เช้าวันที่ ๙ ต.ค. ๕๖ ผมมีบรรยายเรื่อง New Dimensions of Knowledge Management : Beyond Learning Organization ที่ศิริราชเวลา ๘.๔๐ น. คุณสรพงศ์ โชเฟอร์ของผมบอกว่ากลัวรถติด ขอออกจากบ้านเวลา ๖.๓๐ น. ปรากฎว่ารถคล่องอย่างประหลาด ผมไปถึงศิริราชเวลา ๗.๐๐ น.! ผมจึงไปเดินเล่นและนั่งกินบรรยากาศที่ลานหน้าพิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน หนึ่งชั่วโมง
อากาศเย็นสบาย ลมพัดโชยมาตลอดเวลา ผมขออนุญาตเจ้าหน้าที่ นั่งที่เก้าอี้อะลูมิเนียมอย่างดี ที่มีอยู่ตัวเดียว เดาว่าจัดไว้ให้เจ้าหน้าที่นั่งรักษาการณ์ความเรียบร้อย อยู่ใต้ต้นลิ้นจี่ และมีร่มไม้อื่นๆ อีกหลายต้น ให้ร่มเงาร่มรื่นยิ่งนัก ผมบอกตัวเองว่า ดั่งอยู่บนสวรรค์ รู้สึกคล้ายๆ กับตอนไปนั่งริมแม่น้ำนครชัยศรีที่สวนสามพราน ตามบันทึกที่นี่ แต่คราวนี้ไม่มีเสียงเพลงไพเราะ มีแต่เสียงเรือหางยาวในแม่น้ำเจ้าพระยา และเสียงอึกทึกอื่นๆ ผสมเสียงนก
เช้านี้อากาศดี แดดจ้าแต่ยังเช้าจึงไม่ร้อน ก่อนนั่งผมเดินมรอบๆ บริเวณเสียก่อน เป็นการชมความเปลี่ยนแปลงจากที่มาชมฉบับเต็มรูปคราวที่แล้ว ซึ่งบันทึกไว้ที่นี่ คราวนี้เห็นว่าต้นไม้ที่ย้ายมาปลูกเริ่มแตกกิ่งใบงามสะพรั่ง ต้นลีลาวดีสีขาวออกดอกช่อใหญ่งามมาก และกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้ความสดชื่นยิ่งนัก มีคนมาวิ่งออกกำลังกาย ๕ คน โดยทะยอยมา ต่างเวลากัน คู่หนึ่งเก็บดอกร่วงของลีลาวดีกลับบ้านด้วย
ผมคิดในใจว่า ผมช่างมีบุญเสียจริงๆ ที่มีโอกาสได้นั่งซึมซับบรรยกาศ “ดั่งสวรรค์” ในที่ต่างๆ อยู่บ่อยๆ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ by Plus-HD-1.5" style="color: #0022cc; text-decoration: underline; border: 0px; outline: 0px;">เลย
ตอน แปดโมงเช้า ก็มีหญิงชายอายุราวๆ ๓๐ คู่หนึ่งหิ้วถุงใบโตเข้ามา และถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่าถ่ายรูปได้ไหม เจ้าหน้าตอบอย่างสุภาพว่า “ถ่ายได้ครับผม”
ผมนึกในใจว่า อีกหลายปีข้างหน้า เมื่อตกแต่งพื้นที่อีกฝั่งหนึ่งของปากคลองบางกอกน้อยเป็นสวนสาธารณะ และมีสะพานเชื่อมาฝั่งนี้ จะมีที่พักผ่อนหย่อนใจ และออกกำลังกายที่ “สุดยอด” ผมหวังจะได้อยู่เห็นสวนนี้
วิจารณ์ พานิช
๙ ต.ค. ๕๖