หลักภูมิสังคม
วันนี้คำสำคัญคือ ภูมิสังคม ครับ ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ
ซึ่งภูมิสังคม คือ
ความมั่นคงในการที่จะมีกิจกรรมพื้นฐานของความเป็นเศรษฐกิจพอเพียง
หมายความว่าอย่างไร
หมายความว่าสภาพสังคมในพื้นที่นั้นๆเป็นตลาดในการสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจของพื้นที่
โดยมีฐานทรัพยากรหลักจากภูมิศาสตร์หรือภูมิประเทศ
ซึ่งหากมองตามเส้นทางของความเป็นเศรษฐกิจพอเพียงนั้น ต้องเริ่มจากพอกิน พอใช้ ก่อน
ดังนั้นการออกแบบและวางแผนกิจกรรมต่างๆในแต่ละพื้นที่แต่ละชุมชน
จะต้องออกแบบตามสภาพสังคม ผมขอเรียกว่า Primary Demand หรือความต้องการหลัก รวมทั้งการศึกษาข้อมูลอย่างเป็นระบบจากสภาพภูมิศาสตร์ของพื้นที่นั้นๆด้วยว่าเป็นอย่างไรและมีวงจรภูมิสังคมคือ
น้ำ ดิน เกษตร พลังงาน ป่าไม้กับทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ดีพอแล้วหรือยัง
ในการที่จะเป็นฐานทรัพยากรหลัก บวกกับสภาพสังคมของชุมชนของพื้นที่นั้นๆว่า มีลักษณะเป็นอย่างไร
บริโภคอะไรเป็นอาหารหลักตลาดชุมชนอะไรขายดี ใช้ของอุปโภคอะไรมาก อะไรบ่อย
บ้านเรือนที่อยู่อาศัยมีลักษณะอย่างไร ชอบทำกิจกรรมอะไรเป็นประเพณี
มีคุณลักษณะสังคมเป็นแบบใด เช่นครอบครัวใหญ่ หรือครอบครัวเล็ก
เมื่อมีข้อมูลทั้งสองเรื่องสำคัญนี้เราจึงจะมาออกแบบกิจกรรมที่จะเกิดระบบการผลิตภายพื้นที่ที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานได้และนี่คือขั้นตอนแรกของการพัฒนาเพื่อให้เกิด
การพอมี พอกิน พออยู่ ในชุมชนของพื้นที่นั้นๆ
มันคือจุดเริ่มต้นของเศรษฐกิจพอเพียง แปลว่า ชุมชนนั้ันๆจะมีระบบการผลิตเบื้องต้นสำหรับการพึ่งพาตนเอง
แต่จะตามมาด้วยอีก 2
ขั้นคือการสร้างสังคมนั้นๆให้เข้มแข็งอันจะนำมาซึ่งเศรษฐกิจชุมชนที่แข็งแรง
นั่นคือ ขั้นการสร้างเครือข่ายด้วยการ แจกและการแลก
ที่ไม่ต้องใช้สิ่งแทนค่าที่เรียกว่า เงินตรา การแจกคือ การแบ่งปัน การให้
การเกื้อกูล การสนับสนุนซึ่งกันและกันของชุมชนในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความร่วมมือ
ความรู้ ความสามัคคีในชุมชน การแลกคือการแลกเปลี่ยนสินค้า ผลผลิต ความรู้
ซึ่งมันเป็นการสร้างมูลค่าของสังคม ที่แท้จริง
จะทำให้เกิดการแข่งขันภายในที่มีคุณภาพบนพื้นฐานคุณธรรมที่ดี
และเป็นไปตามลักษณะของสังคมนั้นๆ จาก 3
ขั้นนี้จะทำให้เกิดตลาดภายในชุมชนและพื้นที่นั้นๆที่เข้มแข็งมาก
นั่นคือการมีเศรษฐกิจชุมชนที่เข้มแข็งจริงๆ และสุดท้ายสิ่งต่างที่เหลือจากผลผลิต
การบริโภค และอุปโภคจะสามารถสร้างตลาดภายนอกได้อย่างมั่นคงและมีมูลค่าอย่างยั่งยืน
นั่นคือ พอขาย ซึ่งปัจจุบันความคิดคนส่วนใหญ่จะวิ่งตามตลาดและพยายามผลิตของที่ตลาดต้องการ
โดยไม่มีความเข้าใจว่าตลาดคืออะไร
เพราะเอาเรื่องรายได้และเงินตราเป็นหลักคิดจึงข้าม 3 ขั้นแรกไปหมด
สรุป
จากหลักแนวคิดภูมิสังคมและเส้นทางการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (1.พอมี
พอกิน พอใช้ 2.พอแจก 3.พอแลก 4.พอขาย)
ตามที่ผมได้กล่าวมาในข้างต้นคงจะพอให้ทุกท่านเข้าใจว่า
ในกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร ที่พระราชทานไว้ เมื่อ 4 ธ.ค.2541
มีความสรุปตอนหนึ่งเกี่ยวกับภัยคุกคามทางเศรษฐกิจของโลกและประเทศไทยว่า
“เศรษฐกิจพอเพียงนี้ให้ปฏิบัติเพียงครึ่งเดียว คือไม่ต้องทั้งหมด
หรือแม้จะเศษหนึ่งส่วนสี่ก็พอ ได้ปฏิบัติเกี่ยวกับการพัฒนามาช้านานแล้ว
มาบอกว่าเศรษฐกิจพอเพียงนี่ดีมาก
แล้วก็เข้าใจว่าปฏิบัติเพียงเศษหนึ่งส่วนสี่ก็พอนั้น หมายความว่า
ถ้าทำได้เศษหนึ่งส่วนสี่ของประเทศก็จะพอ
ความหมายของเศรษฐกิจพอเพียงและทำได้เพียงเศษหนึ่งส่วนสี่ก็พอนั้น ไม่ได้แปลว่า
เศษหนึ่งส่วนสี่ของพื้นที่ แต่เศษหนึ่งส่วนสี่ของการกระทำ”
จะสามารถเป็นไปได้อย่างไร ด้วยอะไรและมีกรอบแนวคิดในการวางแผนได้จากอะไร
ซึ่งวันนี้มีน้อยคนที่เข้าใจเรื่องนี้อย่างแท้จริงจึงไม่เกิดแผนงานและโครงการที่จะบรรลุพระราชประสงค์อย่างแท้จริงนั่นคือ
การพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
ชาติวัฒน์
คงอุทัยสกุล
3 ก.พ.64