Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Thaiihdc.org

Buddhist World

พิมพ์ PDF

แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 27 เมษายน 2016 เวลา 04:04 น.
 

เชิญติดตามชมรายการ เปลี่ยน เป็น เปลี่ยน ออกอากาศวันที่ 27 เมษายน 2559

พิมพ์ PDF

ขอเชิญชมรายการ เปลี่ยน เป็น เปลี่ยน รายการสดออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ โลกพระพุทธศาสนาเฉลิมพระเกียรติฯ WBTV ทุกวันพุธ เวลา 20.30 -21.00 น (ยกเว้นวันพระ)

รายการ เปลี่ยน เป็น เปลี่ยน เป็นรายการสาระการเรียนรู้ จากประสบการณ์ของผู้ร่วมเสวนา  เพื่อใช้เป็นแนวทางการเปลี่ยนตัวเองของผู้รับชม ทุกเพศ ทุกวัย  

สำหรับรายการในคืนวันที่ 27 เมษายน  2559 คุณพุฒิเชษฐ์ ภูริพงษ์ธนเจริญ  คนรุ่นใหม่ไฟแรงวัย 30 ปี ปริญญาตรี  คณะศึกษาศาสตร์ สาขาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผ่านประสบการณ์มากมายหลายสาขาอาชีพ เช่น ติวเตอร์  คณิตศาสตร์  เคมี ฟิสิกส์ ครูสอนคณิตศาสตร์ พนักงานฝ่ายขาย ธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจเครือข่าย  เทรนเนอร์การพัฒนาตัวเอง ธุรกิจกวดวิชา ธุรกิจประดับยนต์ ธุรกิจอสังหริมทรัพย์    จะมาแชร์มุมมองการวางแผนชีวิตของวัยรุ่นที่ควรรู้ ว่าควรเปลี่ยนความคิดยังไง เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนและมั่นคง แบ่งปันบันดาลใจ  รับมือกับยุคทุนนิยมยังไง  เศรษฐกิจฐานความรู้ช่วยเเก้ปัญหาให้เราได้อย่างไร?

โปรดติดตามชมให้ได้ครับ คืนวันที่ 27 มีนาคม 2559 เวลา 20.30 -21.00 น รับชมทาง Internet ได้ทั่วโลก www.wbtvonline.com หรือ

รับชมทางมือถือ www.stationg.com/wbtv

สำหรับท่านที่รับชมทาง ทีวี ผ่านจานดาวเทียม สามารถรับชมได้ตามช่องต่างๆดังนี้

กล่องดาวเทียมค่าย GMM ช่อง 175

กล่องดาวเทียมค่าย PSI ช่อง 239

กล่องดาวเทียวค่าย CTH  ช่อง 870

กล่องดาวเทียวค่าย  Infosat ;Thaisat; Indeasat ; Leotech ช่อง 189

สำหรับท่านที่ติดธุระหรือพลาดชมรายการสด สามารถติดตามชมรายการย้อนหลังได้ทาง YouTube พิมพ์ “รายการ เปลี่ยน เป็น เปลี่ยน

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท


26 มีนาคม 2559

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 26 เมษายน 2016 เวลา 13:20 น.
 

