคือไม่ชอบอ่านตัวหนังสือยาวๆ    และมีการศึกษาในสหรัฐอเมริกา พบว่า นศ. จำนวนมากไม่ได้อ่านเอกสารรายวิชา    ทำให้ขาดข้อมูลประกอบการเรียนของตน    ดังนั้นจึงมีคนแนะนำให้เขียนเอกสารอธิบายรายวิชาเป็นตาราง หรือเป็นกราฟฟิก    ย่อลงในหน้าเดียว     เพื่อให้น่าอ่าน และดึงดูดจริตของ นศ. ในยุคปัจจุบัน

เขาให้ตัวอย่างการเขียนคำอธิบายรายวิชาชนชั้นทางสังคม เป็นแบบร้อยแก้ว  แบบเป็นตาราง  และแบบเป็นแผนผังหรือกราฟฟิกบอกความสัมพันธ์ของทฤษฎีที่เกี่ยวกับการเกิดและดำรงอยู่ของความไม่เท่าเทียมกันในสังคม    ซึ่งเมื่อผมพิจารณาแล้ว เห็นว่าวิธีนำเสนอทั้ง ๓ แบบ ช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน   คือหากมีทั้ง ๓ แบบ จะยิ่งช่วยเพิ่มความกระข่าง    แต่นี่คือความคิดของคนชอบอ่าน อ่านแล้วพิจารณา    หากต้องอนุโลมตามนิสัยของ นศ.  ก็น่าจะพิจารณาทดลองนำเสนอหลายแบบ แล้วให้ นศ. โหวด ว่าชอบแบบไหนมากที่สุด   เสนอแบบนี้ งานของครูเพิ่มขึ้น   แต่ก็อาจนำมาเป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยการเรียนการสอนได้

 

เป็นอันว่า ได้นำเสนอเคล็ดลับ ที่อาจารย์ใช้ดึงดูดความสนใจของ นศ. รวม ๕๐ เคล็ดลับครบถ้วนแล้ว    โดยผม AAR ว่า เคล็ดลับส่วนใหญ่ อยู่บนฐานของบุคลิกลักษณะของ นศ. สมัยใหม่   ที่ไม่เหมือนคนสมัยที่ครูเป็นเด็ก   คนเป็นครูต้องทำหน้าที่ครูแก่ศิษย์โดยรู้ใจ และเอาใจศิษย์    ไม่ใช่สอนตามใจครู

หากเน้นสอนตามใจครู    นศ. ก็จะรู้สึกไม่สนุก และขาดความสนใจ

วิจารณ์ พานิช

๖ ต.ค. ๕๕

 

· เลขที่บันทึก: 504719
· สร้าง: 06 ตุลาคม 2555 17:19 · แก้ไข: 06 ตุลาคม 2555 17:20
· ผู้อ่าน: 47 · ดอกไม้: 4 · ความเห็น: 2 · สร้าง: 1 วัน ที่แล้ว
· สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
บันทึกที่เกี่ยวข้อง