ท่านพูดเหมือนที่คนไทยส่วนใหญ่อยากพูด ผศชัยชาญ ถาวรเวช

วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม 2022 เวลา 20:39 น. ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท บทความ - สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์
พิมพ์

ท่านพูดเหมือนที่คนไทยส่วนใหญ่"อยากพูด"

ความเห็นของ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชัยชาญ ถาวรเวช..

อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร

ขอกราบคารวะด้วยความนับถือและชื่นชม

 

 ที่จริงบ้านเมืองเราก็สงบดีอยู่ แต่ที่ดูเหมือนไม่สงบ ก็เพราะมีคนบางกลุ่มพยายามจัดฉากสร้างสถานการณ์ทำให้มันไม่สงบ

ทำให้ดูเหมือนว่าสถานการณ์บ้านเมืองของเรามันเข้าขั้นวิกฤต อะไร ๆ ก็ดูแย่ไปหมด เศรษฐกิจก็แย่ ประชาชนจะอดตายกันหมดแล้ว ก็เพราะวิกฤตโควิดมันทำให้เศรษฐกิจโลกแย่ไปตาม ๆ กัน ก็ไปโทษว่าเป็นเพราะเผด็จการครองเมือง ไม่เป็นประชาธิปไตย ใช้สื่อเทียมปลุกปั่นกระแสในโซเชี่ยล หาเรื่องโจมตีชาติ โจมตีสถาบัน ใส่ร้ายป้ายสีกันจนเลอะเทอะไปกันใหญ่

คนไทยอย่าหูเบา ยังจะมีประเทศไหนในโลกที่พลเมืองมีอิสระเสรีเหมือนที่มีอยู่ในประเทศไทย ไม่มีแล้ว เกิดเป็นคนไทยถือว่าโชคดีที่สุดแล้ว ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ถึงจะมีเหลือน้อยกว่าเดิมก็ตาม แต่ก็ยังมีมากกว่าที่อื่น จึงถือว่า เมืองไทยเป็นเหมือนแผ่นดินทอง เพราะบ้านเราอุดมสมบูรณ์อยู่ในชัยภูมิที่ยอดเยี่ยมของโลก อากาศไม่ร้อนไม่หนาวมากเกินไป ไม่มีภัยพิบัติทางธรรมชาติร้ายแรง จึงเป็นที่หมายปองของพวกมหาอำนาจ

ประเทศไทยมีพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็นเนื้อนาบุญอันยิ่งของโลก แม้จะมีพระสงฆ์ที่ปฏิบัติไม่ดีอยู่บ้างก็ตาม ก็อย่าไปใส่ใจ ใครทำไม่ดี เดี๋ยวเขาก็ฉิบหายเอง อย่าไปเดือดร้อนกับเขา ผู้ที่ท่านดียังมีอยู่อีกมาก จึงถือว่าเมืองไทยเป็นแผ่นดินธรรม เพราะเรายังมี มรรค ผล นิพพาน เป็นสมบัติของคนไทยให้สืบทอดพระพุทธศาสนาไปได้ถึง ๕,๐๐๐ ปี

เรายังมีพระมหากษัตริย์ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ แม้จะมีบุคคลบางกลุ่มมีความคิดล้มล้างสถาบันก็ตาม ก็อย่าไปใส่ใจ ใครทำไม่ดี เดี๋ยวเขาก็ฉิบหายไปเอง เราตั้งใจทำตัวเราให้ดีก็พอ

ไม่ว่าการปกครองจะเป็นระบอบประชาธิปไตย หรือระบอบเผด็จการ ถ้ายังมีคนโกง คนใจสกปรกชั่วช้าสามานย์แอบแฝงอยู่ในระบบ มันก็สร้างความฉิบหายได้เหมือนกัน ทุกระบบต้องการคนดี ไม่มีระบบไหนเจริญได้เพราะคนชั่ว ให้จำตรงนี้เอาไว้

คนที่ใจสกปรกคิดร้ายทำลายชาติบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง พูดจาโกหกปลิ้นปล้อน ยุแหย่ให้คนไทยเกลียดกัน ทะเลาะกัน ใจคิดอย่างหนึ่ง พูดจาอีกอย่างหนึ่ง ทำก็อีกอย่างหนึ่ง คนอย่างนี้เขาจะหวังดีต่อประเทศชาติ จะทำความเจริญให้กับประเทศชาติได้อย่างไร ?

