ครูเพื่อศิษย์ส่งเสริมให้ศิษย์สนุกกับการเรียน : 25. เทคนิคดึงความสนใจ นศ. (5) สถานีความรู้
บันทึกชุดนี้ ได้จากการถอดความ ตีความ และสะท้อนความคิด จากการอ่านหนังสือ Student Engagement Techniques : A Handbook for College Faculty เขียนโดย ศาสตราจารย์ Elizabeth F. Barkley ในตอนที่ ๒๓ นี้ ได้จาก Chapter 12 ชื่อ Knowledge, Skills, Recall, and Understanding และเป็นเรื่องของ SET 5 : Stations
SET 5 สถานีความรู้
จุดเน้น : ความร่วมมือ
กิจกรรมหลัก : หลากหลาย
ระยะเวลา : ๑ คาบ
โอกาสเรียน online : สูง
นี่คือเทคนิคให้ นศ. เรียนเนื้อหาสาระโดยการเรียนแบบที่ไม่ใช่การบรรยายหน้าชั้น แต่เรียนจากสถานีนิทรรศการความรู้ ได้ฟัง ซักถาม แลกเปลี่ยน จดบันทึก เมื่อพอใจแล้วก็เคลื่อนไปสถานีต่อไป ตัวนิทรรศการจัดได้หลากหลายแบบ ตั้งแต่ง่ายที่สุดคือใช้กระดาษ ฟลิพชาร์ท เขียนคำถามคำเดียว หรือเขียนข้อความที่คัดลอกมา ไปจนถึงหนังสั้น วิดีโอคลิป หรือวัสดุสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับบทเรียนพร้อมคำถามหรือประเด็นอภิปราย
ขั้นตอนดำเนินการ
- เลือกประเด็นที่เหมาะต่อการเรียนจากนิทรรศการ และเตรียมคิดว่าวัตถุ หรือรายการสิ่งของใดบ้างที่จะนำมาใช้กระตุ้นความสนใจและการเรียนรู้ในมิติที่ลึก และดึงดูดความสนใจของ นศ.
- วางแผนว่าจะมีกี่สถานี สถานีอะไรบ้าง แต่ละสถานีใช้เวลาเท่าไร ใช้อะไรเป็นนิทรรศการ สถานีแบบ stand alone จะดีกว่า คือไม่ใช่ว่าต้องผ่านสถานีที่ ๑ ก่อน จึงจะศึกษาสถานีที่ ๒ รู้เรื่อง เพราะจะเปิดโอกาสให้ นศ. มีอิสระที่จะเริ่มที่สถานีไหนก็ได้
- เตรียมนิทรรศการ และจัดทำคู่มือการเรียนจากสถานีความรู้แต่ละสถานี พร้อมด้วยใบงานคำถาม
- วางแผนจัดการกลุ่ม นศ. เข้าชมนิทรรศการ ว่าจะให้เข้าไปเป็นกลุ่ม กลุ่มละกี่คน เวียนเส้นทางอย่างไร ฯลฯ ยิ่งกลุ่มเล็กจะยิ่งทำให้การเรียนรู้เข้มข้น เช่น ๒ - ๓ คน
- แบ่ง นศ. ออกเป็นกลุ่ม มอบใบงาน และอธิบายวิธีเรียนจากนิทรรศการ พร้อมกับมอบหมายคำถาม
ตัวอย่าง
วิชา African American Literature
ใช้การเรียนจากสถานีนิทรรศการเป็นกิจกรรมติดตามผลการอ่านหนังสือที่มอบหมาย ซึ่งตามตัวอย่างคือ Autobiography of My Mother โดย Jamaica Kincaid จัดสถานีนิทรรศการ ๖ สถานี แบ่ง นศ. เป็นกลุ่มละ ๕ คน สถานีแรก คัดลอก ๒ ประโยคแรกมาไว้ และตั้งคำถามว่า ถ้อยคำนี้ให้ความหมายหรือความคาดหวังอะไรแก่ นศ. นศ. แต่ละกลุ่มได้รับปากกาสำหรับเขียนคำตอบ (ลงบนกระดาษที่จัดไว้ที่แต่ละสถานี) ปากกาของแต่ละกลุ่มต่างสีกัน เมื่อครบเวลา ๑๐ นาที ครูออกคำสั่ง “เปลี่ยนกลุ่ม” เมื่อวนครบรอบแล้ว วนใหม่อีกรอบ ไปโหวดว่าคำตอบของกลุ่มไหนแสดงความคิดที่ลุ่มลึกหรือน่าสนใจที่สุด การเรียนคาบนี้จบลงด้วยการอภิปรายทั้งชั้น และการมอบรางวัลแก่กลุ่มที่ได้รับคะแนนโหวดสูงสุด
วิชาคณิตศาสตร์
เป้าหมายของการเรียนจากนิทรรศการ ก็เพื่อให้ นศ. ในรายวิชาคณิตศาสตร์เรียนแก้ตัว ได้เข้าใจคุณค่าของคณิตศาสตร์ต่อชีวิตในอนาคตของตน โดยจัดนิทรรศการ “คณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน : ตัวเลขมีความสำคัญต่อการตัดสินใจของแต่ละวันอย่างไร” ในช่วงต้นๆ ของภาคการศึกษา โดยจัดให้มี ๕ สถานี
