จิตใหญ่

วันศุกร์ที่ 27 กรกฏาคม 2018 เวลา 17:11 น. ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช บทความ - การศึกษา
พิมพ์

ชีวิตที่พอเพียง 3225. ภาวนาให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองด้านอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรมสมาทาน “จิตใหญ่”

วันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๑ ผมได้อยู่ในวงสนทนาเรื่องที่เชื่อมโยงกับกระแสเชี่ยวกรากเรื่องร่าง พรบ. การอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม พ.ศ. ...  ถึง ๓ วง    ไม่ว่าอยู่ในวงไหน ผมมีจุดยืนตาม บันทึกนี้

คือผมพยายามชี้ว่า พวกเราที่เป็นผู้ใหญ่ต้องคิดถึงเป้าหมายใหญ่และระยะยาวของประเทศเป็นหลักต้องช่วยกันหาทางก้าวข้ามแรงกดดันหรือความยากลำบากระยะสั้นไปให้ได้    เพื่อบรรลุเป้าหมายใหญ่ในระยะยาวคือการใช้อุดมศึกษาขับเคลื่อนนวัตกรรมของประเทศ ไปสู่ประเทศไทยที่พลเมืองมีรายได้สูงและสังคมดี     ผู้คนมีความสุข ความเสมอภาคและรักใคร่ปรองดองกัน    ที่รัฐบาลนี้ใช้คำว่าประเทศไทย ๔.๐

ฟังจากข่าวประจำวันในขณะนี้เห็นได้ชัดว่า ประเด็นใหญ่อย่างหนึ่งที่ต้องก้าวข้ามคือ การโกงกิน    ที่ปูดออกมาในวงการสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่  วงการศึกษา กระทรวง พม. ดาราหรือเน็ตไอดอล และอื่นๆ   ซึ่งรากเหง้ามาจากความเป็นแก่ตัวจัด จนชนะฐานคุณธรรมภายในตน    นั่นคือฐานด้านสังคม

ฐานด้านเศรษฐกิจรัฐบาลนี้เก่งด้านการวางฐานหลักการ ว่าต้องเน้นที่ เศรษฐกิจสร้างสรรค์  โดยมีกลไกสำคัญคือ นวัตกรรมที่มีประเด็นเชื่อมโยงตามมาเป็นขบวนใหญ่   และการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุดมศึกษา เป็นกลไกสำคัญ  

เมื่อจะต้องเปลี่ยนแปลงหน่วยราชการระดับกระทรวง  ก็จะมีความขัดแย้งเกิดขึ้นทันที   เพราะกระทบอำนาจหน่วยงานและบุคคลที่ดำรงตำแหน่งในปัจจุบัน    เกิดการเล่นการเมือง ต่อสู้กันด้วย “จิตเล็ก”จิตเห็นแก่ตัวและพวกพ้องวงแคบ  

แม้ในสมาชิกของรัฐบาลเองก็มีข่าวการต่อสู้แย่งชิงอำนาจกัน แบ่งเป็นพวกเป็นฝ่าย ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่   ทำให้ผมคิดว่า คนเป็นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล มีหน้าที่สำคัญอย่างหนึ่งคือสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในรัฐบาล และความมี “จิตใหญ่”  เป็นตัวอย่างให้คนในสังคมวงกว้างเห็น   โดยยึดเป้าหมายผลประโยชน์ภาพรวมและระยะยาวของประเทศเป็นสำคัญ    ต้องทำให้สังคมไทยจับประเด็นนี้ให้ได้  

ไม่ทราบว่าผมฝันกลางวันหรือเปล่า

ผมสดับตรับฟังข่าวสารในบ้านเมืองเต็มไปด้วยเรื่องราวของ “จิตเล็ก” ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าระบบสื่อสารมวลชนของเรากำลังสร้างคนไทยจิตเล็กเต็มบ้านเมืองหรือไม่   สื่อสารสาธารณะที่สร้าง “จิตใหญ่” เป็นอย่างไร    เราจะช่วยกันสร้างจิตใหญ่ให้แก่บ้านเมืองเพื่ออนาคตที่ดีของลูกหลาน ได้อย่างไร  

กลับมาที่กระทรวงอุดมศึกษา วิจัยและนวัตกรรม ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต   ผมมองว่า นี่คือการสร้างโอกาส transform สถาบันอุดมศึกษาให้มีพลังต่อการสร้างอนาคต คือ ประเทศไทย ๔.๐  โดยที่สถาบันอุดมศึกษาในสภาพปัจจุบันไร้พลัง    ตัวเองก็ดูจะเอาตัวไม่ค่อยรอด   

กระทรวงอุดมศึกษาฯ ที่ผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้อง เต็มไปด้วยคน “จิตเล็ก”   และยึดติดรูปแบบเดิมๆ    จะไม่มีทางเป็นพลังให้แก่ประเทศไทย๔.๐ ได้    การสร้างกระทรวงใหม่นี้จึงต้องเขียนกฎหมายที่แหวกไปจากแนวทางเดิมๆ   ไปเน้นการกำหนดเจตนารมณ์ หรือเป้าหมาย   และเปิดช่องให้มีการสร้างนวัตกรรมในการบริหารจัดการ   เมื่อมีการแดงผลงานเป็นที่ประจักษ์หน่วยงานนั้นก็จะได้รับทรัพยากรเพิ่มขึ้น  คืองบประมาณของภาครัฐเปลี่ยนไปเน้นการ “ซื้อผลงาน”มากขึ้น     

พรบ. ใหม่นี้ น่าจะระบุให้มี platform การทำงาน innovation ที่หลายฝ่ายเข้ามาร่วม    โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคธุรกิจอุตสาหกรรมและการค้าบริการ   และระบุให้มีการแก้ระเบียบวิชาการว่าด้วยการเรียนการสอน ให้เปลี่ยนจาก lecture-basedไปเป็น inquiry-based, activity-based    คือต้องใช้ พรบ.ใหม่กำหนดเงื่อนไขสร้างการเปลี่ยนแปลงในระบบอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรมได้อย่างแท้จริง    โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ว่าด้วยนักศึกษา   เปลี่ยนจากผู้มาดูดซับความรู้ที่มีอยู่แล้ว เป็นเน้นให้เป็นผู้ร่วมสร้างความรู้จากการปฏิบัติงานในสภาพจริง    โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพที่ต้องสร้างนวัตกรรม

วิจารณ์ พานิช

๑๔ มิ.ย. ๖๑