คนไทยจงอย่าได้หลงคารม อย่าเชื่อไปตามคำพูดเสแสร้งของเขาเลยทีเดียว พวกนี้เป็นตัวอันตรายที่ทางการจะต้องหาวิธีจัดการอย่างแยบยล มิฉะนั้น ประเทศชาติก็จะวุ่นวายอยู่อย่างนี้ตลอดไป

ส่วนพวกเด็ก ๆ นักศึกษานั้น เขาอยากทำอะไร ก็ให้เขาทำไปก่อน หากเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจก็ปล่อยไป แต่ถ้าจะเลยเถิด ก็ต้องปรามกันเอาไว้ เอาไปปรับทัศนคติบ้าง เดี๋ยวก็ดีเอง แต่ให้ระวังพวกอีแอบที่เป็นท่อน้ำเลี้ยงอยู่หลังฉาก จัดการกับพวกนี้ได้ เรื่องวุ่น ๆ ก็จะเบาลงไปเอง

คนไทยเรารักกัน อยู่ด้วยกันเหมือนพี่เหมือนน้องมานานแล้ว มีพระเจ้าอยู่หัวเป็นเหมือนพ่อเหมือนแม่ พระองค์คอยสอดส่องดูแลสุขทุกข์ของพสกนิกรอย่างใกล้ชิด ที่ใดมีความทุกข์เดือดร้อน ก็จะมีของพระราชทานส่งไปให้ถึงที่ในทันที คุณจะไปหาแบบอย่างเช่นนี้จากที่ไหนในโลก

สังคมไทยของพวกเราจึงเข้มแข็งมาก เพราะเรามีสถาบันครอบครัวที่รักกันยิ่งกว่าที่ใดในโลก เรามี พ่อ แม่ พี่ น้อง ปู่ ย่า ตา ยาย ลูก หลาน เหลน โหลน ลุง ป้า น้า อา ญาติสนิท มิตรสหาย ซึ่งไม่มีประเทศไหนในโลกมีเหมือนบ้านเรา สังคมไทยเราจึงอบอุ่นยิ่งนัก ไม่มีเงินก็ไม่อดตายนะ ขอทานยังมีเงินเก็บเป็นล้านได้เลย

ประเทศไทยของพวกเรามีความเป็นปึกแผ่นมั่นคงมาจนทุกวันนี้ ก็เพราะเรามีแผ่นดินไทยอันอุดมสมบูรณ์ มีพระพุทธศาสนาที่เลิศล้ำเป็นนาบุญของโลก มีพระมหากษัตริย์ที่คอยบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ปวงราษฎร

คนไทยที่บอกว่าเกลียดชังประเทศไทย ไม่อยากอยู่ประเทศไทย ก็ควรอพยพลูกหลานหมดทั้งโคตรไปอยู่ที่อื่นเสียสิ! ที่ไหนดีก็ไปได้ แต่ก็ไม่เห็นไปสักที ถ้าไม่ไป ก็อย่ามาปลุกปั่นยุแหย่ให้คนไทยเกลียดกัน ทะเลาะกัน

คนไทยจงรักกันต่อไป เขารู้ว่า ถ้าจะทำให้ประเทศไทยล่มสลาย ต้องทำให้คนไทยทะเลาะกันเอง ฆ่าฟันกันเอง ต้องทำลายศูนย์รวมของจิตใจ คือพระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์ เขาต้องการให้คนที่ยอมตัวเป็นสุนัขรับใช้ของเขาขึ้นเป็นผู้นำประเทศ ถ้าเขาทำสำเร็จประเทศไทยก็ถึงกาลล่มสลาย

แต่เชื่อเถอะ เมืองไทยเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ แม้เทวดาผู้มีฤทธิ์บนสรวงสวรรค์ ก็ยังสอดส่องทิพยเนตรคุ้มครองอยู่ เขาไม่มีทางทำได้สำเร็จ วันนั้นจะไม่มีทางมาถึง เพราะคนที่คิดร้ายทำลายชาติ ทำลายพระพุทธศาสนา ทำลายพระมหากษัตริย์ มันจะมีอันเป็นไปถึงซึ่งความวิบัติฉิบหายไปก่อนนั่นเอง

ขอให้คนไทยจงรักกัน อย่าเกลียดกัน อย่าเป็นศัตรูกัน และอย่าแตกสามัคคีกัน เท่านั้นก็พอ”

 

ชัยชาญ ถาวรเวช

อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร