ผมมีโอกาสติดตามอ่านผลงานของนักเขียน งานประเภท ประวัติศาสตร์ไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงได้ทาบทามให้ท่านช่วยเขียนบทความลงในเวปไซด์ ของ ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ และท่านตอบตกลง ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการจัดระบบ เพื่อให้ท่านสามารถเข้ามาเขียนบทความได้ด้วยตัวท่านเอง พร้อมนี้ได้นำการโต้ตอบระหว่างผมและคุณสันติมาให้ท่านรับทราบในเบื้องต้น ขอได้โปรดติดตามอ่านบทความของคุณสันติที่ตั้งใจเขียนให้กับกลุ่มสมาชิกของ ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ โดยตรง
ผมขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งที่ ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท ให้ความกรุณาหยิบยื่นไมตรีให้ ทั้ง ๆ ที่ผมติดตามอ่านงานของคุณได้ไม่นานมานี้เอง
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ผมชอบเขียนงานประวัติศาสตร์ก็จริง แต่เมื่อลงลึกแล้วผมกลับชอบงานทางด้านโบราณคดีมากกว่า เพราะมันไม่ยึดติด ใช้หลักฐานมาก ไม่ปฏิเสธตำนาน
ที่ชอบที่สุดก็จะเป็นงานโบราณคดีสมัยประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ศิลปะ แหล่งท่องที่ยวทางวัฒนธรรม แนวประยุกต์ให้เข้ากับเหตุการณ์ปัจจุบัน
และรวมถึงงานวิจารณ์หนังสือ ภาพยนตร์ โดยสอดแทรกแนวคติดทางคติชนวิยา และประวัติศาสตร์
หากจะให้เขียนประวัติศาสตร์ จ๋า ๆ ในลักษณ์เข้าแบบ กระแสหลักเลยก็คงต้องใช้ความพยายามากสักหน่อย เพราะความสามารถในภาษาอังกฤษผมบกพร่อง
ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ โดยคณาอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิที่ยังคอยให้ความกรุณาผมเมื่อผมต้องการค้นข้อมูล
ทั้งมวลที่กล่าวไปเพราะต้องการแสดงให้เห็นว่า ผมถนัดในด้านไหน ไม่ถนัดในด้านไหน เพื่อประกอบในการพิจารณา
ขอแสดงความนับถืออย่างและขอขอบพระคุณอีกครั้งครับ
สันติ หอมยมณ์ (วาทิน ศานติ์ สันติ)
ขอบพระคุณที่ให้ความสนใจงานเขียนของผมและชักชวนให้ขียนงานลงในเวปไซด์ อย่างที่ได้เรียนไปเบื้องต้นว่าผมมีความสนใจและเขียนงานประเภท ประวัติศาสตร์ไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โบราณคดีสมัยประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ศิลปะในประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง วัฒนธรรมประเพณี อักษรและภาษาโบราณในประเทศไทย
ซึ่งผมได้อ่านเอกสารของมูลนิธิแล้ว งานเขียนของผมคงจะสร้างประโยชน์ให้กับมูลนิธิได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งแนวทางที่ผมถนัดนั้นน่าจะมีส่วนสนับสนุนภาคท่องเที่ยวได้ โดยสามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานทางวิชาการ ให้กับธุระกิจท่องเที่ยว (ไกด์) ผมสามารถข้าถึงข้อมูล วิทยานิพนธ์ งานวิจัยของกรมศิลปากร รวมถึงมีความรู้จักกับบุคลากรที่มาจากมหาวิทยาลัยศิลปากรในระดับหนึ่ง ผมเชื่อว่างานประวัติศาสตร์ที่ดูจะแห้งแล้งชวนง่วงนอน หากนำมาประยุกต์ใช้เป็นข้อมูลเพื่อการท่องเที่ยวได้ ก็น่าจะดีกว่าให้มันอยู่ในหนังสือหนา ๆ ชวนน่าเบื่อไม่มีคนอ่าน
ผมได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับมูลนิธิและเวปไซท์แล้ว นับว่ามีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง
ส่วนเรื่องานเขียนนั้นผมสามารถนำไปลงให้ที่เวปไซด์ได้ อาจจะเดือนละเรื่อง โดยที่ไม่คิดต้นฉบับ ทั้งนี้ทั้งนั้นผมขอศึกษาแนวทางของมูลนิธิเพื่อคัดสรรงานเขียนที่เหมาะสม
ช่องทางการเข้าไปเขียนทำอย่างไร กรุณาช่วยแจ้งด้วยครับ