Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Thaiihdc.org

ข่าวในพระราชสำนัก ประจำวันที่ 1 มกราคม 2563

พิมพ์ PDF

 
 

ความลึกซึ้งของคำสอนในพุทธศาสนา

พิมพ์ PDF

ความลึกซึ้งของคำสอนในพุทธศาสนา 10 ความจริงสูงสุดที่ทุกคนควรตระหนัก!!!

1. แท้จริงแล้วสุขทุกข์ไม่ได้เกิดจากใครทำ ไม่ได้เกิดจากปัจจัยภายนอก แต่เกิดจากการกระทบกันของ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ปัจจัยภายนอกเป็นเพียงตัวแปร ปัจจัยภายในได้แก่ สติ คือสาเหตุใหญ่ ถ้าสติไม่แข็งแรง  ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด เป็นใครมาจากไหน ก็มีความทุกข์ได้ทั้งนั้น  เมื่อสติแข็งแรง ย่อมเห็นกระบวน  การทำงานของ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เมื่อเห็นกระบวนการดังกล่าว จิตย่อมไม่เสวยอารมณ์ อันเป็นต้นเหตุของสุข ทุกข์ สุขทุกข์จึงถูกปรับสมดุลให้อยู่ในภาวะเป็นกลาง สิ่งนี้เรียกว่า ความเบิกบาน

      2. ความเป็นเรา เป็นเขา คือ กระบวนการปรุงแต่งของจิต แท้จริงแล้ว ตัวเราไม่มีอยู่ คำว่าตัวเราไม่มีอยู่นี้ ไม่ใช่คำอุปมาอุปไมย แต่เป็นสิ่งที่สามารถตรวจสอบได้เอง จากการฝึกจิต ความเป็นตัวเรานั้นเปรียบเหมือนรถยนต์หนึ่งคัน เมื่อจับล้อไว้ทางหนึ่งเครื่องยนต์ไว้ทางหนึ่ง ประตู ตัวถังไว้ทางหนึ่ง เมื่อจับแยกส่วนได้เช่นนี้ สภาพความเป็นรถยนต์ก็หมดไป เมื่อฝึกสติจนแยกกาย ความคิด และจิต ออกจากกันได้ ความเป็นตัวเราก็หมดไปด้วย เมื่อความเป็นตัวเราหมดไป ผู้ยึดมั่นถือมั่นก็หมดไปด้วย ความทุกข์ทั้งปวงก็เป็นอันยุติ


       3. เราทั้งหลาย ล้วนเกิดมานับล้านล้านล้านชาติ เป็นจำนวนที่นับไม่ได้ เคยเกิดเป็นคนรวย คนจน ราชา พระ ยาจก เป็นคนฉลาด เป็นคนโง่เขลา เป็นคนพิการ เป็นคนรูปงาม เป็นชาย เป็นหญิง เป็นกระเทย เป็นทอม เป็นนักบุญ เป็นมหาโจร เคยเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน สัตว์นรก เปรต อสูรกาย เทวดา เคยเป็นมาทุกอย่าง   ดังนั้น ถ้าชาตินี้เกิดมาดี ก็ไม่ได้แปลว่าชาติหน้าจะดี ชาตินี้อาจเป็นมหาเศรษฐี ชาติหน้าอาจเกิดเป็นสัตว์นรก ชาตินี้อาจเป็นสัตว์เดรัจฉาน ชาติหน้าอาจเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในตระกูลสูงก็เป็นได้ ตราบใดที่ยังเวียนว่ายตายเกิด จงอย่าลำพองใจว่า เรานั้นดีแล้ว ประเสริฐแล้ว เพราะแท้จริง ไม่มีใครเลยที่ดีกว่าใคร ทุกคนล้วนอยู่ในความสุ่มเสี่ยงทั้งสิ้น


