รายการ "เปลี่ยน เป็นเปลี่ยน" เป็นรายการเสวนาเพื่อสร้างสังคมไทยไปสู่สังคมแห่งการ
เรียนรู้ตามหลักคิด๑ กระบวนการคิด๑ และวิธีปฏิบัติ๑ ที่ถูกต้องตามหลักอริยมรรคมีองค์ ๘
ประการ
ตามหลัการที่ ๑ คือหลักคิด ๑.สัมมาทิฏฐิ คือเห็นชอบ หรือเห็นถูกต้อง ๒.สัมมาสังกัปปะ
คือความดำริชอบ
หลักการที่ ๒ คือกระบวนการคิด ได้แก่อริยมรรคข้อที่ (๖) สัมมาวายามะ คือความเพียร
ชอบ (๗) สัมมาสติ คือ ความระลึกชอบ และ (๘) สัมมาสมาธิ คือความตั้งใจมั่นชอบ
และหลักการที่ ๓ คือวิธีการปฏิบัติการ แบ่งออกเป็น ๒ ด้าน
คือ ๑.ด้านร่างกาย วาจา ได้แก่อริยมรรคข้อที่ ๓. สัมมาวาจา คือ เจรจาชอบ ข้อที่ ๔.
สัมมากัมมันตะ คือการงานชอบ ๕. สัมมาอาชีวะ คือเลี้ยงชอบ จัดอยู่ในองค์ศีล หรือกุศลศีล หรือ
กุศลกรรมบถ ๑๐ (ข้อ๑. คือ ไม่ฆ่า, ๒.ไม่ลัก, ๓.ไม่ประพฤติผิดประเวณี, ๔.ไม่พูดปด , ๕.ไม่
พูดส่อเสียด, ๖. ไม่พูดคำหยาบ ๗.ไม่พูเพ้อเจ้อ)
คือ ๒. ด้านจิตใจ ได้แก่ ๑.สัมมาทิฏฐิ คือเห็นชอบ ๒. สัมมาสังกัปปะ คือ ดำริชอบ ข้อ
๖.สัมมาวายามะ คือเพียรชอบ (ข้อเพียรชอบจะหนุนทั้งกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ทุก
ข้อตั้งแต่ข้อ ๑ - ๘ จะต้องหนุนกันและกัน จะแยกจากกันไม่ได้ เพียรชอบได้แก่ สัมมัปปธาน ๔
ได้แก่ ๑.สังวรปธาน คือ มีความเพียรระวังบาป อกุศล ไม่ให้เกิด ๒.ปหานปธาน คือ เพียรละบาป
อกุศลที่เกิดแล้ว ๓. ภาวนาปธาน คือ เพี่ยรสร้างความดีที่ยังไม่เกิดให้เกิด ๔. อนุรักขนาปธาน คือ
เพียรถนอมรักษากุศลที่เกิดแล้วน้อย หรือมากก็รักษาไว้ ประคองไว้ ) ๗.สัมมาสติ คือระลึกชอบ
๘.สัมมาสมาธิ คือตั้งใจมั่นชอบ ทางด้านจิดใจก็เชื่อมต่อเนื่องจากกุศลกรรมบถ หรือละ
อกุศลกรรมบถ ข้อที่ ๘ -๙ -๑๐ คือ ไม่เพ่งอยากได้ของของเขา ไม่พยาบาทปองร้ายเขา และทำ
ความเห็นให้ตรง คือไม่เป็นมิจฉาทิฏฐิ ตรงข้ามสัมมาทิฏฐิ
นี้เป็นรูปแบบหลักคิด กระบวนการคิด และวิธีปฏิบัติไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ เพื่อพ้น
จากความทุกข์ทั้งกาย ทุกข์ใจ ที่เป็นความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ เรียกว่า "อริยสัจจ์ ๔ " ซึ่ง
เป็นหลักที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ตรัสรู้เหมือนกันทุกพระองค์ แต่ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานเท่านั้นจึง
จะใฝ่เรียนรู้
คัดลอกจากบทความของ ดร.แสน ชฎารัมย์