พลังรัก พลังอำนาจเป็นหนังสือแปล จากหนังสือPower and Love : Theory and Practice of Social Change โดย Adam Kahane แปลโดย ดร. สันติ กนกธนาพร และดร. สุมิท แช่มประสิทธิ์ เสนอสมดุลแห่งพลังที่สร้างปาฏิหาริย์มาแล้วทั่วโลก
นี่คือเรื่องการจัดการความขัดแย้ง โดยไม่ตกลงกันเรื่องความขัดแย้ง แต่จินตนาการอนาคตร่วมกัน มีกระบวนการฝันร่วมกันจนทุกฝ่ายเกิดการเปลี่ยนแปลงจากก้นบึ้งของหัวใจ (transformation)
ผมตีความว่า นี่คือหนังสือว่าด้วยการขับเคลื่อนพลังด้านบวกของความเป็นมนุษย์ ให้ค่อยๆรวมตัวกันเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ทรงคุณค่าร่วมกัน ก้าวข้ามความข้ดแย้งในอดีต และปัจจุบันไปสู่อนาคตที่วาดฝันร่วมกัน
เป็นหนังสือที่อธิบายทั้งด้านบวก และด้านลบของความรัก และของพลังอำนาจ โยงสู่การทำให้ด้านบวกของสองสิ่งนี้สร้างพลังยกระดับซึ่งกันและกัน ไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดได้
"อำนาจที่ปราศจากความรักไม่สามารถนำไปสู่ความสำเร็จ
ความรักที่ปราศจากอำนาจก็ไม่สามารถนำไปสู่ความสำเร็จได้เช่นเดียวกัน"
ขั้วตรงข้ามของความรุนแรงคือ ความสร้างสรรค์ ไม่ใช่สันติภาพ หากจะแก้ความรุนแรงต้องแก้ด้วยความสร้างสรรค์ ไม่ใช่ด้วยการเรียกร้องหาสันติภาพ
เป็นหนังสือว่าด้วย scenario thinking - การฝึกฝนให้เกิดความคิด และการกระทำที่สร้างสรรค์ในบริบทของการเปลี่ยนแปลง ความซับซ้อนและความไม่แน่นอน ด้วยภาพที่เลือนรางในอนาคต
กุญแจสำหรับสร้างความจริงใหม่ให้แก่สังคม มี ๒ ดอก และต้องใช้ทั้ง ๒ ดอกประกอบกัน คือ (๑) การเปิดใจของเราเชื่อมโยงกับใจ (ที่เปิด) ของผู้อื่น (๒) การเติบโตเปลี่ยนแปลงด้วยอำนาจและความรัก
"อำนาจ" ในที่นี้หมายถึงแรงขับเคลื่อนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ ด้านลบคืออำนาจเพื่อบงการ ด้านบวกคืออำนาจเพื่อบรรลุ
สองด้านของความรักคือ ด้านบวกความรักสู่การสร้างสรรค์ ด้านลบความรักสู่การทำลายล้าง
ความรักจะสร้างสรรค์ได้ต้องได้พลังจากอำนาจด้านบวก
หนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยเรื่องเล่า ที่สะท้อนให้เห็นว่าผู้เขียน(Adam Kahane) เรียนรู้จากประสบการณ์จริงอยู่ตลอดเวลา และอาศัยการเรียนรู้จากประสบการณ์นั้นเอง ตกผลึกออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้ หนังสือแ่ห่งพลังความรัก...และอำนาจ โดยนิยามอำนาจแตกต่างไปจากความเคยชินของคนไทย...หมายถึงแรงขับเคลื่อนเพื่อบรรลุเป้าหมาย
ผมตีความว่า นี่คือพลังหยิน-หยางในคติตะวันออก หยินคือความรัก หยางคืออำนาจ หนังสือเล่มนี้ว่าด้วยเรื่องราวของการประยุกต์ใช้พลังหยินหยางให้เสริมกันในสถานการณ์จริง
หนังสือพลังรักพลังอำนาจไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นทันใดด้วยตัวเอง แต่ก่อเกิดสั่งสมมาจากสำนักคิด-สำนักปฏิบัติ-สำนักเรียนรู้ ที่เน้นความรู้จากการปฏิบัติ ที่มีPeter Senge, Otto Scharmer, Joseph Jawarskiเป็นต้นเป็นสมาชิกกลุ่ม
รวมทั้งต่อยอดจากหนังสือวิธีสร้างปาฏิหาริย์เมื่อสถานการณ์ถึงทางตัน ที่แปลจากSolving Tough Problems : An Open Way of Talking, Listening, and Creating Realities
ผมชื่นชมที่หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นจากการAAR หรือreflection ประสบการณ์จริงของผู้เขียน คือ Adam Kahane และผมเชื่อว่าพลังแบบนี้แหละที่จะช่วยปลดปล่อยประเทศไทยออกจากวิกฤตความขัดแย้ง
รวมทั้งชื่นชมการทำงานวิชาการ (วิจัยปฏิบัติการ) ควบคู่ไปกับงานบริการที่ปรึกษาเพื่อรับใช้สังคมหรือรับใช้โลก ที่น่าจะเป็นตัวอย่างของนวัตกรรมหรือแนวโน้มของการทำงานวิชาการด้านการเปลี่ยนแปลงสังคม
วิจารณ์ พานิช
๒๑ ก.พ. ๕๖