      4. จิตสุดท้ายก่อนตาย เป็นสิ่งชี้วัดว่าชาติหน้าเราจะไปเกิดเป็นอะไร ขณะที่จิตสุดท้ายเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยากที่สุด ในวินาทีสุดท้ายความเศร้า ความกลัว ความสงสัย การยึดติด และความเจ็บปวด สิ่งเหล่านี้ จะดึงมนุษย์ให้ไปปฏิสนธิจิตในภูมิเบื้องต่ำ ได้แก่ นรก เปรต อสูรกาย เดรฉาน    พระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้ที่ได้เกิดเป็นมนุษย์อีกครั้งหลังจากตายไปแล้ว มีเท่าจำนวนเม็ดทรายที่ปลายนิ้ว ส่วนทรายที่เหลือบนปฐพี เทียบได้กับผู้ที่ตายแล้วไปจุติในอบายภูมิ ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว คงน้อยกว่า 0.00000000000001 เปอร์เซ็นต์ นั่นเท่ากับว่า เป็นไปได้มากเหลือเกินว่า คนทั้งหมดที่เรารู้จัก จะไม่มีใครเลยที่จะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก ไม่เว้นแม้กระทั้งเราเอง!!!


      5. ชีวิตที่เราเห็นอยู่ เป็นชีวิตชั่วคราว เมื่อเราตาย สิ่งที่เราหามาด้วยความลำบาก สิ่งที่เราเคยมั่นหมายว่าสำคัญ ทั้งความสามารถ เกียรติภูมิ ลูก เมีย ผัว ญาติพี่น้อง เพื่อน มิตรสหาย หน้าที่การงาน สมบัติพัสถาน เงินทอง บ้านช่อง ที่ดิน ความภาคภูมิใจ ทั้งหมดนี้ ไม่มีอะไรเลยที่เราสามารถนำติดตัวไปได้ คำถามสำคัญที่เราควรต้องคิด คือ "ทุกวันนี้เราใช้เวลาที่มีเพื่อสิ่งใด" แน่นอนว่า เวลาเกือบทั้งหมดของเรามุ่งไปสู่สิ่งที่เราไม่สามารถนำติดตัวไปได้ เหล่านี้ คือเรื่องอันตรายที่เราสมควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเร่งด่วน


      6. บุญบาปเป็นของมีจริง ทุกการกระทำของเรา ย่อมส่งผลสะท้อนกลับ ไม่วันนี้ก็วันหน้า ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า คำพูด และการกระทำ จึงเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าที่เราคิด พูดสิ่งใด ทำสิ่งใดลงไป มิได้จารึกไว้เพียงโลกนี้ หากแต่มันจะจารึกไว้ในสังสารวัฏ ในจิตของเรา และเราจะต้องเป็นผู้รับผลแห่งการกระทำของตนเอง ตลอดการเวียนว่ายตายเกิด     ดังนั้น จงระวังคำพูด และการกระทำของเราไว้ให้มากกว่าที่เป็นอยู่


     

 7. ทุกคนที่เราเห็น พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ เพื่อนฝูง มิตรสหาย ผู้คน ทั้งคนที่รู้จัก และไม่รู้จัก ตลอดการเวียนว่ายตายเกิด ไม่มีใครเลยที่ไม่รู้จักกัน ไม่มีใครเลยที่ไม่เกี่ยวข้องกัน และตราบใดที่เรายังเวียนว่ายตายเกิด เราและเขา จะได้พบกันอีก ไม่ฐานะใดฐานะหนึ่ง ทำดีกับเขาวันนี้ จะพบกันในเส้นทางที่ดี ทำร้ายเขาในวันนี้ ก็จะต้องตามจองเวรกันต่อไป ไม่สิ้นสุด    ดังนั้น คำว่า "เพื่อนร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตาย" จึงเป็นคำที่มีนัยยะสำคัญกว่าที่เราคิดไว้หลายเท่า จงมองผู้อื่นให้เหมือนครอบครัวของท่าน  นั่นคือ หนทางที่ดีที่สุด

