ทศวรรษแห่งวิกฤตการเงิน ..... สู่เหตุแห่งความล่มสลาย .....

วันพุธที่ 21 กันยายน 2016 เวลา 00:00 น. อภิชาติ ประสิทธิฤทธิ์ บทความ - เศรษฐกิจ
พิมพ์

ทศวรรษแห่งวิกฤตการเงิน ..... สู่เหตุแห่งความล่มสลาย .....


Billionaires are holding $1.7 trillion in cash 


รายงานการบริหารสินทรัพย์มหาเศรษฐีของหน่วยวิจัยตลาด เวลท์-เอ็กซ์ (Wealth-X - The Global Authority on Wealth Intelligence) เปิดเผยว่า บรรดานักธุรกิจของโลกมีเงินสดที่ถือครองอยู่เป็นมูลค่ารวมกันมากกว่า 1.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 59.11 ล้านล้านบาท) ในขณะนี้ 


ซึ่งถือเป็นปริมาณเงินสดที่สูงที่สุดตั้งแต่เริ่มบันทึกเมื่อปี ค.ศ. 2010 และใกล้เคียงกับมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product) ของสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล


รายงานดังกล่าวเสริมว่า มหาเศรษฐีของโลก 2,473 ราย เพิ่มสัดส่วนการถือครองเงินสดเป็น 22.2% ของสินทรัพย์ทั้งหมด จากความกังวลความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ขณะที่กระแสการเข้าซื้อและควบรวมกิจการของธุรกิจที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา กระตุ้นให้มีเงินไหลเวียนไปยังกลุ่มมหาเศรษฐีเหล่านี้


ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับมูลค่าของข้อตกลงควบรวมกิจการทั้งหลายที่เพิ่มขึ้น ทำให้บรรดาคนรวยปรับพอร์ต และพยายามเข้าเก็บเงินสดเมื่อมีโอกาส รายงานระบุ


สอดคล้องกับรายงานของธนาคารยูบีเอส (Union Savings Bank) ที่ออกมาเมื่อเดือน กรกฎาคม ค.ศ. 2016 ว่ากลุ่มคนรวยในสหรัฐอเมริกา ปรับพอร์ตลงทุนให้มีเงินสดอยู่ที่ประมาณ 20% ซึ่งใกล้เคียงกับระดับเฉลี่ยช่วงหลังวิกฤตเศรษฐกิจปี ค.ศ. 2008 และโดยส่วนใหญ่กำลังพิจารณาลดการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากกังวลความไม่แน่นอนที่มากับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 


นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่กลุ่มคนรวยเหล่านี้ กำลังรอเหตุการณ์ที่ทำให้มูลค่าสินทรัพย์เสี่ยงต่ำกว่านี้และค่อยเข้าลงทุน


ทั้งนี้ ในปี ค.ศ. 2015 การลงทุนของมหาเศรษฐีเติบโต 5.4% อยู่ที่ 7.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 267 ล้านล้านบาท) โดย 


1. ทวีปยุโรป เป็นภูมิภาคที่มีจำนวนมหาเศรษฐีมากที่สุดที่ 806 ราย 


2. ทวีปเอเชีย มีการขยายตัวของมหาเศรษฐีรวดเร็วที่สุด เพิ่มขึ้น 15% จากปี ค.ศ. 2015 อยู่ที่ 645 ราย 


3. ทวีปอเมริกาเหนือ มีมหาเศรษฐี 628 ราย


นอกจากนี้รายงานพบว่า อุตสาหกรรมธนาคาร การลงทุนและเฮดจ์ฟันด์ (Hedge Fund) ยังเป็นผู้ที่ส่งเสริมการลงทุนหลักของมหาเศรษฐี และมหาเศรษฐีส่วนใหญ่ทำเงินจากบริษัทที่ประกอบธุรกิจหลายประเภท ขณะที่มีมหาเศรษฐีหน้าใหม่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจ


1. เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (Agro & Food Industry)


1.1 ธุรกิจการเกษตร (Agribusiness)


1.2 อาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage)


2. สินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Products)


2.1 แฟชั่น (Fashion)


2.2 ของใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน (Home & Office Products)


2.3 ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ (Personal Products & Pharmaceuticals)


3. ธุรกิจการเงิน (Financials)


3.1 ธนาคาร (Banking)


3.2 เงินทุนและหลักทรัพย์ (Finance & Securities)


3.3 ประกันภัยและประกันชีวิต (Insurance)


4. สินค้าอุตสาหกรรม (Industrials)


4.1 ยานยนต์ (Automotive)


4.2 วัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร (Industrial Materials & Machinery)


4.3 บรรจุภัณฑ์ (Packaging)


4.4 กระดาษและวัสดุการพิมพ์ (Paper & Printing Materials)


4.5 ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ (Petrochemicals & Chemicals)


4.6 เหล็ก (Steel)


5. อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (Property & Construction)


5.1 วสัดุก่อสร้าง (Construction Materials)


5.2 บริการรับเหมาก่อสร้าง (Construction Services)


5.3 พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Property Development)


5.4 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund & Real Estate Investment Trusts) (REITs)


6. ทรัพยากร (Resources)


6.1 พลังงานและสาธารณูปโภค (Energy & Utilities)


6.2 เหมืองแร่ (Mining)


7. บริการ (Services)


7.1 พาณิชย์ (Commerce)


7.2 การแพทย์ (Health Care Services)


7.3 สื่อและสิ่งพิมพ์ (Media & Publishing)


7.4 บริการเฉพาะกิจ (Professional Services)


7.5 การท่องเที่ยวและสันทนาการ (Tourism & Leisure)


7.6 ขนส่งและโลจิสติกส์ (Transportation & Logistics)


8. เทคโนโลยี (Technology)


8.1 ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Components)


8.2 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information & Communication Technology)


Credit : http://www.cnbc.com/2016/08/10/billionaires-are-hoarding-cash.html


Credit : http://www.thewealthinsider.com/category/the-rich/billionaire/


Credit : http://www.moneycontrol.com/news/world-news/billionairesholding-3617-trillioncash_7248501.html


Credit : https://www.youtube.com/watch?v=H705vC8y-Sc

คัดลอกจากไลน์คุณอภิชาติ ประสิทธิ์ฤทธิ์

แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 21 กันยายน 2016 เวลา 14:16 น.