คืนวันที่ ๒๔ มี.ค. ๕๖ ผมนอนค้างคืนที่ห้องพักรับรอง บี ๒๐๑ อาคารประสานใจ ๑ ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยการร้องขอ ไม่ไปนอนโรงแรมตามที่ท่านรองอธิการบดี รศ. ดร. จุฑามาศ ศตสุข เตรียมจัดให้ เพราะต้องการไปวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าเพื่อรำลึกถึงบรรยากาศเก่าๆ สมัยทำงานที่ มอ. หาดใหญ่ ที่ผมเริ่มวิ่งออกกำลังกายสม่ำเสมอทุกเช้ามืด ตั้งแต่อายุ ๔๐ ปี
เช้าวันที่ ๒๕ ผมตื่นโดยเสียงปลุกของนกกางเขนบ้าน มาร้องเจื้อยแจ้วอยู่ข้างห้องนอน เป็นบรรยากาศที่สดชื่นด้วยธรรมชาติที่ผมชอบ ไปนอนโรงแรมในเมืองไม่มีธรรมชาติน่าชื่นชมเช่นนี้
ระหว่างนั่งพิมพ์บันทึกนี้ ก็ได้ยินเสียงนกปรอดหน้าขาวร้องโต้ตอบกัน สลับกับเสียงนกกางเขนบ้าน และนกเขาเล็ก ให้ความสดชื่นยิ่งนัก
เวลา ๖.๐๐ น. ฟ้าสาง ผมออกไปวิ่ง ไปทางถนนรอบอ่างน้ำ และเข้าไปในหมู่บ้านเก่า ไปดูบ้าน ๓/๓ และ ๓/๔ ที่ผมเคยอยู่ พบว่าบ้านพักรุ่นแรกที่เป็นบ้านพักชั้นเดียวทรุดโทรมมาก บางหลังถูกทิ้งร้าง บางหลังกำลังซ่อมแซมใหญ่
บ้านพักกลุ่ม ๓/ ถือเป็นบ้านที่ดีที่สุด มีอยู่ ๑๐ หลัง สมัยที่ผมไปอยู่ใหม่ๆ ปี ๒๕๑๗ เขาหวงมาก เรียกว่าบ้านพักศาสตราจารย์ แต่เขาก็จัดสรรให้ผมซึ่งตอนนั้นเป็นแค่ ผศ. และอายุแค่ ๓๒ เข้าพักที่บ้าน ๓/๓ ซึ่งทำเลที่ที่สุดหลังหนึ่ง เพราะด้านหนึ่งติดป่า อีกด้านหนึ่งติดกับบ้าน ๓/๔ ซึ่งสมัยนั้น ศ. ดร. ประดิษฐ์ เชยจิตร์ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ พักอยู่ และต่อมา ผศ. นพ. ไสว ลิมปิเสฐียร กับพี่พิมล มาพักอยู่นานหลายปี แล้วย้ายออกไป เพราะท่านย้ายกลับไปอยู่กระทรวงสาธารณสุข และได้ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่ไหนจำไม่ได้ จำได้ว่า ตำแหน่งสุดท้ายคือ ผอ. รพศ. ราชบุรี เมื่อท่านย้ายออกไป เขาก็ปรับปรุงบ้าน ๓/๔ แล้วให้ผมย้ายไปอยู่ เพื่อปรับปรุงบ้าน ๓/๓ ซึ่งโดนปลวกกินอย่างรุนแรง ในช่วงเวลา ๒๐ ปี ที่ครอบครัวผมทำงานที่ มอ. หาดใหญ่ เราจึงพักอยู่ที่บ้าน ๒ หลังนี้
ทั้งบ้าน ๓/๓ และ ๓/๔ ยังอยู่ดี แต่บ้าน ๓/๖ กำลังซ่อมใหญ่ บ้านหลังนี้สมัยโน้น ศ. นพ. อาทร์ อาทรธุระสุข พักอยู่ ท่านเป็นหัวหน้าภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โทปิดิกส์ ท่านเป็นโสด และจบแพทย์ศิริราชก่อนผม ๑๒ รุ่น ท่านเป็นคนหนึ่งที่วิ่งออกกำลังกายเป็นประจำ บางวันออกวิ่งดึกๆ ก็มี สมัยนั้นผมเห็นเป็นของแปลก แต่มารู้ตอนนี้ว่าท่านทันสมัยมาก ท่านรู้ว่าการวิ่งออกกำลังแบบ แอโรบิก ทำให้ร่างกายแข็งแรง ท่านเพิ่งเสียชีวิตเมื่อไม่กี่เดือนมานี้
