โครงการรับจำนำข้าว ที่ในที่สุดจะทำลายระบอบทักษิณ และอำนาจทางการเมืองของครอบครัวชิณวัตร ให้ล้มครืนลง น่าจะเป็นคติสอนใจคนได้ ให้เห็นว่า “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน”
ร. ๖ เคยมีพระราชนิพนธ์โคลงคติชีวิตไว้ ตอนหนึ่งว่า สุจริตคือเกราะบัง ศาสตร์พ้อง โคลงบทนี้ผมท่องได้ทั้งบท และยึดเป็นคติในการดำเนินชีวิต อ่านโคลงกลอนสอนใจ ได้ ที่นี่ แต่เขาพิมพ์คำว่าเกราะผิดเป็นเกาะ
มีคำสอนที่ผมยึดปฏิบัติว่า
“คุณอาจหลอกคนส่วนใหญ่ได้ แต่จะหลอกได้ไม่ทุกคน
คุณอาจจะหลอกคนทุกคนได้ในบางเวลา แต่ไม่ตลอดไป”
ดังนั้น ความซื่อสัตย์ จริงใจ ไม่หลอกใคร จึงเป็นแนวทางดำเนินชีวิตที่ดีที่สุด มีความมั่นคงถาวร
เหตุการณ์ได้พิสูจน์แล้ว ว่าระบอบทักษิณเป็นระบอบที่หลอกลวง เป็นระบอบที่สร้างขึ้น เพื่อสนองความบ้าอำนาจ ต้องการเป็นใหญ่ของคนคนเดียว
โดยเขาเก่งในระดับอัจฉริยะ สามารถคิดและดำเนินการโครงการที่กอบโกยเงินทองก็ได้ กอบโกยคะแนนเสียงก็ได้ ประสบความสำเร็จในระดับเหลือเชื่อ
ความเก่ง + ความโลภ + ความชะล่าใจ ทำให้เขาคิดโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด ที่เริ่มต้นก็หลอกลวงแล้ว เพราะที่ทำ ขัดกับหลักการรับจำนำโดยสิ้นเชิง แต่คนที่จะได้ประโยชน์ก็ตายใจ ไม่คิดว่า นี่คือโครงการลวงโลก
นักวิชาการที่เห็นแก่บ้านเมือง ออกมาค้าน และสื่อสารสังคมมากมาย แต่เขาก็ไม่สนใจ เพราะชะล่าใจว่าผู้คนจะหลงสนใจแต่ผลประโยชน์เฉพาะหน้า ไม่รู้ว่าภายในโครงการได้สอดใส้กลโกง หรือคอรัปชั่น ไว้ทุกขั้นตอน
ในที่สุดก็หนีความจริงไม่พ้น โครงการรับจำนำข้าวที่เต็มไปด้วยความทุจริต และละเลยผลเสีย ระยาวที่จะเกิดแก่อุตสาหกรรมข้าวไทย ก็กลายเป็นหอก วกกลับมาทิ่มแทงระบอบทักษิณ เปิดโปงความ ชั่วร้ายของทักษิณและบริวาร
เมื่อบาปของโครงการรับจำนำข้าว ผสมโรงกับบาปจาก ร่าง พรบ. นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย หายนะก็มาถึงระบอบทักษิณ
นี่คือตัวอย่างของเคราะห์กรรมที่ตามทัน ผู้ดำรงชีวิตด้วยความโลภ ทะเยอทะยานไม่สิ้นสุด ไม่เห็นคุณค่าของความพอเพียง ผสมกับการยึดแนวทางทุจริตชั่วร้าย
เป็นเคราะห์กรรมที่เกิดจากความเก่งในระดับอัจฉริยะ ทำให้เหลิง และหลงคิดว่าคนอื่นตามไม่ทัน ไม่รู้เท่าทัน
แต่ …. สวรรค์มีตา
วิจารณ์ พานิช
๑๓ ก.พ. ๕๗