Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Home > Articles > บทความของ ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท > บทเรียนการดำเนินชีวิตของผู้สูงวัย ตอน ๑๒ พ.ศ.๒๕๕๕

บทเรียนการดำเนินชีวิตของผู้สูงวัย ตอน ๑๒ พ.ศ.๒๕๕๕

พิมพ์ PDF
บทเรียนในการดำเนินชีวิตของผู้สูงวัย ตอน ๑๒ พ.ศ.๒๕๕๕
งานสัมมนาและงานประชุม เป็นงานที่ผู้เขียนชอบมากที่สุด งานประชุมส่วนมากจะเป็นงานของสภาหอการค้า และของหน่วยงานราชการต่างๆ ผู้เขียนพยายามไปร่วมทุกงานที่ได้รับเชิญ ถ้าไม่ตรงกับงานอื่นที่รับไว้แล้ว งานเหล่านี้ไม่มีรายได้ แต่เป็นกิจกรรมที่ให้ความรู้เป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ของผู้เขียน
ปี ๒๕๕๕ นับว่าเป็นปีที่ดีปีหนึ่งของผู้เขียน ปีนี้มีงานเข้ามามาก ทั้งงานวิทยากร งานที่ปรึกษา งานวิจัย งานประชุมเพื่อพิจารณา และประชุมระดมความเห็น งานสัมมนา และเสวนา งานอบรม และงานประชุมระหว่างประเทศ
วันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๕ ได้รับเชิญสัมภาษณ์สดออกอากาศสถานนีวิทยุโทรทัศน์ช่อง TNN 24 รายการ ข่าวเด่น คนดัง หัวข้อ "เตรียมพร้อมเปิดเสรีการค้าบริการ ปี ๒๕๕๕" เวลา ๑๙.๓๐-๒๐.๐๐ น
งานรับประกาศนียบัตร TMA - MDP ๑๕ ที่ Plaza Athenee Bangkok, A Royal Meridien. เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๕
วันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๕ วิทยากรบรรยายหัวข้อ "การพัฒนาการศึกษาเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ปี ๒๕๕๘" ให้กับครูในเครือเทพศิรินทร์
วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ท่าน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ได้นำกรรมการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เข้าอวยพร ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ที่ มูลนิธิชัยพัฒนา เชิงสะพานพระราม 8.
วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ได้รับเชิญเป็นวิทยากรบรรยายเรื่องประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนให้กับพนักงานเทศบาลพิษณุโลก เดินทางกลับถึงกรุงเทพ ๒๑.๓๐ น เพลียจากการเดินทางไปพิษณุโลก และอดนอนมาสองคืน จึงรีบเข้านอน ตีสามตื่นมาทราบว่าลูกชายยังไม่กลับบ้าน ทำให้เป็นห่วง สักพักจึงได้รับการติดต่อกลับมาว่าอยู่ที่โรงพยาบาลสัตว์เมืองทองธานี เนื่องจากระหว่างทางนั่งรถเพื่อนกลับบ้าน เห็นอะไรผิดปกติบนถนน จึงบอกเพื่อนให้หลบรถเข้าข้างทาง รถที่ตามมาข้างหลังได้เบี่ยงรถออกและเฉี่ยวสิ่งที่อยู่บนถนนที่ลูกชายกำลังจะเข้าไปดู จึงพบลูกแมวนอนิ่ง ครั้งแรกคิดว่าตายแล้ว แต่พอค่อยๆดูเห็นว่ายังหายใจ มีเลือดออกจากปาก และอาก ารน่าเป็นห่วง ลูกชายจึงบอกให้เพื่อนเจ้าของรถ และเพื่อนอีกคนไปก่อน และตัวลูกชายเองดูอาการลูกแมว พอเห็นรถมูลนิธิปอเต็กติ้ง จึงเข้าไปขอคำแนะนำ เจ้าหน้าที่มูลนิธิจึงแนะนำว่า ควรจะพาไปที่โรงพยาบาลสัตว์ แต่จะต้องมีเจ้าของเพราะจะต้องมีค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะช่วงเวลาดึกๆอย่างนี้ ลูกชายจึงรับที่จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายและรับเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่บอเต็กติ้งจึงพาไปที่โรงพยายาลสัตวที่มหาวิทยาลัยเกษตร แต่ปิด (ปกติเปิด ๒๔ ชั่วโมง) และได้พบเจ้าหน้าที่ดูแลโรงพยาบาลได้แนะนำให้ไปที่โรงพยาบาลเอกชนที่เมื่องทองธานี ก่อนไปได้โทรไปก่อน เขากำลังจะปิดเช่นกัน แต่บอกให้รีบมาหมอจะรอ ขณะนี้กำลังรักษาอยู่หมอได้ตรวจรักษาอาการในเบื้องต้น ฉีดยา และแจ้งว่าพรุ่งนี้ให้นำไปเอ็กซเรย์ขาข้างซ้าย อีกที ค่ารักษาและค่ายา ๗๒๐ บาท รุ่งเช้าต้องไปหาซื้ออาหารและทรายสำหรับให้แมวขี้ ร่วม อายุประมาณสองอาทิตย์กว่าๆ ลูกสาวเป็นผู้เช็ดตัวทำความสะอาด ขณะนี้ลูกชายกำลังพาแมวไปเอ็กซเรย์ขา ยังไม่กลับ ก็รู้สึกดีใจที่ลูกชายมีจิตใจดี มีความเอื้ออารีย์
ลูกชายพาแมวออกไปหาหมอตั้งแต่ ๑๕.๐๐ น กลับมาถึงบ้าน ๒๑.๐๐ น ปรากฎว่าขาข้างซ้ายกระดูกหัก ต้องทำการผ่าตัดหมอนัดไปฝ่าตัดวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ หลังจากฝ่าตัดแล้วต้องรักษาอีกร่วมเดือน โชคดีที่ลูกชายไปพบเข้า ผมพยายามนึกภาพว่าถ้าลูกชายไม่ไปพบและนำไปหาหมอ จะเป็นอย่างไร คงทรมานมาก และไม่แน่ว่าจะรอดตามหรือไม่ คนเมื่อได้รับอุบัติเหตุยังไงก็มีคนนำส่งโรงพยาบาล แต่นี่เป็นสัตว์ ที่ไม่แน่ว่ามีเจ้าของหรือไม่ อาจเป็นแมวข้างถนน หรือถึงแม้นจะมีเจ้าของ ถ้าเจ้าของไม่มีเงินจะทำอย่างไร เมื่อวานจ่ายค่าหมอไป ๗๒๐ บาท เช้าซื้ออาหารและทราย หมดไปเกือบ ๒๐๐ บาท วันนี้พาไปหาหมอก็หมดไปอีก ๗๘๕ บาท ค่าผ่าตัดในวันที่ ๑๔ กุุมภาพันธ์ ประมาณ ๔,๐๐๐-๕,๐๐๐ บาท และหลังจากนั้นต้องรักษาดูแลอีกร่วมเดือน ไม่ทราบว่าจะบานปลายอีกเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามผู้เขียนได้บอดลูกไปว่าไม่เป็นไรเมื่อมาถึงมือเราแล้ว ก็ต้องรักษาไปจนที่สุด ลูกชายตั้งงชื่อแมวว่า "ต้องรอด" เห็นแล้วก็สงสาร นอนหลับนิ่งไม่ขยับเขยื่อนเลย คงเพลียมาก โชคดีอีกอย่างคือ ลูกสาวเป็นคนที่รักษาและเลี้ยงสัตว์มามาก จึงสามารถดูแลรักษาลูกแมวตัวนี้ได้ คงจะต้องดูแลประคบประหงมไปสักระยะ
เดือนเมษายน ๒๕๕๕ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ มอบหมายให้เข้าร่วมเป็นวิทยากรณ์พี่เลี้ยงผู้เข้าอบรมโครงการพัฒนาผู้บริหารระดับผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายและเทียบเท่าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รุ่นที่ ๘.
