แม่ไก้ลูกไก่

วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2019 เวลา 22:38 น. ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท บทความ - บทความของ ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท
พิมพ์

สมัยก่อนหลังจากแม่ไก่คลอดลูก ลูกก็เดินตามแม่
สมัยนี้หลังจากแม่ไก่คลอดลูก 
ก็มีนายทุนมาบอกว่าต้องแยกลูกไก่ออกจากแม่ไก่
เอาไปเลี้ยงรวมกันแล้วจะเลี้ยงง่ายโตเร็วอ้วนสมบูรณ์
ฟังดูแล้วแม่ไก่ก็คงคิดว่าวิธีการนี้น่าจะดีกับลูก
และแม่ไก่๋ก็จะได้พักผ่อน
win win   ทั้งแม่ทั้งลูก
แต่คนที่ได้ผลประโยชน์ที่สุดคือนายทุน

สมัยก่อนเด็กเกิดมายังไม่ต้องไปโรงเรียน
ทำงานบ้านเลี้ยงน้องช่วยพ่อแม่วนไป
สมัยนี้เด็กเกิดมายังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย
ก็ถูกพรากไปเนิสเซอร์รี่บ้าง โรงเรียนอนุบาลบ้าง
ด้วยเหตุผลที่ว่าเด็กจะเรียนรู้ พัฒนา และมีสังคม
พ่อแม่ก็จะได้ทำงานได้เต็มที่
(เพื่อที่จะได้ทำงานให้บริษัทได้เต็มที่และจ่ายภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย)
ฟังดูแล้ว
win win ทั้งแม่และลูก
แต่คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือนายทุนอีกเช่นเคย
เดี๋ยวนี้พ่อแม่ทำงานยิ่งกว่าทาสในสมัยก่อนซะอีก
เวลาจะได้อยู่กับลูกน้อยจนแทบไม่มี
ชีวิตน้อยๆเกิดมายังไม่ทันได้รู้ว่าใครเป็นพ่อเป็นแม่
ก็ต้องถูกพรากไปให้คนอื่นดูแลในยามกลางวัน
ลูกได้เรียนรู้และมีพัฒนาทางกายที่ดี วิชาการเก่ง
แต่การพัฒนาและเติบโตทางจิตวิญญาณขาดหายไป
ไม่มีรากฐานของสายสัมพันธ์ทางใจที่เข้มแข็ง
ต่อให้มีความรู้มากแค่ไหน เมื่อเติบโตขึ้นมีปัญหา
จึงทำให้คนจิตใจอ่อนแอ กลายเป็นโรคซึมเศร้ากันมาก

ภาพลูกไก่เดินตามแม่ไก่เพื่อคุ้ยเขี่ยอาหารคงไม่มีให้เห็นอีกแล้ว
บทความข้างบนนี้เขียนโดยลูกสาวคนที่สองของผม เธอและสามีลาออกจากงานทั้งคู่และมาช่วยกันเลี้ยงลูกของตัวเอง หันมาทำธุรกิจของตัวเองเพื่อจะได้มีโอกาสได้ใกล้ชิดลูกและเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง ผมพยายามชวนลูกสาวมาออกรายการเพื่อเล่าประสบการณ์และแนวความคิดของเธอให้กับผู้ชมรายการ แต่เธอขอเวลาอีกสักพักเพื่อรอให้ลูกชายของเธอพร้อมกว่านี้ที่จะมาออกรายการร่วมกัน อย่างไรก็ตามเธอได้เขียนบทความด้านบนมาให้ผมอ่านในเบื้อต้น
ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท
๒๖ ก.พ.๒๕๖๒

ต้องขอประทานโทษด้วยครับ ผมเข้าใจผิดคิดว่าบทความดังกล่าวลูกสาวผมเป็นคนเขียน ความจริงลูกสาวผมไม่ได้เขียนบทความนี้ เธอเห็นว่าบทความดังกล่าวเขียนดี และอยู่ในชั่วงที่ผมกำลังคุยกับลูกสาวในเรื่องการเลี้ยงลูก จึงส่งบทความนี้มาให้ผมอ่าน ผมเห็นว่าเขียนได้ดีมากและเนื้อหาสาระเป็นประโยชน์กับทุกคน จึงตัดสินใจแชร์ให้กับคนอื่นๆ โดยไม่ได้แจ้งลูกสาวก่อน แถมไปบอกคนอื่นด้วยว่าลูกสาวเป็นผู้เขียน เมื่อมีคนอ่านและแสดงความเห็นกลับมาว่าเขียนได้ดีมาก และชื่นชมลูกสาวผม ผมจึงส่งไปให้ลูกสาวอ่าน ลูกสาวจึงรีบติดต่อผมและแจ้งว่าเธอไม่ได้เป็นผู้เขียนบทความนี้ ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้เขียน

ต้องขอประทานโทษทุกท่านในความผิดพลาดของผมในครั้งนี้ โดยเฉพาะผู้เขียนบทความนี้ ถ้าผู้เขียนทราบเรื่องนี้โปรดกรุณาติดต่อผมด้วยครับ หรือจะแจ้งชื่อของท่านมาเพื่อผมจะได้แจ้งให้ผู้อื่นทราบความจริงว่าท่านใดเป็นผู้เขียนบทความนี้ หรือถ้ามีโอกาสอยากจะเชิญท่านไปร่วมออกรายการทีวี ที่ผมเป็นผู้บริหารรายการอยู่ครับ ชื่อรายการ "เปลี่ยน เป็น เปลี่ยน

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

๒๗ ก.พ.๒๕๖๒

แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2019 เวลา 22:38 น.