กาลเวลาหมุนรอบกี่ล้านครั้ง
หากไม่นับย้อนปฐมสุวรรณภูมิ ทราวดี และละโว้
ราชอาณาจักรไทยมีพระมหากษัตริย์เป็นที่ศรัทธาของราษฎรตลอดมา
การก่อตั้งประเทศด้วยระบอบกษัตริย์เป็นผู้นำ
หากเริ่มตั้งแต่พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ.๑๗๙๒
ปฐมกษัตริย์สุโขทัย
จนกาลเวลาถึงปัจจุบันเป็นเวลาถึง ๗๗๐
ปี
ประวัติของชาติไทยผ่านหลายบทเรียนที่เราขาดสิ่งที่เรียกว่า
รวมเลือดเนื้อเชื้อชาติไทยอย่างแท้จริง
หลายเหตุการณ์ที่กลุ่มบุคคล
ที่เรียกตัวเองว่า คนนำสมัย ที่ไม่เคยศึกษาประวัติศาสตร์หน้าเก่า
แต่กลับต้องการบันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ และ
ลืมวีรบุรุษวีรสตรีผู้เสียสละชีวิตเพื่อเอกราชชาติไทย
มูลเหตุด้วยระบบการศึกษาถูกกีดกันการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ของชาติหรือไม่??
จนทำให้ประชาชนยุคประชาธิปไตยไขว่คว้าเอาสิทธิเสรีภาพแห่งตัวตนตามระบบประชาธิปไตยตะวันตก
และหลงลืมธรรมมาธิปไตยของพระมหากษัตริย์
เริ่มตั้งแต่สยามดินแดนเพิ่งเริ่มนับกาลเวลาเป็น
นับจากพระประมุขแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
เมืองไทยเรานี้มีเหตุการณ์หวุดหวิด
จนเกือบต้องเสียอิสรภาพให้กับชาติตะวันตกที่เข้ามาแทรกแซงยึดอำนาจมาหลายต่อหลายครั้ง
นับจากครั้งเมื่อเสร็จศึกกับพม่าในรัชกาลที่
๑ จนลุล่วง ถึงรัชกาลที่ ๒ ชาวโปรตุเกสก็เข้ามาจากเมืองมาเก๊า
เพื่อขอทำสัญญาค้าขายใน พ.ศ. ๒๓๖๓
ต่อจากนั้นมาอีก ๒ ปี นาย จอน ครอเฟิด
ทูตอังกฤษเข้ามาขอทำสัญญาจากผู้สำเร็จราชการอินเดียใน พ.ศ. ๒๓๖๕
จนถึงรัชกาลที่ ๓
อังกฤษเกิดรบกันขึ้นกับพม่า ครั้นเมื่อได้ชัยชนะแล้วจึงให้กัปตันเฮนรี่ เบอร์เนย์
เข้ามาทำสัญญากับไทนใน พ.ศ. ๒๓๖๘ ต่อมาทูตอเมริกัน นาย เอ็ดมอนด์ โรเบิต
เข้ามาทำสัญญาเมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๕
ในปี พ.ศ. ๒๓๘๑ นาย ริดชัน ทูตอังกฤษเข้ามาทำสัญญาขอซื้อช้าง
และเซอร์เจมส์ บรู้ค ผู้ครองเกาะซาราวัคเข้ามาขอทำสัญญาอีกเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน
พ.ศ. ๒๓๙๓
ซึ่งเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ ๓ เสด็จสวรรคต รวมทูตอังกฤษที่เข้ามาทำสัญญากับเมืองไทยถึง ๔ ครั้ง
ส่วนใหญ่จะเป็นการทำสัญญา เรื่องผ่านแดนไทยกับพม่า สัญญาซื้อขายช้าง ม้า เป็นต้น
เดิมทีไทยไม่เต็มใจในการทำสัญญาเปิดประตูการค้าสักเท่าไหร่
แต่ ทางเราเองก็เกรงๆกับมหาอำนาจตะวันตกที่มีเรือรบที่ทำด้วยเหล็ก ที่
เขาเตรียมจะใช้กำลังกับเราอยู่แล้ว
เมื่อถึงแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นมาเสวยราชย์เป็นระยะที่เหล่าประเทศมหาอำนาจตะวันตก
ออกล่าอาณานิคมในซีกโลกตะวันออกกันอย่างเมามัน
ประเทศไทยก็เป็นเป้าหมายสำคัญของนักล่าอาณานิคมเหล่านั้นด้วย
โดยเฉพาะฝรั่งเศสและอังกฤษ พยายามหาช่องทางจะเจ้ายึดครองประเทศไทยให้ได้