ขอขอบคุณผู้เข้าอบรมโครงการพัฒนาผู้บริหารระดับผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายและเทียบเท่าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รุ่นที่ ๘ ที่ร่วมกันจัดงาน "สืบสานประเพณี สระเกล้าดำหัว" เนื่องในศุภวาระดิถีขึ้นปีใหม่ไทย ๒๕๕๕ ถือเป็นการให้เกียรติผู้เขียนเป็นอย่างมาก รู้สึกอบอุ่นและซาบซึ่งในไมตรีจิต ที่ท่านมอบให้ในวันนี้
เดือน เมษายน ๒๕๕๕ ได้รับเชิญเป็นอนุกรรมการพิจารณางานวิจัยของ สกว ด้านงานวิจัยท่องเที่ยว
วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ได้รับเชิญเข้าร่วมอภิปรายในงานประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ ๑๑ ประจำปี ๒๕๕๕ ในหัวข้อ "๓ ปีสู้เสรีอาเซียน: เตรียมคนอย่างไรในมิติของนักจิตวิทยา" เวลา ๑๐.๓๐ - ๑๒.๐๐ น
International Conference on "Energy and Environment Sector Cooperation of the GMS Countries(Phase 3)", 19-28 May 2012, Bangkok, Thailand
เข้าร่วมประชุมจัดงานสัมมนาเชิงปฎิบัติการ หัวข้อ ธุรกิจบริการ..."ยุทธศาสตร์แห่งชาติสู่ AEC and Beyond" จัดโดยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ในวันที่ 18 สิงหาคม 2555 ที่พัทยา
ประชุมคณะอนุกรรมการทุนมนุษย์ ภายใต้คณะกรรมการด้านธุรกิจบริการ สภาหอการค้า ผู้เขียนได้รับความไว้วางใจจาก คุณฉัตรชัย มงคลวิเศษไกวัล ประธานคณะกรรมการด้านธุรกิจบริการ แต่ตั้งให้เป็นประธานอนุกรรมการ
บุกถ้ำเสือ ที่วัดป่าหลวงตาบัว จังหวัดกาญจนบุรี
ทางวัดเขามีการจัดการที่ดีมากครับ เข้าไปสัมผัสแล้วไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ไปชมการบริหารจัดการแล้วประทับใจมาก มีเสืออยู่ถึงร้อยกว่าตัว และสัตว์อื่นๆอีกมาก ค่าอาหารเสื้อและสัตว์ป่าอื่นๆวันละ แสนกว่าบาท เคยไปมาก่อนแล้วเมื่อ 10 กว่าปีมาแล้ว ตอนนั้นยังไม่กล้าเข้าไปจับต้องเสือ แต่มาวันนี้ตอนแรกก็ไม่คิดจะไปจับ แต่เมื่อเห็นฝรั่งเขาไปจับและให้เสือหนุนตัก เลยทำบ้าง บอกได้เลยว่า เป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจมาก
ได้รับเชิญเป็นวิทยากรบรรยายหัวข้อ "โอกาสและอุปสรรคในการเข้าร่วมประชาคมอาเซียน" โครงการประชุมสัมมนาให้ความรู้แก่บุคลากรภาครัฐของจังหวัดมหาสารคาม ในวันที่ 1 สิงหาคม 2555
วันที่ 8 สิงหาคม 2555 อภิปรายหัวข้อ"ทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศอาเซียน ที่ ห้องคอนเวนชั่น ฮอลล์ อิมพีเรียล เวิลด์สำโรง.
ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ของหอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยให้เป็นตัวแทนร่วมอภิปรายงานประชุมสัมมนาของสำนักงานจังหวัดสมุทรปราการ มีโอกาสได้พบและสนทนากับ ท่าน ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ และได้รับฟังปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "ความท้าทายในการมุ่งสู่ประชาคมอาเซียน" นอกเหนือจากนั้นยังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทีมงานของผู้จัดงาน ได้แก่ ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ คุณปวิณ ชำนิประศาสน์ ท่านปลัดจังหวัด ท่านนายอำเภอเมื่องจังหวัดสมุทรปราการ คุณสมคักดิ์ พัวพันธุ์ ท่านวีรชาติ คงอภัย และคุณวิภาศรี จากสำนักงานจังหวัดสมุทรปราการ ผู้ที่สำคัญอีกท่านหนึ่งได้แก่ท่าน ชาญศิลป์ ปานแก้ว เลขาธิการหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ สุดท้ายยังมีโอกาสได้พบ ท่าน ฌอน บุญประคอง ฝ่ายยุทธศาสตร์รัฐบาล สังกัดสำนักนายก