สถานีแรกชื่อ “เล่นแล้วชนะ” ประกอบด้วยโปสเตอร์ชักชวนเล่นการพนันหลากหลายชนิด แล้วให้ นศ. จับสลากกระดาษสีจากกล่อง แล้วทำความเข้าใจว่า probability ที่จะชนะคือเท่าไร
สถานีที่ ๒ ชื่อ “การออมกับการกู้” แสดงดอกเบี้ยธรรมดา กับดอกเบี้ยทบต้น เอาตัวเลขดอกเบี้ยเงินฝาก กับดอกเบี้ยเงินกู้ (กรณีประเทศไทยน่าจะเอาดอกเบี้ยเงินผ่อนรถยนต์) มาให้ดู แล้วถามว่า ความรู้จากข้อมูลเหล่านี้ จะมีผลต่อการดำรงชีวิตในอนาคต ด้านการเงิน ของตนอย่างไร
สถานีที่ ๓, ๔, ๕ ได้แก่ “การเพิ่มประชากร” “ทำครัวด้วยตัวเลข” และ “คณิตศาสตร์ : ภาษาสากล”
หลังจาก นศ. ผ่านครบทุกสถานี จัดการอภิปรายทั้งชั้น แล้วจึงเก็บกระดาษใบงาน
วิชาประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา
เพื่อให้ นศ. เข้าใจมิติเชิงลึกของ “กรณี วอเตอร์เกท” ที่ทีมงานของพรรครีพับลิกันลอบดักฟังการประชุมพรรคเดโมแครต ในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ ซึ่งต่อมามีผลให้ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ต้องลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกปลด ครูมอบให้ นศ. เข้าไปเรียนรู้นิทรรศการ online ของ Ford Library ชื่อ “The Watergate Files” ซึ่งมี ๕ นิทรรศการย่อย โดยครูมีเอกสารใบงานเป็นคู่มือในการศึกษาจากแต่ละนิทรรศการ พร้อมคำถามให้ นศ. ตอบทั้งแบบ ตอบด้วยหลักฐาน (objective answer) และตอบด้วยความคิดเชิงนามธรรมของตนเอง (subjective answer) และสุดท้าย ให้ นศ. เขียนเรียงความสะท้อนการเรียนรู้ของตน
การปรับใช้กับการเรียน online
ใช้ได้ดี ดังตัวอย่างวิชาประวัติศาสตร์ข้างบน
การขยายวิธีการ หรือประโยชน์
- หา เว็บไซต์ ที่มีนิทรรศการ ออนไลน์ เอาไว้ใช้ประโยชน์ ใน สรอ. สามารถค้นหาได้ด้วยคำว่า “educational exhibits” เขาแนะนำ Resources for Science Learning ของ Franklin Institute
คำแนะนำ
- อาจติดโปสเตอร์นิทรรศการที่ผนังห้องเรียน การจ้างพิมพ์โปสเตอร์เดี๋ยวนี้ราคาไม่สูง และพิมพ์ได้จาก อีเล็กทรอนิก ไฟล์
- การเรียนจากนิทรรศการนี้ นศ. ที่มีสไตล์เรียนรู้ แบบ visual และ kinesthetic learner จะเรียนได้ดี
- กรณีที่ข้อมูลในนิทรรศการซับซ้อนมาก ต้องให้เวลาแก่การเรียนจากนิทรรศการมากพอ
- การเรียนจากนิทรรศการที่จัดอย่างดี จะได้การเรียนรู้ที่ลึกและเชื่อมโยง
- ถ้าสภาพห้องเรียนไม่เหมาะต่อนิทรรศการ อาจไปใช้สถานที่อื่น
- อย่าลืมให้ นศ. อาสาสมัคร มีส่วนจัดนิทรรศการ
หมายเหตุของผม
วงการศึกษาไทยควรพิจารณาดำเนินการพัฒนาศักยภาพของแหล่งเรียนรู้ภายนอกสถานศึกษา (เช่น พิพิธภัณฑ์ แหล่งประวัติศาสตร์ หรือโบราณคดี สวนพฤกษศาสตร์ วนอุทยาน ฯลฯ) ให้จัดนิทรรศการเพื่อการเรียนรู้ได้เหมาะต่อการเรียนรู้ของนักเรียนนักศึกษายิ่งขึ้น รวมทั้งมีนิทรรศการ online ด้วย
เอกสารค้นคว้าเพิ่มเติม
Brookfield SD, Preskill S. (2005) Discussion as a way of teaching : Tools and techniques for democratic classrooms. San Francisco : Jossey-Bass, pp. 107-108.
วิจารณ์ พานิช
๑๐ ต.ค. ๕๕
· สร้าง: 12 ตุลาคม 2555 04:23 · แก้ไข: 12 ตุลาคม 2555 12:13