สันติภาพโลก

พิมพ์ PDF

สังคมนั้นคือการที่คนเราหลายๆคนมาอยู่ร่วมกันจำนวนมาก
เเต่ธรรมชาติของคนเราเเม้อยู่คนเดียวก็ต้องมีกฏเกณฑ์
หน้าที่ที่พึงกระทำ อะไรทำได้ไม่ได้แค่ไหน ยิ่งการไปเกี่ยวข้องกับคนอื่นที่มากขึ้นก็ยิ่งมีปัญหาอีกมากมายที่อาจกระทบกันเเละกัน เบียดเบียนกัน เเต่การที่คนเราอยู่ร่วมกันเป็นสังคมเพราะเเสวงหาความมั่นคงความปลอดภัย ต้องการความสุขสะดวกสบาย การมีเกียรติ เเต่ตนเรานั้นมีอัตตา เเเละอัตตาที่มากเกินไปเเละการใช้วิธีที่ตอบสนองอัตตาด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้องนำมาซึ่งปัญหา กระทบกระเทือนเกิดปัญหาต่อคนในสังคม ฉะนั้นจึงต้องมีกฏหมายเเละรัฐธรรมนูญ เเต่คนคือผู้สร้างผู้ควบคุมรัฐธรรมกฏหมาย กฏหมายเเละรัฐธรรมนูญจะสามารถดำเนินสู่เป้าหมายได้จริงเเค่ไหนอยู่ที่คนออกกฏหมายยุติธรรมหรือไม่ คนบังคับใช้เป็นกลางหรือไม่ ทั้งกฏหมายรธน.เองก็ก็ต้องประยุกต์ให้สอดคล้องสถานการณ์ กฏหมายเเละรัฐธรรมนูญเป็นเเค่องค์ประกอบหนึ่งที่จะสร้างสังคมที่สุขสงบสบาย เเต่ต้องมีอีกหลายองค์ประกอบประเทศสังคมจึงจะสามารถดำเนินสู่ประเทศที่เจริญสงบสุขสบายได้

คัดลอกจาก :https://www.facebook.com/kingdragonmission?pnref=story

แก้ไขล่าสุด ใน วันจันทร์ที่ 25 เมษายน 2016 เวลา 23:35 น.
 

บทเรียนจากการแชร์ Line

พิมพ์ PDF

บทเรียนจากการแชร์ Line

ผมได้รับ Line จากผู้ที่ผมนับถือท่านหนึ่ง มีใจความดังนี้

“รธน.นี้ ประชาชนเดือดร้อนตรงไหน ?

ก็เพราะในร่างดังกล่าวระบุว่า หากนักการเมืองมีการโกงกิน คอรัปชั่น ผลาญงบประมาณเป็นว่าเล่น มีโทษหนัก คือ ประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต ไม่มีการรอลงอาญา และมิให้ประกันตัวแล้วประชาชนเดือดร้อนตรงไหน?

เพราะเหตุใด? นักการเมืองทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และอีกหลายๆพรรค ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับของ คสช.

คดีความต่างๆที่เกิดขึ้นในทางการเมือง คดีความจะไม่มีวันหมดอายุความเมื่อมีคดีความติดตัว คดีอยู่ระหว่างการดำเนินการของศาล หรือองค์กรอิสระ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศโดยเด็ดขาด แล้วประชาชนเดือดร้อนตรงไหน?

หากมีการตรวจสอบพบว่า มีการร่ำรวยผิดปกติ มีการฟอกเงิน มีการยักยอกทรัพย์สินของทางราชการหรืองบประมาณแผ่นดินไปเป็นของตนเองหรือพวกพ้อง ต้องโทษจำคุก 15 ถึง 30 ปี และยึดทรัพย์ที่ได้ไปโดยมิชอบนั้นให้ตกเป็นของแผ่นดิน แล้วประชาชนเดือดร้อนตรงไหน?นักการเมืองถึงรับไม่ได้ ทั้งอดีตฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลดาหน้าสามัคคีกันออกมาคัดค้าน เรียกหาประชาชนเป็นเครื่องมือเพื่อคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับ คสช. แล้วประชาชนจะยอมเป็นเครื่องมือให้เขาอีกไหม?

ห้ามมิให้นักการเมืองใช้ช่องทาง VIP มิให้อำนวยความสะดวกให้แก่นักการเมือง ห้ามโดยสารเครี่องบินชั้น First Class ฟรี   แล้วประชาชนเดือดร้อนตรงไหน?


พวกโกงกิน สปก. , สถานีตำรวจ, ถนนปลอดผุ่น, ครุภัณฑ์อาชีวะ, ไทยเข้มแข็ง, น้ำมันปาล์ม, ประกันราคาข้าว และจำนำจำนองข้าว ฯลฯ พวกนี้เป็นวัวสันหลังหวะ แถมเคยได้รับอภิสิทธิ์ต่างๆเหนือประชาชนมากมาย จึงกลัวร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาก ถึงได้ออกมาเรียกร้องให้คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ

เหมือนผีเห็นพระดีที่เราแขวนคออยู่ เรียกร้องให้เราถอดออก แล้วเราจะถอดออกเพื่อให้ผีมาบีบคอเราไหม?