      8. เมื่อการเวียนว่ายตายเกิดมีจริง การบริหารจัดการชีวิตของเรา ก็สมควรเป็นการบริหารจัดการชีวิตที่ครอบคลุมทุกมิติ ไม่เน้นหนักในชาติใดชาติหนึ่ง ชาตินี้ก็ต้องกินต้องใช้ แต่ชาติหน้าก็ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาด กิจกรรมบางอย่าง อาจส่งผลดีสูงสุดในชาตินี้ แต่ชาติหน้าอาจทำให้ท่านไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่อัตภาพความเป็นมนุษย์    ดังนั้น ในทุกวัน เราควรถามตนเองว่า วันนี้เราได้เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัวในชาติหน้าบ้างแล้วหรือยัง


      9. เวลาที่เราเห็นตรงหน้า มีเพียงปัจจุบัน วินาทีต่อวินาที เมื่อเวลาเคลื่อนเลยไป ไม่มีใครสามารถนำช่วงเวลานั้นกลับมาใช้ซ้ำได้ อดีต ไม่มีจริง เพราะอดีต คือภาพจำที่เรานำมาคิดซ้ำในเวลาปัจจุบัน ส่วนอนาคตก็ไม่มีจริง เพราะอนาคต ก็คือการปรุงแต่งในปัจจุบันของเรา จงจำไว้เสมอ ชีวิต คือเรื่องสดใหม่ ตัวท่านมีอยู่เพียงปัจจุบันการอยู่กับปัจจุบันจะช่วยแก้ปัญหาทุกอย่างในชีวิตของท่านได้ และนี่คือ กุญแจเพียงดอกเดียวที่จะไขความลับของชีวิต จงอยู่กับปัจจุบันจนถึงที่สุด(มีสติและสัมปชัญญะ) แล้วชีวิตจะเป็นของท่านอย่างแท้จริง


      10. เป้าหมายของการเกิดเป็นมนุษย์คืออะไร บางคนบอกว่า ฉันเกิดมาเพื่อมีความสุข บางคนบอกว่า ฉันเกิดมาเพื่อสร้างสิ่งดีงามไว้ให้โลก บางคนบอกว่า ฉันเกิดมาเพื่อคนที่ฉันรัก นั่นก็เป็นสิ่งที่จะคิดกันไปตามภูมิปัญญา แต่ละคนก็มีเป้าหมายชีวิตที่แตกต่างกันไป   แต่สำหรับพระพุทธเจ้า ท่านได้ฝากเป้าหมายไว้ให้มนุษยชาติอย่างชัดเจน    เป้าหมายของการเกิดเป็นมนุษย์ในทัศนะของพระพุทธเจ้า ก็คือ การดับกิเลส และทำที่สุดแห่งทุกข์ให้แจ้ง คือการดับความไม่รู้ หรืออวิชา อันเป็นต้นเหตุแห่งการเวียนว่ายตายเกิดตลอดการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ 


      ขอให้เชื่อเถอะว่า เราเคยตั้งเป้าหมายชีวิตมาแล้วนับไม่ถ้วน และขอให้เชื่อเถอะว่า ทุกเป้าหมาย ทุกความปรารถนา ทุกความสำเร็จ ทุกความอยากมี อยากดี อยากได้ อยากเป็น เราล้วนเคยบรรลุมาแล้วก่อนหน้านี้ทั้งสิ้น  คงเหลือเพียงเป้าหมายเดียวเท่านั้นที่เรายังไม่เคยบรรลุ นั่นคือเป้าหมายแห่งการไม่เกิด ไม่ตาย 


      เช่นนั้นแล้ว ถ้าชาตินี้เรายังตั้งเป้าหมายเก่าๆ ซ้ำๆ เดิมๆ ชีวิตของเราคงไม่ต่างอะไรกับนิยายน้ำเน่าที่นำมาเล่าซ้ำๆ เปลี่ยนแต่เพียงชื่อแซ่ หน้าตา เสื้อผ้า หน้า ผม แต่ทุกอย่างก็ยังวนเวียนอยู่ในวังวนเก่าๆ 


      เช่นนี้แล้ว การเกิดของเราคงเป็นการเกิดที่ไร้ค่า 


      จงหยุดคิด พินิจ ใคร่ครวญ ด้วยสัมปชัญญะของท่าน   อัตภาพความเป็นมนุษย์ คือ สิ่งล้ำค่าอันหาที่สุดมิได้ ทุกวันนี้ท่านกำลังใช้สิ่งล้ำค่าที่ว่า เพื่อแสวงหาสิ่งใดอยู่หรือ!!!


      ขออนุโมทนาบุญกับพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติติชอบแล้วในศาสนาพุทธ..ทุกองค์...ท่านผู้มีศีลใฝ่ธรรมใฝ่เจริญภาวนา ในฐานะที่ท่านอยู่ในเส้นทางที่ควรจะเป็น ในการที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ในชาตินี้


 

พระธรรมเทศนาเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

พิมพ์ PDF

พระธรรมเทศนาเฉลิมพระเกียรติ
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระราชนิพนธ์ใน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
(ตอนที่ ๔)
“ร่มโพธิ์ของลูก”
๒๓ สิงหาคม๒๕๐๖ ...............พวกเราลูกๆ ของ ท่านพ่อ ได้พบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด เมื่อ ท่านพ่อ ผู้เปรียบเสมือนร่มโพธิ์ที่ให้ความร่มรื่นแก่เราตลอดมาได้จากพวกเราไป ไม่มีความโศกเศร้าอาลัยใดๆ ที่พวกเราเคยได้รับจะยิ่งใหญ่เท่ากับความสูญเสีย ท่านพ่อ ของเราไปในครั้งนี้
ท่านพ่อ เป็นพ่อที่ให้ความรักแก่ลูกๆทุกคน ไม่ว่าชายหรือหญิงอย่างทัดเทียมกัน ทรงปกครองลูกแบบนักประชาธิปไตยโดยแท้ ไม่เคยก้าวล่วงเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของลูกๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการเลือกงาน หรือการสมรส นอกจากจะประทานความเห็นชี้แนวทางดำเนินชีวิต เมื่อพวกเราไปทูลขอความเห็นว่าการใดควร การใดไม่ควร
ท่านพ่อ ทรงเป็นนักปกครองแบบประชาธิปไตยไม่เฉพาะแก่ลูกๆ หากแต่ทรงปกครองข้าราชการใต้บังคับบัญชา ตลอดจนประชาชนที่อยู่ในความรับผิดชอบ ในฐานะที่ทรงเป็นนายอำเภอ เป็นปลัดจังหวัด แหละแม้นขณะที่ทรงเป็นผู้จัดการบริษัท ก็ทรงถือปฏิบัติในแนวเดียวกับที่ได้ทรงใช้กับลูกๆ ถือเสมือนข้าราชการหรือพนักงานในบังคับบัญชา ตลอดจนประชาชนทั้งหลายที่อยู่ในความปกครองเป็นญาติสนิท แหละนี่เองที่ทำให้ ท่านพ่อ เป็นที่รักใคร่นับถือของคนทั่วๆไปที่ได้มีส่วนเข้ามาใกล้ชิดติดต่อด้วย จนถึงขนาดที่เรียกองค์ท่านว่า “ท่านพ่อ” เหมือนกับที่พวกเราลุกๆ ได้เรียกกันจนติดปากตลอดมา
ในยามว่าง ท่านพ่อยังโปรดการดำริหาทางช่วยเหลือราชการด้วยวิธีต่างๆ เช่นได้เคยรวบรวมลูกๆชายหญิงร่วมกับครู นักเรียน ข้าราชการทั้งทหารและพลเรือนในจังหวัดอุดรธานี ฝึกหัดละครและเปิดการแสดงเพื่อเก็บเงินช่วยราชการทหารซื้ออาวุธปืนกลหนัก ให้แก่จังหวัดทหารบกอุดรธานี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายอำเภอเมืองอุดรธานี จนได้รับหนังสือชมเชยจากกระทรวงเจ้าสังกัดมาแล้ว
ท่านพ่อทรงเอาพระทัยใส่ต่อความเป็นอยู่ของลูกๆอย่างสม่ำเสมอ คอยตักเตือนสั่งสอนให้พวกเราทุกคนประพฤติตนในทางที่ดีงาม และยินดีด้วยเมื่อลูกๆได้ประสบ ลาภ ยศ สรรเสริญ ซึ่งนับว่าเป็นกุศลผลบุญของลูกๆที่ได้มาเกิดเป็นลูกของท่านพ่อ เมื่อเราสูญเสียท่านพ่อ เราก็รู้สึกเสมือนว่า เราสิ้นแล้วซึ่งร่มโพธิ์ สิ่งเดียวซึ่งยังคงจะฝังอยู่ในใจของลูกๆทุกคนก็คือความรักและระลึกในพระกรุณาคุณของท่านพ่อ
ด้วยกุศลบุญราศี ที่พวกเราลูกๆ ได้ประกอบการบำเพ็ญกุศลในครั้งนี้ และจะได้ประกอบต่อไปในภายหน้า ลูกทุกคนขอถวายเป็นผลานิสงส์ดลบันดาลให้ท่านพ่อได้ทรงรับความสุขสงบยิ่งล้ำในสัมปรายภพนั้นเทอญ
“ลูกทุกคนของพ่อ”