ได้รับเชิญเป็นวิทยากร ของกระทรวงแรงงานในวันที่ ๒๖ และ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๕
๑๓ กันยายน ๒๕๕๕ กรรมการประกวด Call Center
๑๔ กันยายน ๒๕๕๕ วิทยากรพี่เลี้ยงสหกรณ์เครดิกยูเนียน
๒๒ กันยายน ๒๕๕๕ วิทยากรบรรยาย หังข้อ คุณธรรม จริยธรรม วิทยาเขต ศรีราชา มห่วิทยาลัยเกษตร
วันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๕ ได้รับเชิญเป็นวิทยากรบรรยานพิเศษหัวข้อ "รู้จักประชาคมอาเซียน" ในงานสัมมนาคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย (สวท) เวลา ๐๙.๔๕-๑๐.๔๕ ณ.ห้องประชุม โรงแรมฮอลลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท รีเจนท์ บีช ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
งานเสวนานวัตกรรม จัดโดย บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม ร่วมกับ สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย — at โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน กรุงเทพมหานคร.ขอบคุณผู้จัดงานเสวนาครั้งนี้ ขอแสดงความชื่นชมครับ เป็นเสวนาที่ดีที่สุดที่ผมเคยเข้าร่วมงานสัมมนามา กรอบ สาระ หัวข้อ โดยเฉพาะวิทยากร ทั้ง 3 เวทีเสวนา และหนึ่งการบรรยาย
วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ได้รับเชิญเป็นวิทยากรบรรยายเรื่อง " แนวทางการบริหารสหกรณ์เมื่อก้าวสู่ AEC ด้านการพัฒนาบุคลากรในองค์กร" โดย มหาวิทยาลัยบูรพา
จดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ช่วงที่ผู้เขียนดำเนินการขอจดทะเบียนมูลนิธิฯ ได้พบปัญหาและข้อติดขัดต่างๆหลายประการ จึงได้เขียนบทความลงในเฟสบุ๊ค ด้านล่าง
ทำความดีเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและสังคมในประเทศไทยต้องมีความอดทนสูง ปัญหาที่คนดีๆมีกำลังช่วยสังคมและประเทศชาติต้องเลิกล้มความคิดเพราะข้าราชการที่มีความสำนึกต่ำเอาแต่ความชอบไม่ทำอะไร ไม่ใช้สมองทำงาน
ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ก่อตั้งมาแล้วเป็นเวลานานกว่า 4 ปี โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้เกิดการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์แบบบูรณาการ สร้างคนให้มีคุณค่า เพื่อรองรับภาคธุรกิจ หลังจาก 4 ปีในการสร้างเครือข่าย คณะกรรมการตกลงที่จะจดทะเบียนเป็นมูลนิธิ ต้องใช้เวลาในการหาข้อมูลและดำเนินการต่างๆเป็นเวลา เกือบ 4 เดือนจึงสามารถยื่นเรื่องขอจดทะเบียนเป็นมูลนิธิกับเขตหลักสี่ ก่อนที่จะผ่านด่านนี้ต้องใช้เวลาเกื่อบเดือนในการแก้ไขข้อบังคับ จัดเตรียมเอกสารต่างๆในการจดทะเบียน ทางเขตหลักสี่ไม่มีแบบฟอร์มหรือเอกสารใดๆที่จะส่งมอบให้ผู้แจ้งความจำนงในการขอจดทะเบียน เจ้าหน้าที่ บอกสิ่งที่ผู้ขอจดทะเบียนด้วยวาจา และถ่ายเอกสารตัวอย่างบางเรื่องให้ แต่ไม่มีข้อมูลที่สมบูรณ์ จึงทำให้ต้องเสียเวลาไปพบเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 3 ครั้ง จนสามารถยื่นเอกสารได้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่เขตหลักสี่ได้ส่งเรื่องไปให้ สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง (วังไชยา ) กระทรวงมหาดไทย