กรุณาแชร์ต่อออกไปให้มากที่สุด เพื่อชาติไทยของพวกเราจะได้ปลอดคนโกงซะที “


ผมได้อ่านทบทวนข้อความนี้หลายครั้ง และมีความคิดว่า ถ้ารัฐธรรมนูญ เขียนไว้เช่นนั้นจะดีกับประเทศชาติ  นักการเมืองจะได้เกรงกลัว และไม่กล้าทำสิ่งผิดๆที่เคยทำกันมาตลอด ข้อความดังกล่าว เป็นการสื่อข้อมูลเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้คิด ซึ่งไม่มีอะไรเสียหายกับผู้ใดทั้งสิ้นนอกจากนักการเมืองที่โกงกินประชาชน

ผมแชร์ข้อมูลดังกล่าวไปถึงกลุ่มต่างๆใน Line ที่ผมเป็นสมาชิกอยู่ประมาณ 14 กลุ่ม สมาชิกรวมประมาณ 500 ท่าน มีหลายท่านขอบคุณที่ส่งข้อมูลไปให้ กลุ่มอื่นๆส่วนมากก็เฉยๆ ไม่มีการแสดงความคิดเห็นอะไร ปล่อยผ่านไป โดยมีผู้อ่านมากกว่า 50 % มีอยู่กลุ่มหนึ่งที่มีสมาชิกเกือบ 100 ท่าน สมาชิกกลุ่มนี้มาจากตัวแทนของสมาคมการค้าที่เข้ามาร่วมกิจกรรมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สมาชิกท่านหนึ่ง เขียนมาเตือนผมว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความคิดเห็นต่างกันมาก คุยกันหลังไมล์ดีกว่า ส่วนอีกท่านหนึ่งแจ้งว่ากลุ่มนี้เขาทำมาค้าขายกันข้อมูลเช่นนี้ไม่ควรนำมาเผยแพร่ ผมตกลงใจและคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ จึงรีบเขียนลงไปว่าผมขอโทษจะรีบลบข้อความดังกล่าวออกจากกลุ่มนี้ แต่ไม่สามารถลบได้ จึงรีบเขียนแจ้งไปว่าผมไม่สามารถลบได้ ท่านใดทราบวิธีลบข้อความนั้นออกได้ช่วยลบให้ด้วย มีสมาชิกอีกท่านเขียนถึงผมว่าลบไม่ได้ครับ ผ่านไปแล้วไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่ให้ระวังหน่อยครับ คนที่เคยเขียนว่าผมไม่สมควรนำข้อความมาลง เขียนมาอีกครั้งนี้เขียนแบบไม่ดี ไม่สุภาพและว่ากล่าวถึงกลุ่มบุคคลที่สามและโจมตีผมโดยโยงไปถึงเรื่องทางการเมืองที่ผมไม่ได้เกี่ยวข้องและรู้เห็นด้วย  ผมรู้สึกผิดที่ผมทำให้สมาชิกท่านอื่นๆ ได้รับบรรยากาศที่ไม่ดีใน line กลุ่ม ผมเป็นผู้ทำให้เกิดประเด็นที่ไม่สร้างสรรค์ขึ้นมา ผมจึงพิจารณาตัวเองและรีบถอนตัวเองออกจากกลุ่ม หลังจากนั้นก็มีสมาชิกในกลุ่ม 3 -4 ท่าน ส่งLine ส่วนตัวเข้ามาให้กำลังใจ และแจ้งว่าผมไม่ผิด และจะเชิญผมเข้ากลุ่มใหม่  ผมขอขอบพระคุณผู้ที่หวังดีและเข้าใจผม ที่กรุณามาให้กำลังใจ แต่ผมได้ตอบสมาชิกเหล่านั้นไปว่า ผมไม่ได้คิดอะไร และได้พิจารณาอย่างมีสติโดยรอบครอบแล้ว ว่าผมผิดพลาดไปจริง ไม่สมควรแชร์ข้อความนี้เข้าไปในกลุ่มนี้ตามที่สมาชิกได้ตำหนิมา ผมเป็นผู้ก่อปัญหาให้กับสมาชิกในกลุ่มต้องเดือดร้อน จึงต้องรับผิดชอบ

