บ่ายวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๗ มีการประชุมคณะกรรมการชี้ทิศทาง โครงการจัดตั้งสถาบันวิจัยระบบการเรียนรู้ ที่ ทีดีอาร์ไอ ผมได้รับความรู้เรื่องพฤติกรรมในระบบบริหารการศึกษาของประเทศไทย ที่ทำให้ผมเขียนบันทึกนี้
ผมได้รับฟังว่า ผู้บริหารของหน่วยงานเดียวกันไม่เคยคุยปรึกษาหารือเพื่อประสานงานกันเลย ไมมีการประสานงาน ภายในหน่วยงานเดียวกัน และข้ามหน่วยงาน คำว่าหน่วยงานในที่นี้หมายถึง ๕ แท่งในกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานอิสระ ด้านการศึกษา
ผมจึงบอกตัวเองว่า หน่วยงานด้านการศึกษาทำงานในหน้าที่ของตนไม่สำเร็จ เพราะมี independence โดยไม่มี inter-dependence
ระบบการศึกษา เป็นระบบที่ซับซ้อน และต้องมีพลวัตสูง เป็นธรรมชาติ นี่คือ complex-adaptive system ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติที่ส่วนประกอบย่อย ต้อมมีคุณสมบัติ หรือพฤติกรรม independent ต่อกัน แต่ก็มี inter-dependence ต่อกัน แต่ระบบบริหารการศึกษาไทย ขาด inter-dependence จึงเป็นระบบที่แยกกันทำงาน เป็นเสี่ยงๆ (fragmented) จึงเป็นธรรมดา ที่จะไม่สามารถบริหารให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่มีคุณภาพสูงได้
แต่ยังมียิ่งกว่านั้น อดีตผู้บริหารระดับสูงมาก บอกว่า ในกระทรวงศึกษาธิการ การเมืองล้วงลึกมาก จนฝ่ายบริหารไม่สามารถบริหารเพื่อผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาได้ ท่านผู้อ่านคงจะเข้าใจนะครับว่า การเมืองล้วงลึกเพื่ออะไร
ผมจึงเล่าให้ที่ประชุมว่า ผมตีความว่า รัฐบาลชุดที่กำลังรักษาการอยู่ในปัจจุบัน แต่งตั้งข้าราชการระดับสูง ที่เป็นคนที่ “สนองนโยบาย” ได้ ซึ่งหมายความว่า เข้าใจขั้นตอนของระบบราชการพอที่จะช่วยเอื้อให้เงินงบประมาณไหลไป ณ จุดที่นักการเมืองต้องการได้ โดยไม่ทักท้วงว่ามันไหลไปเข้ากระเป๋าใคร ส่วนเรื่องความสามารถในการทำงานให้บรรลุผลจริงๆ นักการเมืองในรัฐบาลนี้ไม่ใส่ใจ
ผมเข้าใจประเด็นนี้ สมัยที่ผมทำหน้าที่ประธาน กกอ. เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในสมัยนั้น (คือนายวรวัจน์) แต่งตั้งคนมาเป็นเลขาธิการ กกอ. ผมก็เข้าใจวิธีเลือกคนทันที และผมส่งใบลาออกจากประธาน กกอ. ทันที
ระบบการศึกษาไทย เน่าเฟะจากการเข้าไปแสวงประโยชน์โดยนักการเมืองที่ไร้คุณธรรม ทำลายระบบการทำงานเพื่อ ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาไปจนเกือบหมดสิ้น
ในการดำเนินการฟื้นฟูบูรณะประเทศไทยครั้งใหญ่ ที่เรียกว่าปฏิรูปประเทศไทย ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ การปฏิรูประบบการศึกษา เป็นเรื่องในลำดับความสำคัญต้นๆ ต้องการการปฏิรูปในระดับ ยุบกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อกวาดล้างระบบชั่วร้ายและระบบที่ผิดพลาด ที่หมักหมมมานาน
๖ มี.ค. ๕๗