ประมาณเกือบ 2 อาทิตย์ ได้รับโทรศัพท์แจ้งจากเจ้าหน้าที่สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมปกครอง แจ้งให้ไปพบเพื่อชี้แจงเรื่องเอกสารที่ส่งไปขอจดทะเบียนมูลนิธิ เมื่อไปพบ ก็แจ้งว่าในข้อบังคับที่เขียนไว้ เรื่องกรรมการ ทำให้สับสน และให้ไปจัดทำใหม่ตามตัวอย่างที่ให้มา จึงได้นำมาพิมพ์ใหม่ให้เป็นไปตามตัวอย่าง และได้ส่งไปให้เจ้าหน้าที่พิจารณา ปรากฎว่ามีการพิมพ์ตกหล่น ต้องนำมาแก้ไขใหม่ ในที่สุดต้องใช้เวลา 3 วันก่อนที่จะแก้ไขข้อบังคับให้ถูกต้อง และส่งให้เจ้าหน้าที่ได้ หลังจากนั้นได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ผู้นั้นอีกว่า ที่อยู่ของสำนักงานมูลนิธิที่ระบุในข้อบังคับ ไม่ตรงกับสำเนาเอกสารใบทะเบียนบ้าน ( ที่อยู่ที่พิมพ์ไว้ในข้อบังคับเป็นที่อยู่ที่ใช้ในปัจจุบัน ซึ่งมีรายละเอียดมากกว่าในสำเนาทะเบียนบ้าน ซึ่งทางเขตเองได้มีการแก้ไขเพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ทันต่อการขยายตัวของบ้านเมือง แต่ไม่ได้เปลี่ยนสมุดทะเบียนบ้านให้ ใช้แค่หมึกเขียนเพิ่มในสมุดทะเบียนแต่ไม่มีรายละเอียดพอ เรื่องนี้เป็นเรื่องของทางการเอง แต่ก็โยนให้ประชาชนต้องเดือดร้อน โดยการต้องเสียเวลาในการนำไปแก้ไขให้ตรงกับเอกสารที่ไม่ทันกับปัจจุบัน) หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้โทรแจ้งผู้เขียนว่าเอกสารทุกอย่างสมบูรณ์แล้ว จะทำเรื่องส่งให้วันนี้ (ศุกร์ที่ 2 พ.ย.2555)
วันเสาร์ที่ 3 ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ท่านเดิมโทรมาหา และขอโทษว่าได้ติดต่อไปที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย เขาแจ้งว่า ตามหนังสือคำมั่นสัญญา ที่ผู้แจ้งความจำนงบริจาคเงินจำนวน 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาท) เพื่อเป็นทุนจัดตั้งมูลนิธิ จำนวน 23 ท่าน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 230,000 บาท (สองแสนสามหมื่นบาทถ้วน) พร้อมสำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน ไม่เพียงพอเพราะไม่เชื่อว่าผู้ให้คำมั่นสัญญานั้นมีฐานะมั่นคงเพียงพอหรือไม่ จึงต้องให้ส่งหลักฐานการเงินของแต่ละท่านไปให้
ผมว่าเป็นความซื่อบื้อของนิติกรท่านนั้น เป็นการทำงานแบบไม่ใช้สมอง เอาแต่ความสบายของตัวเอง ไม่ให้บริการหรืออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่มีความตั้งใจทำประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศชาติ ผู้เขียนกำลังขอ ชื่อ และ นามสกุลของท่านผู้นั้นอยู่ และคิดว่าจะโทรหานิติกรผู้นั้นหรือหัวหน้าเพื่อจะได้ทราบข้อเท็จจริงว่า ปัญหาจริงๆอยู่ที่ไหน ควรจะแก้ไขอย่างไร หรือปล่อยให้เป็นแบบนี้
ไม่ใช่ว่าผู้เขียนจะต่อต้านหรือไม่ยอมปฎิบัติตามกฎข้อบังคับ ผู้เขียนเป็นคนมีเหตุผล ไม่ต้องการให้สิ่งผิดๆผ่านไป และทำกันโดยความเคยชิน มักง่ายเอาแต่ความสบายของตัว โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนและวุ่นวายจากคนที่เขามีความตั้งใจทำความดี เพราะถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้ คนดีๆพร้อมเสียสละเพื่อส่วนรวม สังคม และประเทศชาติก็จะหมดความอดทนเลยไม่อยากเปลืองตัวและเปลืองเวลากับสิ่งไร้สาระ
ข้าราชการต้องเป็นผู้ให้บริการประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่ทำประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศชาติ ไม่ใช้คอยแต่จะสร้างเงื่อนไข และความยุ่งยากเกินความจำเป็น