คำนำ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล ทรงแจ้งมายังกรมศิลปากรว่า มีพระประสงค์จะจัดพิมพ์หนังสือประทานแจกในงานพระราชทานเพลิงศพ หม่อมเจ้าชนม์เจริญ ชมพูนุท ผู้เป็นพระญาติผู้ใหญ่ใกล้ชิด และทรงพอพระทัยเลือกหนังสือเรื่อง “พระธรรมเทศนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว” ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สำหรับพิมพ์เป็นที่ระลึกในงานนี้ กำหนดงานวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๐๖ ณ.เมรุวัดมกุฎกษัตริยาราม
หนังสือพระธรรมเทศนาเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวนี้ ได้เคยพิมพ์มาแล้วครั้งหนึ่งในงานพระเมรุสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๑ การพิมพ์ครั้งนี้จึงนับเป็นครั้งที่ ๒
กรมศิลปากรขอถวายอนุโมทนาในพระกุศลราศี ซึ่งพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล ได้ทรงบำเพ็ญอุทิศแด่ หม่อมเจ้าชนม์เจริญ ชมพูนุท และโปรดให้พิมพ์หนังสือนี้แจกจ่ายเป็นวิทยาทาน ขอพระกุศลทั้งปวงจงสัมฤทธิผลดลบันดาลให้ หม่อมเจ้า ชนม์เจริญ ชมพูนุท ซึ่งสิ้นชีพตักษัยไปแล้วนั้น ทรงประสบอิฏฐคุณมนุญผลในสัมปรายภพจงทุกประการ เทอญ
กรมศิลปากร
๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๐๖
คัดลอกโดย ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

 

สร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลง

พิมพ์ PDF

วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ผมไปเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับทิศทาง โครงการเครือข่ายผู้นำเพื่อการสร้างสุขภาวะ (คศน.) ครั้งที่ 3/2562    ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย ก่อนจะขึ้นระยะใหม่ของโครงการ    ที่ได้รับคำแนะนำให้ยกระดับความเข้มข้นของการเรียนรู้ยิ่งกว่าเดิม 

ผมเขียนบันทึกเรื่อง คศน. ไว้ที่ (๑)

มีการนำเสนอผลการประเมินภายในโดยคุณอ้อ (วรรณา เลิศวิจิตรจรัส) ที่เก็บข้อมูล ตีความ และนำเสนออย่างดีเยี่ยม ได้รับการปรบมือจากคณะกรรมการ    สรุปได้ว่า โครงการ คศน. สร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลง โดยมี ๓ ขั้นตอนคือ

