ช่วยกันกระตุ้นให้สังคมไทยโปร่งใสมากขึ้น
ผมมองยุค คสช. เป็นยุคกวาดล้างความโสมม ที่หมักหมมมาจากรัฐบาลทักษิณที่มียิ่งลักษณ์เป็นหุ่นเชิด
โดยหวังว่ารัฐบาล คสช. / ประยุทธ จะไม่สร้างความโสมมเสียเอง จากความสอพลอเป็นปุ๋ย
เพื่อสร้างโครงสร้างอำนาจ ที่จะป้องกันความโสมม โกงกินบ้านเมือง โครงสร้างหนึ่งที่ควรลงหลัก วางโครงไว้ คือความโปร่งใสเปิดเผยในบ้านเมือง ให้กิจการสาธารณะต้องเปิดเผยข้อมูลแก่สังคม และต้องให้ ข้อมูลรายละเอียดแก่นักวิจัย สำหรับเอามาศึกษาภาพใหญ่ของบ้านเมือง แล้วบอกแก่สังคม
ระบบหนึ่งที่ต้องการการแก้ไขส่วนนี้อย่างยิ่ง คือระบบพลังงาน
นอกจากการเปิดเผยข้อมูลแล้ว อีกมาตรการหนึ่งที่จะสร้างสังคมที่โปร่งใส คือการกำหนดให้ นโยบายสาธารณะต้องแสดงหลักฐานยืนยันว่านโยบายนั้น พัฒนาขึ้นโดยมีหลักฐานความรู้ หรือการวิจัยยืนยัน
นอกจากนั้น หลังจากใช้นโยบายสาธารณะนั้นๆ ไปได้ ๒ - ๓ ปี ต้องให้ทีมนักวิจัยที่เป็นกลาง และมีความสามารถสูง เข้าไปประเมินผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ว่าได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้หรือไม่ และมีผลลัพธ์อะไรอีกบ้าง ที่ก่อผลดีโดยไม่คาดคิด เพราะอะไร รวมทั้งประเมินผลร้ายหรือผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น ถือการประเมินนี้เป็น “การประเมินเพื่อพัฒนา” (Formative Assessment) นำไปสู่การปรับปรุงนโยบาย และมาตรการ และเพื่อกำกับไม่ให้ คอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย ดำเนินไปได้
คอร์รัปชั่นเชิงนโยบายที่ร้ายแรงที่สุดของยุครัฐบาลทักษิณที่มียิ่งลักษณ์เป็นหุ่นเชิด คือนโยบายรับจำนำข้าว ที่ก่อความเสียหายด้านการเงินแก่บ้านเมืองน่าจะถึง ๑ ล้านล้านบาท รวมทั้งก่อความเสียหายด้านอื่นๆ อีกมากมาย เราต้องช่วยกันเสนอแนะให้รัฐบาลนี้ และกลไก สนช. และอื่นๆ สร้างโครงสร้างและกลไกป้องกันไม่ให้ความชั่วร้ายนี้กลับมาใหม่
วิจารณ์ พานิช
๒๕ ส.ค. ๕๗