ขอให้พิจารณา ข้อบังคับด้านล่างที่กล่าวถึงเรื่องเกี่ยวกับเอกสารคำมั่นในการบริจาคเงินทุนในการจัดตั้งมูลนิธิ เพราะถ้าผู้ที่ออกหนังสือคำมั่นบริจาคเงินไม่ทำตามหนังสือคำมั่น มูลนิธิที่ได้รับการอนุญาตให้จดทะเบียนก็ต้องสิ้นสุดการเป็นมูลนิธิ
ท่านนิติกรผู้นี้ดูหมิ่นประชาชนที่มีความตั้งใจบริจาคเงินเพื่อการทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ผู้เขียนคิดว่าผู้เขียนทนไม่ได้ น่าจะฟ้องร้องฐานหมิ่นประมาทให้เข็ด
ข้อความในกฎข้อบังคับมูลนิธิ
ข้อ 41 การสิ้นสุดของมูลนิธินั้นนอกจากที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้วให้มูลนิธิเป็นอันสิ้นสุดลงโดยมิต้องให้ศาลสั่งเลิกด้วยเหตุต่อไปนี้
41.1 เมื่อมูลนิธิได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลแล้ว ไม่ได้รับทรัพย์ตามคำมั่นเต็มจำนวน
· คำสำคัญ (keywords): จดทะเบียนมูลนิธิ ปัญหาจากระบบหรือปัญหาจากคน ปัญหาจากผู้รับผิดชอบขาดความรับผิดชอบ ขอฉันทำงานสบายคนอื่นเดือดร้อนยังไงไม่สน นิติกร เขตหลักสี่ ข้าราชการมีหน้าที่ให้บริการประชาชน อย่าสร้างเงื่อนไขหรือปัญหาที่ไร้สาระ
หมายเหตุ :มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ได้รับการอนุมัติการจดทะเบียนจากนายทะเบียนเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ มูลนิธินี้มีวัตุประสงค์ที่จะสร้างและพัฒนาคนไทยให้มีมูลค่าเพิ่ม สร้างทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นแรงงานที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ สังคม และสร้างความมั่นคงให้แก่ตัวเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ทรัพยากรมนุษย์ เป็นทรัพยากรของแผ่นดิน คนเป็นได้ทั้งผู้ให้และเป็นผู้ที่เป็นภาระกับสังคมและประเทศชาติ มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ นำทรัพยากรมนุษย์มาผ่านการบริหารจัดการอย่างบูรณาการเพื่อให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม มีทุนมนุษย์ที่เหมาะสม เป็นกำลังช่วยกันพัฒนาประเทศชาติอย่างยั่งยืน โปรดติดตามการแถลงข่าวในเร็วๆนี้ (ลงเผยแพร่บนเฟสบุ๊คเมื่องวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
วันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ได้รับเชิญเป็นวิทยากรบรรยาย หัวข้อ "การรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและจีน ผลกระทบอะไรต่อ SMEs และธุรกิจผู้แทนบริการโลจิสติกส์" ณ.ห้อง ๒๒๓ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เวลา ๐๙.๐๐-๑๒.๐๐ โครงการสัมมนาเชิงวิชาการ มหาวิทยาลัยหัวเฉียว
งานระดับชาติอีกงานที่ผู้เขียนได้รับเชิญเข้าร่วมงาน
วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๕ ได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรบรรยายหัวข้อ "เทศบาลกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน" ในการประชุมสันนิบาตเทศบาลภาคใต้ครั้งที่ ๒ /๒๕๕๕ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เนื่องจากต้องบรรยายเช้าวันที่ ๑๒ ธันวาคม ผู้เขียนจึงเดินทางมาล่วงหน้าหนึ่งวัน ได้รับการต้อนรับจากผู้จัดเป็นอย่างดี ได้พาผู้เขียนไปไหว้พระ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แถมแถวไปให้อาหารปลา
ปี ๒๕๕๕ ถือว่าเป็นปีที่ดีกับผู้เขียน มีงานเข้ามาตลอดทั้งปี แบ่งเป็นงานต่างๆดังนี้