  • การสรรหาผู้นำ
  • การสร้างพื้นที่การเรียนรู้เพื่อ ปลุกพลัง  transform  และสร้างการเชื่อมต่อระหว่างกัน
  • ผลักดัน และหนุนเสริม ให้เกิดเครือข่ายเพื่อการสร้างสรรค์สังคม

มีรายละเอียดของแต่ละข้อที่สรุปวิธีการ  ผลที่เกิด และข้อเสนอแนะให้ความรู้มาก

ตามด้วยการนำเสนอผลการประเมินกลไกการสนับสนุนเครือข่าย คศน. โดยคุณหมู    มีทั้งหมด ๖ เครือข่าย    มีการเก็บข้อมูลวิเคราะห์และนำเสนอพลวัตของเครือข่ายทั้ง ๖ อย่างดีมาก   

ผลการศึกษาและนำเสนอของคุณอ้อและคุณหมู เป็นข้อมูลช่วยให้คณะกรรมการให้ข้อคิดเห็นอย่างกว้างขวาง และมีการเสนอแนะประเด็นสำคัญสำหรับนำไปพัฒนาโครงการในระยะต่อไป    รวมทั้งเป็นข้อถกเถียงเรื่องการสร้างผู้นำให้แก่สังคม

ซึ่งผมอดไม่ได้ที่จะนึกในใจว่า ต้องเริ่มตั้งแต่อยู่ในท้องแม่    ที่จะให้ได้เด็กที่การพัฒนา EF ไม่ถูกปิดกั้น    เมื่อเป็นเด็กก็ได้รับการพัฒนาครบด้าน รวมทั้งด้าน Transformative Competencies    เพื่อการเติบโตไปเป็น change agent ให้แก่สังคม

ผมชอบแนวคิดทุกคนมีภาวะผู้นำ มากกว่าเพียงบางคนที่เป็นผู้นำ  

ผมชอบแนวคิดภาพใหญ่ ของ นพ. พงศธร พอกเพิ่มดี ที่เน้นเป้าหมายของโครงการว่า เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ     และโครงการ คศน. มุ่งสร้างตัวคูณ    ไม่ใช่แค่สร้างผู้ลงมือทำ    เน้นที่เป้าใหญ่   competencies ใหม่   และ core values (equity)    และ นพ. อนุวัฒน์ ศุภชุติกุล เสริมว่า โครงการ คศน. ทำหน้าที่ platform for nurturing & capacity building สู่เป้าหมายตามที่ นพ. พงศธร เสนอ    และมีการอภิปรายกันว่า จะให้เป็น lifelong empowerment platform ได้อย่างไร   

โครงการ คศน. ไม่โดดเดี่ยว มีโครงการพันธมิตรคือ Ashoka และ Equity Initiative    รวมทั้งมีการริเริ่มกิจกรรม/เครือข่าย Young คศน.   ที่มีโอกาสเลี้ยงตัวเองได้   

สสส. จะให้การสนับสนุนการดำเนินการระยะต่อไป    โดยทางโครงการจะนำข้อเสนอแนะไปปรับปรุงโครงการ    ให้มี disruption component เพิ่มขึ้น    เชื่อมโยงกับการเป็นภาคีกับต้นสังกัด เพื่อสร้าง transformation ในหน่วยงานต้นสังกัดมากขึ้น แต่ไม่ตกเข้าไปในหลุมพรางของระบบราชการ มีระบบ lifelong learning  ที่มี online system ด้วย    รวมทั้งมีภาคีร่วมมือมากขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มผลสัมฤทธิ์ 

วิจารณ์ พานิช

๓๐ พ.ย. ๖๒

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย  ใน KMI Thailand

 


หน้า 142 จาก 561
Home

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5644
Content : 3068
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8743314

facebook

Twitter


ล่าสุด

บทความเก่า