ทำไมเรียก..หลับใน?? โดย สมศรี นวรัตน์

วันศุกร์ที่ 19 เมษายน 2013 เวลา 00:00 น. ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท บทความ - พัฒนาทุนมนุษย์
พิมพ์

หลับใน (Sleep without closing eyes) ....คือ... หลับใน(ใจ) หรือ อาการที่คล้ายๆ กับหลับแต่ตายังลืมอยู่ ... หรือ ... การนอนหลับในระยะเวลาอันสั้นประมาณ 1 - 2 นาที นั่นเอง

 

เราคงได้ยินคำว่า สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ พบว่าเกิดจาก

- การขับรถเร็วเกินกำหนด

- รถตัดหน้ากระชั้นชิด

- เมาสุรา

- ขาดความชำนาญในการขับรถ

- ฝ่าฝืนเครื่องหมาย, ป้าย, สัญญาณไฟจราจร

- ไม่ให้สัญญาณจราจร

- การ “หลับใน” ....



(ภาพจากInternet)


หลับใน (Sleep without closing eyes) .... หลับใน(ใจ) หรือ อาการที่คล้ายๆ กับหลับแต่ตายังลืมอยู่ ... หรือ ... การนอนหลับในระยะเวลาอันสั้นประมาณ 1 - 2 นาที


(ภาพจากInternet)


การนอนหลับ .... เป็นสภาวะหนึ่งของร่างกาย ... ที่การเคลื่อนไหวต่างๆ จะลดลง .... พร้อมทั้งการรับรู้ต่อโลกภายนอกก็จะลดลง...จนเกือบจะหมด แต่ก็สามารถที่จะตื่นกลับมารู้ตัวได้อย่างง่ายภายใน1-2 นาทีเท่านั้น ..... นักวิทยาศาสตร์ยังหาคำตอบไม่ได้ว่า....ทำไมเราจึงต้องนอนด้วย ..... แต่เชื่อแน่ว่า....การนอนหลับเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญสำหรับชีวิต.... เราทุกคนจะรู้สึกสดชื่น ... มีเรี่ยวมีแรงหลังจากได้นอนเต็มอิ่ม นั่นคือ การนอนหลับได้ทำหน้าที่ของมันโดยสมบูรณ์แล้ว วงจรการนอนหลับจะแบ่งออกได้เป็น 2วงจร เกิดขึ้นสลับกันไปในแต่ละคืน

วงจรแรก เรียกว่า NREM Sleep : Non-rapid eye movement sleep… วงจร NREM เป็น....วงจรที่เกี่ยวกับการหลับที่จะลึกลงไปเรื่อยๆ แบ่งออกเป็น 4 ระยะ ตั้งแต่หลับตื้นไปจนถึงหลับลึก

วงจรที่สอง เรียกว่า REM Sleep : Rapid eye movement sleep…. วงจร REM เป็น.... วงจรที่กล้ามเนื้อต่างๆ ของร่างกายแทบจะหยุดการทำงานกันหมด ยกเว้น หัวใจ, กระบังลมเพื่อการหายใจ, กล้ามเนื้อตา และกล้ามเนื้อเรียบ เช่น หลอดเลือดและสำไส้

การนอนหลับ ของเราจะเริ่มด้วยวงจร NREM ก่อนแล้วจึงเกิดวงจร REM สลับกันไปเรื่อยๆ โดยในครึ่งคืนแรกมักจะเป็นวงจร NREM เป็นส่วนใหญ่ ส่วนครึ่งคืนหลังมักจะเป็น REM

ความฝัน ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องเป็นราวจะเกิดในวงจร REM ดังนั้นเราจึงมักจะพบว่าเราฝันบ่อยตอนเช้ามืด



.... และคนเรามีโอกาสหลับในระหว่างการขับรถได้ทุกคนและอีกหลายท่านต้องเคยรู้สึกง่วงนอนในขณะขับรถ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่รถติดหรือวิ่งทางไกลมากๆ

