คนแก่มีคุณค่า

วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2013 เวลา 00:00 น. ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท บทความ - พัฒนาทุนมนุษย์
พิมพ์

แก่อย่างมีคุณค่า 
(จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหา โดย พระภาวนาวิริยคุณ)
Credit: http://www.facebook.com/photo.php?fbid=10151338885518381&set=pb.347037738380.-2207520000.1363516196&type=3&theater
คำถาม: หลวงพ่อคะ เราควรจะเตรียมตัวอย่างไร เพื่อให้ชีวิตในวัยแก่เฒ่าไม่เป็นคนที่น่าเบื่อสำหรับลูกหลานคะ?

คำตอบ: คนแก่มีอยู่ 2 ประเภท

ประเภทที่ 1 เรียกว่า แก่แดด แก่ลม คือเป็นประเภทที่ตลอดชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยสร้างความดีให้เป็นชิ้นเป็นอัน ทานก็ไม่ค่อยให้ ศีลก็ไม่ค่อยรักษา การสวดมนต์เจริญภาวนา หาความรู้ทางธรรมก็ไม่สนใจ มีชีวิตผ่านไปวันหนึ่งๆ อย่างไร้คุณค่า คนแก่ประเภทนี้ เป็นคนแก่ที่น่ารำคาญ ลูกหลานไม่อยากเข้าใกล้ และคนแก่ประเภทนี้อีกนั่นแหละ ที่ก่อให้เกิดปัญหาในครอบครัวขึ้นมาก เช่น ปัญหาแตกร้าวระหว่างแม่ผัวกับลูกสะใภ้ เป็นต้น

ประเภทที่ 2 เรียกว่า แก่บุญ แก่บารมี เป็นประเภทที่ตลอดชีวิตที่ผ่านมา นอกจากจะตั้งใจทำมาหากิน และสะสมทรัพย์สมบัติเตรียมไว้ใช้จ่ายในบั้นปลายชีวิต เพื่อจะได้ไม่รบกวนคนอื่น แล้วในด้านความประพฤติ กิริยามารยาทก็ปรับปรุงตัวเองตลอดมา โดยคิดว่าวันหนึ่งข้างหน้าเมื่อเราแก่ จะได้ไม่เป็นที่น่ารำคาญของลูกหลานในทางธรรมก็หมั่นศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา ตั้งใจให้ทานรักษาศีล เจริญภาวนา มาตามลำดับ นอกจากนี้ยังคอยให้โอวาท อบรมสั่งสอนลูกหลานอยู่เป็นประจำ 

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเรียก บุคคลประเภทนี้ว่า ปูชนียบุคคลของลูกหลาน คือเป็นที่น่าเคารพน่ากราบไหว้ คนแก่ประเภทนี้มีอยู่ในครอบครัวใด ครอบครัวนั้นก็จะเป็นสุขเสมือนมีพระอยู่ในบ้าน

1. พยายามตักบาตร ท่านทำบุญให้ทานมาตลอด ตักบาตรเป็นประจำทุกเช้า เป็นการสะสมเสบียงข้างภพข้ามชาติไปเบื้องหน้า

2. พยายามรักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัดทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านจะระวังศีลข้อ 4 ของท่านอย่างที่สุด คือไม่พูดเท็จ ทั้งไม่จู้จี้ขี้บ่น ทั้งทำตนเป็นคนอยู่ง่ายกินง่าย วันโกน วันพระ ก็พยายามรักษาอุโบสถศีล

3. พยายามหาเวลานั่งสมาธิให้มากที่สุด ท่านตั้งใจนั่งทั้งตอนเช้า กลางวัน และก่อนนอนตอนกลางคืน เพื่อทำใจให้ผ่องใส

ท่านประพฤติตนเป็นตัวเอย่างที่ดีให้ลูกหลานดู ยามว่างก็อบรมศีลธรรมให้เด็กเล็กในบ้าน เล่านิทานบ้าง เล่าประสบการณ์ชีวิตที่เป็นประโยชน์บ้าง เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้ลูกหลานตั้งตนอยู่ในศีลธรรม

ท่านจะไม่ยอมเข้าไปก้าวก่ายในเรื่องเขย สะใภ้เป็นอันขาด ทรัพย์สมบัติใดที่มีอยู่ก็เริ่มมอบให้เป็นภาระของบุตรหลานดูแลรักษาต่อไป คนแก่ประเภทนี้จะไม่เหงาหงอยในบั้นปลายชีวิต เพราะลูกหลานอยากใกล้ชิด อยากเข้าใกล้ เนื่องจากยิ่งเข้าใกล้ ก็จะได้ทั้งความรู้และความเย็นกายเย็นใจ