๑.งานวิทยากร มีเกือบทุกเดือน บางเดือนมีหลายงานด้วยกัน ส่วนมากจะเป็นงานบรรยายที่เกี่ยวข้องกับประชาคมอาเซียน และหรือ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน มีเรื่องคนบ้างแต่ก็จะต้องมีเรื่องของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเข้าไปเกี่ยวข้อง ผู้เขียนภูมิใจที่มีโอกาสได้รับเชิญเป็นวิทยากรบรรยายในงานใหญ่ๆหลายงาน ผู้เขียนไม่เคยตีราคาค่าตัวผู้เขียน ที่ไหนเชิญมาถ้าว่างก็ไป ค่าวิทยากรจะให้หรือไม่ให้ ไม่ใช่ปัญหา แต่ทุกครั้งที่รับงาน จะต้องใช้เวลาหาข้อมูลและเตรียมการต่างๆทุกครั้ง จัดทำเอกสารใหม่ทุกครั้งเพื่อให้ตรงกับความต้องการและผลประโยชน์ของผู้รับฟังเป็นหลัก ใช้เวลาบรรยายแค่ชั่วโมงเดี่ยวแต่จะต้องเตรียมงานเป็นวัน
๒.งานที่ปรึกษา ปีนี้รับงานที่ปรึกษาและโค้ชส่วนตัวให้กับทายาทของเจ้าของโรงแรมระดับแนวหน้าของประเทศไทย ผู้เขียนได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์ว่าเขาได้อ่านบทความของผู้เขียนในสื่อต่างๆ และต้องการให้ผู้เขียนเป็นที่ปรึกษาและโค้ชส่วนตัวให้เขา หลังจากได้พบและคุยรายละเอียด ผมเขียนตกลงรับงานเป็นโค้ชและที่ปรึกษาส่วนตัวให้กับท่านผู้นั้นเป็นเวลาหนึ่งปี เรียกค่าที่ปรึกษาล่วงหน้า ครึ่งหนึ่งและที่เหลื่อให้ผ่อนจ่าย ๑๒ เดือน โดยให้เวลาในการเป็นโค้ชและที่ปรึกษาทางโทรศัพท์และ e-mail ได้ตลอดเวลา ๒๔ ชั่วโมง และให้เวลาพบตัวเพื่อปรึกษาอาทิตย์ละ 2 ครั้งๆละ ๒ ชั่วโมง นอกจากนั้นก็เป็นที่ปรึกษาเฉพาะเรื่องให้กับหลายๆท่าน ทั้งผู้ที่รู้จัก และผู้ที่ติดต่อมาทาง e-mail หรือโทรศัพท์ ส่วนมากจะเป็นเรื่องการทำธุรกิจโรงแรม การเขียนแผนธุรกิจโรงแรม ส่วนมากการให้คำปรึกษาเช่นนี้จะให้คำปรึกษากว้างๆซึ่งไม่ได้คิดเงินค่าปรึกษา นอกจากจะให้เจาะลึกก็จะต้องมาคุยกันให้แน่ชัดว่าความคาดหวังของผู้ที่ขอปรึกษามากน้อยแค่ไหน และผู้เขียนมีเวลา และสามารถช่วยเขาได้แค่ไหน ถ้าไม่แน่ใจก็จะไม่รับงาน
๓.งานวิจัยด้านการท่องเที่ยว ส่วนมากจะได้รับเชิญให้ช่วยแสดงความคิดเห็นในงานวิจัยที่เขากำลังทำหรือทำเสร็จแล้ว งานวิจัยนี้ส่วนมากหน่วยงานของภาครัฐจะเป็นผู้จ้างที่ปรึกษาให้ทำงานวิจัย และผู้เขียนจะเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับเชิญให้เป็นผู้ช่วยแสดงความคิดเห็น งานนี้ไม่ค่อยได้เงิน แต่ก็ยินดีเพราะถือว่าเป็นการช่วยประเทศชาติและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แต่ก็มีงานวิจัยหลายๆงานด้านการท่องเที่ยวได้เชิญผู้เขียนร่วมเดินทางไปทำวิจัยด้วย ก็เท่ากับได้ไปเที่ยวฟรี แต่ไม่ได้ค่าจ้างใดๆทั้งสิ้น
เรื่องงานวิจัยท่องเที่ยว เป็นเรื่องที่ผู้เขียนมีความในใจเป็นอย่างยิ่ง ผู้เขียนเป็นผู้ที่อยู่ในภาคการท่องเที่ยวมาตลอด เรียนจบด้านธุรกิจการบิน ทำงานบริษัทนำเที่ยวภายในประเทศ นำเที่ยวภายนอกประเทศ Inbound Tour Operator ตัวแทนขายตั๋วเครื่องบิน โรงแรม มีประสบการณ์การทำงานในทุกตำแหน่ง ตั้งแต่เสมียน จนถึงผู้จัดการ ผู้บริหารสูงสุดขององค์กร เคยเป็นหุ้นส่วนและผู้บริหารมาหลายบริษัท ซึ่งล้วนเป็นบริษัทชั้นนำในยุคนั้นๆ ผู้เขียนเป็นผู้ชักชวน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ กรรมการเลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ ให้หันมาสนใจธุรกิจบริการโดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว ผู้เขียนเป็นผู้นำมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศเข้าสู่ธุรกิจท่องเที่ยว แต่แปลกใจเมื่อมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศได้รับงานที่ปรึกษาจากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อทำงานวิจัยด้านการท่องเที่ยว ศ.