ชีวิตที่พอเพียง : 3030. ยุคกุความจริง
บทความเรื่อง Post-Truth : The Dark Side of the Brain ในนิตยสาร Scientific American Mind ฉบับเดือนกันยายน
๒๕๖๐ บอกว่ายุคนี้เป็นยุค “กุความจริง” โดยเฉพาะในวงการการเมือง
โดยเขายกตัวอย่างประธานาธิบดี โดแนล ทรัมป์
ทำให้ผมคิดว่า
ในเมืองไทยเราก็ใช่ย่อย
เขาบอกว่าปรากฏการณ์กุความจริงแพร่หลายและนิยมทำกันในยุคนี้
เพราะเทคโนโลยีเอื้ออำนวย (เครือข่ายโซเชี่ยล) และสมองมนุษย์ก็ร่วมมือด้วย
คือสมองไม่ได้ทำงานอย่างแม่นยำ ยึดข้อมูลหลักฐาน
แต่เต็มไปด้วยอคติ คือมักจะรับรู้เรื่องราวข่าวสารที่ตรงกับความเชื่อของตนเอง
เขาบอกว่าสมองมนุษย์ ชอบเรื่องราว ทั้งเรื่องจริงและเรื่องไม่จริง คนเราจึงชอบอ่านนิทาน หรือนิยาย
นักวิทยาศาสตร์สมอง
ทำวิจัยสแกนสมองด้วยเครื่อง fMRI
ขณะอ่านสาระจากโซเชี่ยลมีเดีย ดูว่าสมองส่วนไหนสว่าง (ทำงาน) สัมพันธ์กับการแชร์หรือไม่แชร์ต่อ
เขาสรุปว่าการแชร์หรือไม่แชร์ข่าว
ขึ้นกับว่าคนนั้นคาดหวังปฏิกิริยายอมรับของผู้รับ ไม่ได้ขึ้นกับความน่าเชื่อถือของข่าว
สมองมนุษย์เสพติดการยอมรับ
หรือเสพติดความพอใจจากการได้รับการยอมรับ มากกว่าความน่าเชื่อถือของข่าว
เพราะธรรมชาติของสมองมนุษย์ต้องการการยอมรับ และชอบเรื่องราว
ในสมัยเด็กผมจึงได้ยินผู้ใหญ่ พูดว่าเด็กบางคนว่าเป็นคน “ตอแหล” คือกุเรื่องขึ้นมาพูดเล่าเป็นตุเป็นตะโดยไม่มีความจริงเลย
สมัยนั้นเรา เข้าใจกันว่าเป็นเพราะเด็กเหล่านั้นนิสัยไม่ดี
มาถึงตอนนี้เราเข้าใจได้ว่าเป็นเพราะความอ่อนแอของสมอง
ขาดการฝึกความเชื่อมั่นในตนเอง ความมั่นคงในคุณธรรม จึงปล่อยธรรมชาติดั้งเดิมออกมา
มนุษย์เราก็มีทั้งด้านสว่างและด้านมืดเช่นนี้เอง
การศึกษาที่แท้จะช่วยสร้างความเข้มแข็งด้านสว่าง บดบังด้านมืดลงไป
วิจารณ์
พานิช
๓ ต.ค. ๖๐
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow
โดย Prof. Vicharn Panich
ใน KMI Thailand