การขับรถหลับใน .... กลไกที่่เกิดขึ้น คือ เวลาเราอดนอนสมองจะทํางานช้าลง มีอาการวูบหลับช่วงสั้นๆ และตามมาด้วย การหลับใน... การที่สมองจะมีประสิทธิภาพที่ดีอย่างเต็มที่ได้ สมองต้องการชั่วโมงการนอนชดใช้ชั่วโมงการนอนที่สูญเสียไปเป็นระยะเวลาหลายวัน..... เพราะฉะนั้นทางที่ดีคือ...ถ้าไม่ได้นอนเต็มที่ติดกันอย่างน้อย 2 วัน จึงไม่ควรขั บรถ หรือถ้ ขับรถก็อย่าขับรถทางไกล....ไม่เช่นนั้นท่านมีโอกาส... "หลับใน" ..... นะคะ  ...

อาการหลับใน .... เป็นอาการหนึ่งของ ความเหนื่อยล้า ...ที่เราสามารถรู้สึกได้และมีสัญญาณก่อนหน้า ....ที่บ่งบอกว่าร่างกายอ่อนเพลียจากการทำงานหนัก และ ... ต้องการพักผ่อนเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ .... การทำงาน หรือ กิจกรรมใดที่ใช้เรี่ยวแรง หรือ ก่อให้เกิดความเครียดเป็นพิเศษนั้น .... จะทำให้ร่างกายต้องการพักผ่อนเร้วยิ่งขึ้นตามไปด้วย ... ซึ่งเมื่อคุณต้องการพักผ่อน ... แน่นอนวิธีที่ดีสุด คือ การนอน .... และร่างกายเราก็ไม่รู้จักวิธีอื่นที่ทำให้มันสดชื่น  .... จึงเป็นที่มาของอาการ.... หลับใน .... ที่เป็นอันตรายอาจจะถึงชีวิตเลยทีเดียว



อาการหลับใน นั้นโดยมากจะเกิดขึ้น .... เมื่อคุณขาดการพักผ่อนอย่างต่อเนื่อง ... และ... มีอาการเหนื่อยล้าระหว่างวันรวมอยู่ด้วย .... ทำให้รู้สึกไม่สดชื่นระหว่างวัน ... และเมื่อใดก็ตามที่มีสถานที่หรืออยู่ในที่เงียบๆ เป็นระยะเวลานาน .... ร่างกายก็จะปิดตัวเองลงชั่วคราว และ..... เป็นอาการหลับใน


สรุปได้ว่า.... "หลับใน" (sleep without closing eyes) เป็นการหลับทั้งที่ยังลืมตา/หรือ  ===> Sleep without closing eyes ... คนไทยเรียกว่า... การหลับใน .... หลับใน...เป็นอาการนอนในระยะเวลาอันสั้น 2-3 วินาทีและ มีอาการที่คล้ายๆ กับหลับแต่ตายังลืมอยู่แต่ร่างกาย/สมองหลับไปแล้ว นะคะ ...            .......ดังนั้น... การหลับใน .... จึงอันตรายอย่างยิ่งต่อทุกชีวิตที่อยู่ด้วยในรถนะคะ ...... ถ้าเรา .... รักตนเอง ... รักครอบครัว ... รักลูก .... ก่อนขับรถต้องทบทวน....สุขภาพ "กาย & ใจ" ของตนเองก่อนนะคะ ....เพราะ "ชีวิตมีค่ามาก"  ... ฉะนั้นต้องท่านนอนให้พอ 2-3 วัน ก่อนเดินทางไกล และ ... ถือหลัก "ง่วงไม่ขับ" ไว้เสมอ นะคะ  และ... การนอนไม่พอจะเพิ่มเสี่ยงทันที (Risk) ซึ่งจะทำให้เกิด ..... การหลับใน .... ซึ่งเป็นเกิดอาการในระยะช่วงสั้นๆ หรือ Microsleeps ซึ่งนานเพียง 2-3 วินาที ที่เร็วมากและอันตรายมาก ค่ะ .... ถ้าง่วงนอนต้องหยุดขับรถทันที่นะคะ .... ด้วยความห่วงใยค่ะ