อย่างไรก็ตามการแชร์ข้อความดังกล่าวก็ได้รับการต้อนรับและให้ประโยชน์กับบางกลุ่ม โดยเฉพาะเมื่อวานได้พบกรรมการของพรรคประชาธิปัตย์ในงานประชุมงานหนึ่ง ท่านรีบตรงเข้ามาหาผมและแจ้งว่าจะมาคุยเรื่องที่นำข้อมูลเผยแพร่ในสื่อต่างๆ ท่านกระซิบให้ผมฟังว่าข้อมูลที่ลงไปนั้นพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้โต้แย้ง เห็นด้วยแต่มีข้อความอื่นในร่างรัฐธรรมนูญที่ คุณบวรศักดิ์ใส่ลงไปทำให้ประชาธิปัตย์ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับร่าง รัฐธรรมนูญ ของ คสช ผมจึงเรียนท่านไปว่า ท่านควรชี้แจ้งให้ชัดเจนว่าอะไรที่ทำให้ทางพรรคประชาธิปัตย์คัดค้าน ร่างรัฐธรรมนูญ โดยการเผยแพร่ ให้ประชาชนได้พิจารณาในข้อมูลต่างๆทุกด้านและทุกมิติ เพื่อประชาชนจะได้เลือกสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสมกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท


24 เมษายน 2559

แก้ไขล่าสุด ใน วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน 2016 เวลา 18:15 น.
 

อ่านแล้วคิด ชีวิตเปลี่ยน

พิมพ์ PDF

ชวนคิดชวนทำ : 5 กลยุทธ์ เปลี่ยนวิธีคิด..ชีวิตเปลี่ยน

ในโลกแห่งอุดมคติ ความคิด ประสบการณ์ และความเชื่อที่เรามี มักจะแปรเปลี่ยนไปตามสถานการณ์และบุคคลที่เราพบปะ ที่จะช่วยขัดเกลา สร้างเสริม หรือเปลี่ยนแปลง ให้เหมาะกับตัวเราเป็นที่สุด

แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง หาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะมีคนจำนวนมาก ที่เคยชินกับการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ อยู่ในกลุ่มคนเดิมๆ ไปเที่ยวสถานที่เดิมๆ กินอาหารเดิมๆ เสมือนหุ่นยนต์ที่ถูกป้อนข้อมูลให้คิดและทำซ้ำๆ จนกลายเป็นเรื่องปกติ

กระทั่งถึงวันหนึ่งที่เริ่มรู้สึกว่า “ต้องการความเปลี่ยนแปลงในชีวิต” นั่นแหละจึงจะลุกขึ้นมาปรับปรุงวิถีชีวิตของตนเอง ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ขอแค่รู้จักเปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตคุณก็จะเปลี่ยนไป เหมือนคำกล่าวที่ว่า “เราเป็นในสิ่งที่เราคิด” และ 5 กลยุทธ์ต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณเปลี่ยนวิธีคิดได้อย่างเห็นผล

1. บอกตัวเอง “ฉันจะคิดต่าง..ฉันจะคิดต่าง”

หนทางที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้เราเปลี่ยนแปลงวิธีคิดเสียใหม่ คือการบอกตัวเองซ้ำๆว่า “ให้คิดต่างจากเดิม” ซึ่งกลยุทธ์นี้ไม่ใช่ของใหม่ มีมาแต่ครั้งโบราณแล้ว ที่เห็นได้ชัดคือ พิธีกรรมในเกือบทุกศาสนา จะให้ผู้ศรัทธาสวดมนต์หลายรอบ เพื่อวิงวอนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

