Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Thaiihdc.org

ทุนมนุษย์กับทุนแห่งความสุข

พิมพ์ PDF

“ทุนมนุษย์กับทุนแห่งความสุข และการทำงานที่มีประสิทธิภาพ”

เป็นหัวข้อสำคัญสำหรับ Seminar & Workshop “Passion & Happiness Capital” ที่ผมได้เข้าร่วมในวันนี้  จัดโดย มูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศและ Chira Academy 

Learning and Coaching from the Leaders in Human Capital and Passion Development

Prof. Dr.Chira Hongladarom and Mr.Bruce Hancock

การสัมมนาในวันนี้ใช้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ  บรรยากาศดีมากเต็มไปด้วยความสุข สมกับหัวข้อ  ขอยกตัวอย่างเด่นๆมาแบ่งปันให้กับทุกท่าน

 

ทำงานกับฉัน ฉันไม่มีอะไรจะให้ ฉันมีแต่ความสุขที่ร่วมกันในการทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นเท่านั้น.. ทำอะไรต้องมีความสุขด้วย เพราะศึกครั้งนี้ยาวนาน ถ้าเราทำอย่างไม่มีความสุขจะแพ้ แต่ถ้าเรามีความสุข เราจะชนะ...

หลักการทรงงานของพระเจ้าอยู่หัวฯ

 ข้อที่ 21 เรื่องทำงานอย่างมีความสุข

จากหนังสือ ธรรมดีที่พ่อทำ

ของคุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย

 

    “It is very important to generate a good attitude, a good heart, as much as possible. From this, happiness in both the short term and the long term for both yourself and others will come.”

“Happiness is not something ready made. It comes from your own actions.”

Dalai Lama

 

  การมีทุนแห่งความสุข เป็นจุดเริ่มต้น คือ จำเป็น แต่เป็นสิ่งที่จะต้องไปเชื่อมโยงกับทุนอื่น ๆ เช่น มี Heart (Happiness) ต้องมี Head ปัญญา และต้องมี Execution ต้องทำให้สำเร็จ
       คล้ายกับทฤษฎี
Fact หรือ Feeling แต่การมี Happiness อย่างเดียวไม่พอ ต้องมี Strategy ต้องมี Data ด้วย จึงไปสู่ความสำเร็จ 

ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

 

กฎในการสร้างทุนแห่งความสุขของผม

 

Happiness Capital

(Dr. Chira Hongladarom’s Model)

 

Happiness Capital

(Sharp/Hongladarom’s Model

  1. สุขภาพทางร่างกายและจิตใจพร้อมไม่หักโหม

         (Healthy)

 

  1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

   (Exercise)

 

  1. ชอบงานที่ทำ

         (Passion)

 

2.อย่าแบกงานที่หนักเกินไป

     (Put down your burden)

 

.      3. รู้เป้าหมายของงาน

         (Purpose)

 

3. ศักยภาพในการถ่ายทอดในงาน

   (Communicate Effectively

4.       รู้ความหมายของงาน

         (Meaning)

 

4. ทำงานในจุดแข็งของตัวเอง

   (Recognize your strengths)

 

5.      มีความสามารถที่จะทำให้งานสำเร็จ

        (Capability)

 

5. มุ่งมั่นในงาน

   (Keep Focus)

 

6.      เรียนรู้จากงานและลูกค้าตลอดเวลา

        (Learning)

 

6. ทำในสิ่งที่อยากทำไม่ใช่เพราะต้องทำ

   (Reduce the ‘shoulds’)

 

7.      เตรียมตัวให้พร้อม

         (Prepare)

7. ทำงานในองค์กรที่มองคุณค่าของคนและงานคล้าย ๆ กัน

   (Clarify your values)

 

8.       ทำงานเป็นทีม อย่าทำงานคนเดียว

         (Teamwork)

 

8. อย่าทำงานเครียดและวิตกกังวล

   (Overcome worry and stress)

 

9.       ทำหน้าที่เป็นโค้ชให้แก่ทีมงานและลูกทีม

         (Coaching)

 

9. บริหารภาระงานให้เหมาะกับตัวเอง

   (Refine your workload)

 

10.     ทำงานที่ท้าทาย

         (Challenge)

 

10.ใช้คำว่าขอบคุณกับลูกน้องและเพื่อนร่วมงาน

    (Choose your words)

 

11.     ทำงานที่มีคุณค่า

         (Enrichment)

 

11.สร้างบรรยากาศในการทำงานให้มีความสุขร่วมกัน

    (Create good environment)

 

 