บ้าน ๓/๕ สมัยโน้นผู้พักอาศัยคือ รศ. นพ. จงดี - ศ. พญ. วิมล สุขถมยา และลูกสาว ๒ คน อ. หมอจงดีเป็นหัวหน้าภาควิชารังสีวิทยา และเคยเป็นรองคณบดี ท่านจบแพทย์จากศิริราชก่อนผม ๖ รุ่น ในปลายปี ๒๕๒๔ เมื่อตำแหน่งคณบดีคณะแพทยศาสตร์ว่าง ท่านไม่ยอมเป็นคณบดี ผมจึงได้รับตำแหน่ง สมัยโน้นคณะเพิ่งตั้งใหม่ๆ และคณบดีไม่ได้มาอยู่ประจำอย่างสมัยนี้ คนที่มาอยู่ประจำเป็นมือรองๆ จึงมีเรื่องระหองระแหงกันมาก ผมเป็นคนรุ่นอายุน้อย แต่รับผิดชอบเท่าคนอื่น คงจะมีคนหมั่นไส้ไม่น้อย ต่อมา อ. หมอจงดี และวิมลย้ายกับไปอยู่เชียงใหม่อย่างเดิม ท่านวางแผนซื้อไม้อย่างดีไว้สร้างบ้านที่เชียงใหม่
บ้าน ๓/๗ ผศ. นพ. ดิลก - ผศ. พญ. นพรัตน์ (ตู้จินดา) เปรมัษเฐียร กับลูกสาว (ผศ. พญ. นลินี เปรมัษเฐียร เป็นอาจารย์ที่ศิริราช) และลูกชาย นล เปรมัษเฐียร พักอยู่ ทั้ง ๒ ท่านย้ายมาจากคณะแพทยศาสตร์ มช. พี่ดิลกเป็นอีกคนหนึ่งที่วิ่งออกกำลังกายเป็นประจำ และชอบขี่รถมอเตอร์ไซคล์ ท่านเป็นหัวหน้าภาควิชาศัลยศาสตร์ และต่อมาย้ายไปทำงาน รพ. เอกชนที่กรุงเทพ
ผมระลึกชาติกลับไปเกือบ ๔๐ ปี หวนกลับมาตอนนี้ สภาพลำธารที่หน้าฝนมีน้ำไหลมาจากเขาคอหงษ์ มาลงอ่างเก็บน้ำ ยังอยู่ในสภาพเดิม เวลานี้เป็นหน้าแล้งอ่างเก็บน้ำ และลำธารแห้งขอดเหมือนสมัยก่อน ผมวิ่งวนหมู่บ้านเก่า ๑ รอบ พบคนรู้จัก ๒ คน แล้ววนมาที่ถนนรอบอ่างน้ำทางทิศตะวันออก ไปพบบริเวณอนุรักษ์ป่าอยู่บริเวณทิศตะวันออกของอ่างน้ำ ผมชอบมากที่มีการอนุรักษ์พื้นที่ตรงนั้นไว้ วิ่งไปหน้าหมู่บ้านพักแพทย์ ซึ่งถือว่าเพิ่งสร้างใหม่ ประมาณปี ๒๕๒๓ แต่ไม่ได้วิ่งเข้าไปในหมู่บ้าน วิ่งออกลู่วิ่งรอบอ่างน้ำด้านทิศใต้ มีคนจากหาดใหญ่มาทัก ว่าผมแก่ขนาดนี้แล้วยังวิ่งได้ และถามว่าทำไมไม่เห็นนานแล้ว
ผมวิ่งไปหยุดถ่ายรูปไป รวมแล้วใช้เวลา ๑ ชั่วโมง เหงื่อโชกทีเดียว ไม่ได้วิ่งจนเหงื่อโชกเช่นนี้นานแล้ว ทำให้คิดถึงสมัยอยู่หาดใหญ่ ผมวิ่ง ๔๐ นาที ด้วยความเร็วมากกว่าที่วิ่งสมัยนี้ วิ่งเสร็จเหงื่อโทรมตัว และรู้สึกตัวตึงๆ ตลอดวัน
ตอนวิ่งผ่านด้านหลังคณะวิทยาศาสตร์ และตอนไปวิ่งในหมู่บ้านเก่า ผมได้กลิ่นดอกไม้หอม สดชื่นยิ่งนัก ตอนเช้ามืดที่ มอ. หาดใหญ่มีคนมาเดิน/วิ่ง มากกว่าสมัยผมอยู่หลายเท่าตัว ทั้งคนแก่และหนุ่มสาว สมัยผมอยู่ที่นี่คนวิ่ง/เดิน ตอนเช้ามีน้อย แต่ตอนเย็นก็มีความมากพอๆ กับตอนเช้าที่ผมเห็นวันนี้ สมัยโน้นลู่วิ่งไม่ดีอย่างสมัยนี้ ตอนนี้มีลู่วิ่งอย่างดีรอบอ่าง แยกจากถนนสำหรับรถ สภาพทั้งหมดนี้ บอกผมว่า สังคมที่นี่ผู้คนสนใจออกกำลังกายมากกว่าสมัยก่อน น่าดีใจ เพราะเป็นวิธีสร้างเสริมสุขภาพที่ง่ายและได้ผลดีที่สุด หากทำจนเป็นนิสัย ก็จะมีคุณต่อชีวิตเป็นอย่างยิ่ง
วิจารณ์ พานิช
๒๕ มี.ค. ๕๖
ห้องพักรับรอง บี ๒๐๑ อาคารประสานใจ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
บริเวณอ่างน้ำ
คัดลอกจาก http://www.gotoknow.org/posts/536863