ชีวิตที่พอเพียง : ๑๙๕๙. ยุครุ่งโรจน์รอบใหม่ของสหรัฐอเมริกา

วันเสาร์ที่ 27 กรกฏาคม 2013 เวลา 00:00 น. ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท บทความ - การศึกษา
พิมพ์

ระหว่างนั่งเครื่องบิน Airbus A380-800 ไปแฟรงค์เฟิร์ต คืนวันที่ ๘ มิ.ย. ๕๖  ผมได้อ่านคอลัมน์ Book Review ของ นสพ. The Wall Street Journal ฉบับวันที่ ๗-๙ มิ.ย. ๕๖ อย่างอิ่มใจ

เรื่องแรกคือเรื่อง The New Prometheus review หนังสือ Comebackเขียนโดย Charles R. Morris  เป็นการทำนายว่าเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาจะกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้งหนึ่ง  จากการค้นพบหินแก๊ส (shale gas) มากมายมหาศาล  ซึ่งจะทำให้สหรัฐอเมริกามีพลังงานราคาถูก  และมีการจ้างงานเพิ่ม ๑.๗ ล้านคนในปัจจุบัน  และคาดว่าจะเพิ่มเป็น ๔ ล้านคนในปี ค.ศ. ๒๐๒๐

Promethius เป็นเทพในนิยายโบราณ ที่เป็นผู้ขโมยไฟจากพระเจ้า เอามาให้มนุษย์  ทำไมพระเจ้าจึงใจแคบอย่างนั้นก็ไม่รู้

สภาพดังกล่าว ผสมกับการเปลี่ยนแปลงในประเทศที่เคยรับ outsource การผลิตสินค้า high tech จากอเมริกา  จะดึงให้ต้นทุนการผลิตสินค้าในสหรัฐอเมริกาต่ำลงเมื่อเทียบกับการจ้างผลิตในต่างประเทศ  และบริษัทต่างๆ ก็จะหันกลับมาใช้ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นฐานการผลิต

ผู้ review หนังสือเล่มนี้คือ Daniel Yergin รองประธานของบริษัทวิจัยและที่ปรึกษา ชื่อ IHS ผู้เขียนหนังสือ The Quest : Energy, Security, and the Remaking of the Modern World

ตอนนี้เริ่มมีข่าวความหวังของยุคอุตสาหกรรมใหม่ในสหรัฐอเมริกา หนาหูขึ้นเรื่อยๆ  ผู้เขียนบอกว่า ในไม่ช้าเรื่องการขาดดุลการเงินของรัฐบาลสหรัฐก็จะกลายเป็นอดีต และประเด็นการเมืองก็จะเปลี่ยนไป

ผู้เขียนหนังสือบอกว่า สหรัฐต้องเตรียมตัวรับยุครุ่งโรจน์รอบใหม่  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน  เพื่อความสะดวกในการสื่อสารคมนาคม และกิจการอื่นๆ

เขาบอกว่า การค้นพบแหล่งพลังงานมหาศาลเมื่อปี 2008 นี้ มีทั้ง shale gas และ tight oil ซึ่งใช้เทคโนโลยีเดียวกันในการสะกัดออกมา  ของ shale gas เขาใช้วิธีฉีดน้ำผสมทรายและสารเคมี ฉีดเข้าไปในชั้นหินแก๊ส ให้เกิดรอยแยก ให้แก๊สไหลไปรวมตัวกันที่รูที่เจาะเอาแก๊สออกมา

กระบวนการเช่นนั้น รบกวนสภาพแวดล้อมอย่างแน่นอน  ตอนแรกประมาณกันว่าจะมีก๊าสมีเธนปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศมหาศาล  เป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีฤทธิ์สูงกว่าคาร์บอนไดอ็อกไซด์ถึง ๒๕ เท่า  แต่ตอนนี้ผลการวิจัยบอกว่า จะมีก๊าซมีเธนปลดปล่อยออกไปในปริมาณที่น้อยกว่าเดิมมาก

คุณสุเมธ ตันธุวณิชย์ อดีตกรรมการธนาคารไทยพาณิชย์ที่เพิ่งพ้นวาระไป บอกผมเมื่อตอนต้นปีว่า  การค้นพบ shale gas ค้นพบทั่วโลก  แต่เทคโนโลยีการจัดการ shale gas ของสหรัฐก้าวหน้ากว่าประเทศอื่นๆ มาก  เขาจะเปลี่ยนแก๊สเป็นกระแสไฟฟ้าราคาถูก  การขนส่งไฟฟ้าราคาถูกกว่าขนน้ำมันหรือแก๊สมาก  ดังนั้นต่อไปนี้จะเป็นยุคใช้กระแสไฟฟ้า  ในไม่ช้ารถยนต์จะเป็นรถไฟฟ้าทั้งหมด  ผมเดาว่าโลกใน 20 ปีข้างหน้าจะเปลี่ยนไปมากทีเดียว  ความท้าทายร่วมกันของคนทั้งโลกคือ ภาวะโลกร้อนและภูมิอากาศวิปริตจะทุเลาลงหรือรุนแรงยิ่งขึ้น

ยุครุ่งโรจน์ กับยุคหายนะ อาจเป็นสิ่งคู่กัน  หากไม่เอาใจใส่ด้านลบของความรุ่งโรจน์นั้น  ไม่ว่าจะเป็นความรุ่งโรจน์ระดับโลก ระดับประเทศ ระดับองค์กร และระดับบุคคล

วันที่ ๑๓ มิ.ย. ๕๖ อ่าน Financial Times พบโฆษณา The FT Global Shale Energy Summit www.ft-live.com/shalesummit ๒๑ ต.ค. ๕๖ ที่ลอนดอน

 

วิจารณ์ พานิช

๙ มิ.ย. ๕๖  ปรับปรุง ๑๘ มิ.ย. ๕๖

บนเครื่องบิน Airbus A380-800 บินไปแฟรงค์เฟิร์ต

คัดลอกจาก http://www.gotoknow.org/posts/543564