การทำงานอย่างมีความสุข คือ ต้อง Calling แปลว่า เราทำเพราะหัวใจเราแสวงหา เราจะทำสุดฝีมือ ทิ้งมรดกที่ดีไว้
แต่แค่เป็น
Job หรืออาชีพเราก็จะไม่ประสบความสำเร็จ       

 

ประโยชน์ 10 ข้อของการมีทุนแห่งความสุข

  1.  
    1. ช่วยทำให้ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ง่ายและได้ผลสูงสุด
    2. ทำให้ตัวเองมี Creativity สูงขึ้น อันนี้ผมเห็นด้วย ผมชอบแนวคิดนี้ ถ้าเราไม่มีความสุขเราก็คิดอะไรไม่ออก แถมยังคิดแง่ลบด้วย
    3. ทำให้เราหาทางออกแทนที่จะบ่นว่าปัญหายากจัง
    4. มองโลกในแง่ดี (Optimism)
    5. มีพลัง (Energy) เพิ่มขึ้น
    6. ทำให้กระตุ้น/Motivate and Inspired ได้ง่ายกว่า
    7. ไม่ค่อยจะป่วย..เป็นโน่นเป็นนี่บ่อย ๆ
    8. สามารถเรียนรู้ได้เร็วและสนุก สร้าง Learning Culture ได้ดีกว่าคนที่ไม่มีความสุข
    9. มีความมั่นใจว่าจะกล้าทำอะไรนอกกรอบได้มากขึ้น โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีความผิดพลาด อันนี้จริงเพราะถ้าเรามีความกลัว (Fear) เราก็ไม่สำเร็จ ต้องมั่นใจว่ากล้าทำ
    10. ทำให้ตัดสินใจได้ดีและรอบคอบ อันนี้จริง เพราะถ้าคน IQ สูงแต่เครียดมักจะผิดพลาดเรื่องการตัดสินใจ

Happiness Workers จำเป็นจะต้องอยู่ในบรรยากาศการบริหารจัดการให้เกิดมูลค่าเพิ่มสูงสุด

ดังนั้น ตัวละคร 3 กลุ่ม ต้องมีความสามารถและจะต้องทำงานร่วมกันกลุ่มแรก คือ CEOต้องเป็นคนที่มีความสุขด้วยไม่ใช่เป็น “Unhappy CEO” ก็คงไม่มีใครอยากทำงานด้วย แต่มี “Happy CEO” ก็ไม่พอต้องมี “Smart and Happy CEO” คือ รู้จักใช้ศักยภาพของเขาเหล่านั้นอย่างเต็มที่ เช่น

§  มอบหมายงานที่เพิ่มความสุข (ท้าทาย)

§  ลดการขัดแย้งในองค์กร

§  ดูแลวัฒนธรรมองค์กรให้ไปในทางสร้างให้พนักงานเป็นเลิศให้ได้

  • กลุ่มที่ 2 คือ HR นอกจาก Smart HR แล้วในองค์กรยังต้องมี Smart and Happy HR” บุคคลที่ทำงานกับ Happy People ในองค์กรก็ต้องรู้จัก ทุนแห่งความสุข ดี
  • กลุ่มสุดท้าย คือ Line Managers หรือ Non-HR ก็คงจะต้องเน้นความสามารถในการบริหารพนักงานให้เปลี่ยนจาก สุขน้อย เป็น สุขมาก หรือ มีความสุขแล้วได้สร้างมูลค่าเพิ่มอย่างเต็มที่

ทฤษฎี HRDS เพื่อการสร้างทุนแห่งความสุขและการทำงานร่วมกับผู้อื่น

  • HAPPINESS
  • RESPECT
  • DIGNITY
  • SUSTAINABILITY
 

กิจกรรมสมายทัศน์สัญจร

พิมพ์ PDF

 