คุณอาจสวดมนต์ทุกคืนแล้วอธิษฐานให้ตัวเองคิดต่างไปในทางที่สร้างสรรค์กว่าเดิม หรือเมื่อตื่นนอนทุกเช้า จงบอกตัวเองว่า “วันนี้ฉันจะทำความดี” การบอกตัวเองซ้ำๆเช่นนี้ อาจช่วยให้คุณคิดต่างจากเดิมได้

ที่สำคัญคือ ในแต่ละวัน ควรหาเวลาทบทวนเรื่องราวดีๆ ที่ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น กำลังใจจากคนรอบข้าง ความสำเร็จในการงาน ฯลฯ เพื่อให้ข้อมูลดีๆเหล่านี้ฝังลึกเข้าไปในจิตสำนึก ซึ่งมันจะช่วยแปรเปลี่ยนการกระทำของคุณไปในทางที่ดีกว่าเดิม

2. กระทำต่างจากเดิม

หากต้องการเปลี่ยนวิธีคิด ก็ต้องลองเปลี่ยนวิธีทำ ถึงแม้มันจะไม่ง่ายนักที่จะเปลี่ยนแนวทางในการทำสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคุณทำแบบเดิมมานาน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แต่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆในชีวิต อาจช่วยได้ ด้วยการหากิจกรรมใหม่ๆที่คุณเคยคิดอยากทำ เช่น ไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะ ซึ่งปกติคุณไม่ค่อยได้ไป ไปเข้าวัดปฏิบัติธรรม ไปเป็นอาสาสมัคร หรือเข้าร่วมกลุ่มกิจกรรมทางศาสนา เป็นต้น

แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ก็ลองแบ่งงานให้คนอื่นทำดูบ้าง หรือถ้าคุณเป็นคนเฉื่อยชา ก็ลองลุกขึ้นมาจัดการสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองให้มากขึ้น

ส่วนคนที่ไม่ชอบสุงสิงกับใคร ต้องกล้าที่จะออกมาเผชิญโลกภายนอกมากขึ้น หรือถ้าคุณเป็นคนยิ้มยาก ก็ลองหัดยิ้ม หัดมีอารมณ์ขันให้มากขึ้น โดยเริ่มต้นกับคนในบ้านก่อนก็ได้

เพราะทันทีที่คุณเปลี่ยนแปลงหรือมีการกระทำที่ต่างไปจากเดิม แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ตาม สมองของคุณจะเปิดรับสิ่งกระตุ้นใหม่ และสร้างเครือข่ายเส้นใยประสาทใหม่ๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง

3. พบปะคนใหม่ๆ

การที่เราจะเกิดปัญญา แนวคิด และทัศนคติใหม่ๆในชีวิตได้นั้น ต้องรู้จักคนที่มีทัศนคติ หน้าที่การงาน ภูมิหลัง วัฒนธรรม หรือศาสนา ที่แตกต่างไปจากเรา

เพราะการคลุกคลีอยู่ในกลุ่มคนที่มีแนวคิดเหมือนกัน เป็นวิธีที่ดีที่เราจะได้ฟังสิ่งที่สนับสนุนความคิดและความเชื่อของเราอยู่เสมอ จึงเป็นการง่ายที่จะติดหล่ม “แนวคิดกลุ่ม” และยากที่จะมองเห็นหรือยอมรับความผิด หรือข้อด้อยของตัวเราเอง

ทางที่ดีคือ แค่เพิ่มสีสันในชีวิตด้วยการรู้จักคบหาเพื่อนใหม่บ้าง เพราะเพื่อนใหม่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณเกิดแนวคิดใหม่ๆได้ และคุณอาจประหลาดใจที่เพียงแค่ได้คุยกับคนบางคนที่มีมุมมองชีวิตที่แตกต่างออกไป ไอเดียใหม่ๆ ก็ผุดขึ้นทันที