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นมาเสวยราชย์
ได้ ๔ ปี เซอร์จอน โบว์ริง เจ้าเมืองฮ่องกง ก็มีจดหมายส่วนตัวเข้ามากราบทูลว่า
คราวนี้ตัวเขาจะเข้ามาเป็นราชทูตแทนพระองค์ควีน วิคตอเรีย
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบข้อไขอันนี้ดี
ว่า ขณะนั้นควีนวิคเตอเรียมีอำนาจมาก จึงเปิดประตูรับในฐานะมิตร
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เคยมีพระราชดำริว่าอังกฤษน่าจะมีความเป็นมิตรกับสยามดีกว่าฝรั่งเศสซึ่งมีทีท่าคุกคามสยามอย่างเปิดเผยและรุนแรง
แต่ภายหลังทรงพบว่าอังกฤษก็มีแนวคิดและความประสงค์ที่จะได้สยามเป็นอาณานิคมเช่นกัน
แต่เป็นไปอย่างเงียบๆ
ทรงเล็งเห็นความจำเป็นที่จะต้องมีมหาอำนาจที่ไว้ใจได้เป็นมิตรประเทศ
เพื่อมีส่วนทำให้ฝ่ายตรงข้ามเกรงใจและคุมเชิงรอโอกาสเหมาะสมที่จะเข้ายึดครองสยาม
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงใช้วิธีปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเต็มความสามารถทุกกลวิธีหว่านล้อมด้วยการสมานมิตรไมตรี
เป็นผลสำคัญที่ทำให้เราได้พ้นภัยมาได้แต่ผู้เดียวในทางตะวันออกประเทศนี้
จากนี้ไป ผมขออ้างอิงงานเขียนของ
หม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล พระธิดาอีกองค์หนึ่งของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงฯ
ที่กล่าวว่า การเจรจาคราวนั้นเกิดข้อขัดแย้งสำคัญขึ้น ก่อนจะคลี่คลายมาได้
“เมื่อเหตุการณ์เรียบร้อยแล้วจึงทรงพระราชดำริว่าเมืองไทยเรานี้มีเหตุการณ์หวิด
ๆ จะต้องเสียอิสรภาพมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่เผอิญให้มีเหตุรอดพ้นได้เสมอมา
ชะรอยจะมีเทพยดาองค์ใดองค์หนึ่งที่คอยพิทักษ์รักษาอยู่
จึงสมควรจะทำรูปเทพพระองค์นั้นขึ้นไว้สักการบูชา
แล้วจึงโปรดฯ
ให้พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ นายช่างเอก ทรงปั้นรูปเทพพระองค์นั้น
เป็นรูปแทรงต้นยืนถือพระขรรค์ ในพระหัตถ์ขวา ขนาด 8 นิ้วฟุตงดงามได้สัดส่วน
แล้วหล่อด้วยทองคำแท่ง
และทรงถวายพระนามเทวดาอารักษ์ว่า
'พระสยามเทวาธิราช”
เพราะ.......
วัฒนธรรมไม่ใช่อุดมการณ์ความคิดทางการเมือง
แต่วัฒนธรรมคือแรงศรัทธา
ที่มีกลไกกาลเวลาบ่มเพาะ
ว่าเราเชื่อมั่นตั้งแต่กรุงสุโขทัยว่าบ้านเมืองเรามีผีย่านาง
เทวดาอารักษ์อาณาจักรเสมอ จนล่วงลับเวลายุคสมัยอยุธยาและกรุงรัตนโกสินทร์
วัฒนธรรมยังแข็งแรงปานเหล็กกล้า ที่เชื่อมั่นอย่างยิ่ง ว่า .....
เรามีพระประมุขเป็นศูนย์รวมจิตใจ
มีเทวดาคอยดูแล ที่ปกปักรักษาเอกราชไทย มิเคยเสื่อมคลาย
......................................
อ.ฉัตรชัย ผาสุขธรรม / เขียน
#CULTTVTHAI
วัฒนธรรมไม่ใช่อุดมการณ์และความคิดทางการเมือง
- รายละเอียด
- เขียนโดย: ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท
- หมวด: ประชาสัมพันธ์
- ฮิต: 882