กิจกรรมสยามทัศน์สัญจร ครั้งที่ ๑/๒๕๕๕ 
วันอาทิตย์ที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
“จิตรกรรมไทยเมื่อวันน้ำนองที่ย่านบางจาก-บางอ้อ”
(รายได้จากกิจกรรมในครั้งนี้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบูรณะศาสนสถานหลังน้ำลด)
เวลา กิจกรรม 
๐๗.๓๐ – ๐๘.๐๐ น. พบกันในวันน้ำลด ที่เชิงสะพานซังฮี้ (สะพานกรุงธนบุรี - ฝั่งธน ฯ) 
๐๘.๐๐ - ๐๘.๓๐ น. บรรยายภาพรวมของวัดวาอารามฝั่งธน ฯ กับผู้คนที่ (เคย) อยู่กับน้ำ
๐๘.๓๐ – ๐๙.๓๐ น. เดินเท้าเข้าชมวัดเปา (วัดเปาโรหิตย์) ชมจิตรกรรมฝีมือครูช่างในสมัยรัชกาลที่ ๔ 
กับวันเวลายุคตื่นตะวันตก พร้อมภาพชาดกนอกนิบาตจุลประทุมชาดก ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ 
๑๐.๐๐ - ๑๑.๐๐ น. ชม วัดใหม่เทพนิมิต (วัดริมคลองบางจาก) พบกับพระอุโบสถสมัยอยุธยาที่หาชมได้ยากเต็มทน 
ในวันนี้ พร้อมจิตรกรรมแบบขนบไทยประเพณี และภาพทศชาติชาดกฝีมือความวิจิตรระดับ
วัดไชยทิศที่ควรค่าแก่การชม
๑๑.๐๐ – ๑๒.๓๐ น. ชม วัดภคนีนาถ วรวิหาร (วัดบางจาก) หรือวัดนอก วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๒ 
และปฏิสังขรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 3 จึงปรากฏการเขียนภาพเครื่องตั้ง-เครื่องแขวน 
เครื่องลายครามตามขนบนิยมแบบจีนที่งดงามเป็นอย่างยิ่ง
๑๒.๓๐ – ๑๓.๓๐ น. รับประทานอาหารกลางวัน (ตามอัธยาศัย)
๑๓.๓๐ น. นัดพบหน้าซอยจรัลสนิทวงศ์ 86 (ตรงข้ามซอยจรัลสนิทวงศ์ 87 ชิดขวาเพื่อกลับรถ)
๑๓.๓๐ – ๑๔.๓๐ น. เข้าเยี่ยมชุมชนสุเหร่าบางอ้อ (สุเหร่าหลังงามริมแม่น้ำ) และย่านการค้า การล่องซุง 
และกิจการการเดินเรือเมล์บนลำน้ำเจ้าพระยาของอดีต 
๑๕.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. และร่วมวงเสวนา “วิถีคนบนลำน้ำย่านบางอ้อ”


ร่วมเสวนาโดย ครูอาลี สิทธิสงวน การค้าไม้ซุงในวันวาน
คุณอดุลย์ โยธาสมุทร ลูกหลาน (ขุนด่ำ) กับการเดินเรือเมล์เขียว
คุณภูมิ ภูติมหาตมะ คนค้น (ผู้) คนที่บางอ้อ
(น้องภูมิ กาแฟบ้านบางอ้อ)
สุดารา สุจฉายา เปิดวงสนทนาพร้อมค้นหารากเหง้าและ
วิถีในย่านบางอ้อ-บางพลัด 
พร้อมกับลิ้มรสวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่น “ชาร้อนนมสด-แป้งกลอกจิ้มคั่ว” 
ในบรรยากาศเรา ๆ ก่อนอาทิตย์อัสดง
๑๗.๐๐ น. เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

 

* กำหนดการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม งานนี้ห้ามพลาดอย่างยิ่ง คงอีกนานจะกลับมาจัดอีกไม่จำกัดจำนวน แต่ต้อง e-mail มาบอกก่อนที่ อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน จะได้เตรียมเอกสารได้ถูกต้อง
หมายเหตุ ทริปนี้เป็นทริปเดินตามปกติของชมรมสยามทัศน์ ไม่มีการจองล่วงหน้า มีค่าลงทะเบียนและเอกสาร
ท่านละ ๑๕๐ บาท (๕๐ บาท สำหรับอาหารเรียกน้ำย่อยยามเย็น) และโปรดแต่งกายตามความเหมาะสมกับการเดิน ควรเตรียมร่มกันฝน แว่นตากันแดด และทาครีมกันแดด

 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 24 มกราคม 2012 เวลา 13:27 น.
 