และที่สำคัญ เพื่อนใหม่จะแนะนำคนใหม่ให้คุณรู้จักต่อๆกันไป ซึ่งหากยังอยู่ในแวดวงเพื่อนเก่าๆ คุณก็คงหมดโอกาสได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆอย่างแน่นอน

แต่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปแสวงหาเพื่อนใหม่ในที่ห่างไกล เพราะจริงๆแล้ว คนเหล่านั้นอยู่รอบๆตัวคุณ ขอเพียงคุณกล้าที่จะเริ่มต้นพูดคุยกับพวกเขาก่อนเท่านั้นเอง

4. เข้าใจตนเอง

มีคนจำนวนมากกลัวที่จะยอมรับและตรวจตราความคิดและอารมณ์ของตนเอง รวมทั้งไม่สนใจเรียนรู้ที่จะเข้าใจตัวเอง แต่กลับเลือกสนใจเรื่องที่อยู่นอกกาย อาทิ ความต้องการของคนอื่น หน้าที่การงาน ฯลฯ

โดยหารู้ไม่ว่า การใส่ใจเรื่องจิตวิญญาณของตัวเองนั้น อาจช่วยให้รับรู้ถึงความต้องการและความฝันที่แท้จริงของเราได้ อีกทั้งยังช่วยให้ตระหนักถึงเรื่องการเอาใจเขามาใส่ใจเราด้วย

แม้ว่ามันอาจดูหมกมุ่นเกินไปที่จะค้นหาตัวตนที่แท้จริงของเรา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะการรู้จักตัวเองมากขึ้น อาจช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต การรู้จักแยกแยะสภาพอารมณ์ เช่น รู้จักยอมรับอารมณ์โกรธและความกลัว หรือความเจ็บปวดต่อเหตุการณ์ในอดีต จะช่วยให้คุณปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆได้ดีขึ้น

จำไว้ว่า คุณไม่อาจเปลี่ยนแปลงวิธีคิดได้ จนกว่าจะเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้คุณคิดเช่นนั้น

5. กล้าฉีกกฎเดิมๆ

การใช้ชีวิตแบบเดิมๆ วันแล้ววันเล่า ทำแต่กิจกรรมเดิมๆที่เคยทำ แม้แต่การวางแผนเรื่องที่จะทำในวันหยุดสุดสัปดาห์ ก็สะท้อนให้เห็นถึงสูตรสำเร็จการใช้ชีวิตที่ตายตัว ซึ่งมันจะทำให้ชีวิตของคุณไม่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

เพราะธรรมชาติของการดำเนินชีวิตนั้น คนเรามีแนวโน้มที่จะยึดติดกับสิ่งที่คุ้นเคย และหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกอึดอัด ไม่สะดวกสบาย แต่หากลองทำกิจกรรมหรืออยู่ในสถานการณ์ใหม่ๆที่ไม่คุ้นเคยบ้าง ก็ส่งผลดีได้เช่นกัน เพราะจะทำให้เราคิดต่างออกไปจากเดิม

การกล้าที่จะหลุดออกจากโซนที่รู้สึกคุ้นเคย ด้วยการไปยังสถานที่ใหม่หรือทำกิจกรรมใหม่ๆ จะช่วยให้เกิดมุมมองใหม่ในชีวิตได้เป็นอย่างดี เช่น ไปเที่ยวป่า แทนการเที่ยวทะเลที่เคยไปประจำ หรือลองทำกิจกรรมที่ท้าทาย เช่น การปีนเขา ล่องแพในแม่น้ำ แทนกิจกรรมที่ทะเล เป็นต้น


Credit: นิตยสารธรรมลีลา 
ฉบับที่ 154 ตุลาคม 2556 โดย ประกายรุ้ง


คัดลอกจาก https://www.facebook.com/Puttichet/posts/587952821378778:0

แก้ไขล่าสุด ใน วันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2016 เวลา 11:13 น.
 


หน้า 259 จาก 561
Home

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5644
Content : 3068
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8747443

facebook

Twitter


ล่าสุด

บทความเก่า