ดร.จีระ กลับมอบหมายผู้ที่ไม่ได้อยู่ในวงการท่องเที่ยว เป็นทีมหลักในการทำงานวิจัยด้านการท่องเที่ยว ผู้เขียนดีใจที่ได้เข้าเป็นทีมทำงาน แต่กลายเป็นว่าเอาไปแต่ชื่อการทำงานวิจัยไปอยู่ในมือของผู้ที่ไม่มีความรู้และความเข้าใจด้านการท่องเที่ยวอย่างลึกซึ้ง ผู้เขียนให้เอกสารข้อมูลการท่องเที่ยวที่ผู้เขียนได้รวบรวมไว้ทั้งงานวิจัยต่างๆด้านการท่องเที่ยวที่เคยมีคนทำไว้แล้ว เพื่อให้ทีมทำงานศึกษาและทำความเข้าใจ ทีมงานได้นำเอกสารของผู้เขียนไปและไม่ได้ส่งคืนแต่ก็ไม่ได้นำสิ่งต่างๆที่มีอยู้ในเอกสารเหล่านั้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ผู้เขียนจึงปลีกตัวออกมาโดยไม่เข้าไปยุ่งกับงานวิจัยด้านการท่องเที่ยวที่มูลนิธิฯได้ทำต่อ อย่างไรก็ตามทางมูลนิธิฯได้ให้ผลตอบแทนในงานวิจัยครั้งนี้ประมาณ ๒ หมื่นกว่าๆ ค่าตอบแทนมากน้อยแค่ไหนไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ศักดิ์ศรีและความโปร่งใสเป็นเรื่องที่ผู้เขียนให้ความสำคัญมากที่สุด ด้วยเหตุนี้ผู้เขียนจึงไม่ค่อยเข้าไปยุ่งกับงานของมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ตั้งแต่นั้นมา
๔.งานสัมมนาและงานประชุม เป็นงานที่ผู้เขียนชอบมากที่สุด งานประชุมส่วนมากจะเป็นงานของสภาหอการค้า และของหน่วยงานราชการต่างๆ ผู้เขียนพยายามไปร่วมทุกงานที่ได้รับเชิญ ถ้าไม่ตรงกับงานอื่นที่รับไว้แล้ว งานเหล่านี้ไม่มีรายได้ แต่เป็นกิจกรรมที่ให้ความรู้เป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ของผู้เขียน
๕.งาน Social Media กิจกรรมนี้เป็นอีกกิจกรรมที่ผู้เขียนให้ให้สำคัญมาก ทุกวันจะต้องเช็ค e-mail ตอบ e-mail ดูเฟสบุ๊ค หาหัวข้อดีๆเพื่อศึกษาเรียนรู้ และแชร์ต่อให้เพื่อนๆคนอื่นร่วมเรียนรู้ร่วมกัน บ้างครั้งก็มีการแสดงความเห็นแลกเปลี่ยนกัน การเขียนบทความต่างๆในเฟสบุ๊ค หรือ ใน gotoknow และเวปไซด์ของมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์
ครับเป็นงานที่เหนื่อยและแทบไม่เหลือเวลาที่จะออกกำลังกาย หรือทำอย่างอื่นเลย แต่บางครั้งก็จะทำงานบ้าน และออกไปเปิดหูเปิดตาดูสิ่งแปลใหม่ และหาโอกาสไปต่างจังหวัดบ้าง แต่ยังน้อย เนื่องจากปัญหาด้านเศรษบกิจ
สรุปปี ๒๕๕๕ มีรายได้จากการเป็นวิทยากร และ ที่ปรึกษา จำนวน ๓๕๙,๗๓๓ บาท มีหนี้สินคงเหลือ ๙๑๗,๐๓๒ บาท ถึงแม้นจะมีงานเข้ามามากแต่ก็ยังไม่พอกับค่าใช้จ่าย แต่ก็ถือว่าดีกว่าสองปีที่ผ่านมา
โปรดติดตามตอนที่ ๑๓ พ.ศ. ๒๕๕๖ ในเร็วๆนี้
คำสำคัญ (Tags): #ชีวิตผู้สูงวัย#วิทยากร#ที่ปรึกษา#การดำเนินชีวิต#งานประชุม
หมายเลขบันทึก: 589783
เขียนเมื่อ 5 พฤษภาคม 2015 18:57 น. (7 ปีที่แล้ว)
แก้ไขเมื่อ 25 มีนาคม 2016 14:03 น. (6 ปีที่แล้ว)
สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง
ดอกไม้: 2 · ความเห็น: 0
 
Home > Articles > บทความของ ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท > บทเรียนการดำเนินชีวิตของผู้สูงวัย ตอน ๑๒ พ.ศ.๒๕๕๕

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5585
Content : 3038
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8559485

facebook

Twitter


ล่าสุด

บทความเก่า