ต้องเคารพภูมิสังคม พัฒนาพื้นที่ในทุกมิติ

พิมพ์ PDF

บทสัมภาษณ์ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีเมตตา  พื้นฐานของผมไม่ได้เรียนเกษตร แต่พระองค์ทรงมีความรอบรู้เชี่ยวชาญทางการเกษตร เพราะเป็นกิจกรรมที่พระองค์ทรงงานอยู่ ทรงสอนทุกอย่าง ให้เรารู้จักดิน น้ำ ลม ไฟ  รู้จักธรรมชาติ รู้จักคน ซึ่งพระองค์ทรงสรุปให้ฟังในวันหนึ่งว่า ต้องเคารพภูมิสังคม ภูมิ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ส่วนสังคม คือ คน ซึ่งเป็นคนในมิติที่มีขนบธรรมเนียมประเพณี ความเชื่อ และค่านิยมของเขาด้วย พระองค์ทรงสอนให้เรารอบรู้หมดทุกอย่างในการทำงาน เช่น เวลาทำโครงการเราคิดแต่จะวางโครงการบนแผ่นกระดาษเท่านั้น แต่เมื่อได้ถวายงานจึงได้รู้ว่า กิจกรรมหรือโครงการนี้จะต้องมีครบทุกมิติ แต่ก่อนเราดูแต่มิติกายภาพ ดูเป็นถนน เป็นสะพาน เป็นตึกอาคาร เราดูเพียงแค่นั้น แต่พระองค์ทรงสอนให้เห็นถึงมิติของคน หรือความจริงที่ว่า "คน" คือผู้ใช้ถนนเป็นสิ่งมีชีวิต คนใช้เขาพร้อมจะใช้หรือเปล่า การไปลาดยางถนนในขณะที่เขาใช้เกวียนเป็นพาหนะอยู่ ถ้าลาดยางแล้วเขาจะใช้หรือเปล่า เหมาะสมหรือไม่ เพราะฉะนั้น ทรงสอนให้มองมิติต่างๆ อย่างครบถ้วน เวลาทำงานพัฒนาจึงต้องมองทุกมิติ ทุกอย่างต้องวางให้สอดคล้องกับภูมิประเทศและสังคมที่แตกต่างกันไป

นอกจากนี้ โครงการต่างๆ มีหลากหลายสาขา ต้องประสานงานกับหลายหน่วยงาน เริ่มต้นจากการสร้างแหล่งน้ำ จากแหล่งน้ำก็ต้องมีอาชีพ เรื่องเกษตร ปศุสัตวเข้ามา หน้าที่หลักๆของ สำนักเลขานุการ กปร อีกประการหนึ่งคือ เป็นตัวกลางคอยประสานเพื่อให้งานลุล่วงด้วยดี ซึ่งจะทำให้ดีได้ต้องเข้าใจพระราชดำริอย่างแท้จริง พระองค์ทรงมีพระราชกระแสหรือพระราชดำริอะไรต้องจดให้หมด ดังนั้น ในการตามเสด็จฯ กลับมาแต่ละครั้งจะต้องทำรายงานว่าวันนี้ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งอะไรบ้าง เป็นคัมภีร์ ใครจะมากล่าวอ้างเป็นอย่างอื่นไม่ได้ รวมทั้งต้องทำบันทึกให้ทีมงานนำไปประสาน ถ้าหากจำเป็นจะต้องตั้งเป็นคณะทำงานหรือเป็นกรรมการในระดับโครงการในพื้นที่ ก็ทำเป็นโครงการเล็กๆ และประสานการจัดสรรงบประมาณจนครบถ้วนกระบวนการตามพระราชดำริ

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 07 กุมภาพันธ์ 2012 เวลา 21:18 น.
 

ขอมอบความรักและความปรารถนาดีแด่ท่านนายก ยิ่งลักษณ์ เนื่องในวันแห่งความรัก

พิมพ์ PDF

ขอมอบความรักและความปรารถนาดีแด่ท่านนายก ยิ่งลักษณ์ เนื่องในวันแห่งความรัก

เนื่องในโอกาสวันแห่งความรัก ขอมอบความรักและความปรารถนาดีให้แก่ท่านนายก ยิ่งลักษณ์ ขอให้ท่านนายกยิ่งลักษณ์มีความรักประเทศชาติและคนไทยอย่างจริงใจ ตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนด้วยความบริสุทธิ์ใจ ท่านเป็นผู้ที่มีบุญวาสนา มีโอกาสได้ทำงานรับใช้ประเทศชาติ ท่านอยู่ในตำแหน่งผู้นำของประเทศไทย ตามทฤษฎีทุนมนุษย์ของท่าน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมย์ ประกอบด้วย ทุน 8 K’s + ทุน 5 K’s ได้แก่

1.ทุนมนุษย์ ได้แก่ทุนเริ่มต้นของมนุษย์ทุกคน ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นทุนที่ได้มาจากการกระทำในอดีตชาติ ทำให้มาเกิดในท้องของพ่อแม่ ที่มีความพร้อมแตกต่างกัน  

2.ทุนทางปัญญา ทุนนี้เป็น ทุนที่ต้องสร้างด้วยตัวเอง สังคม สิ่งแวดล้อม การศึกษาและคนรอบข้าง มีอิทธิพลกับการนำทุนทางปัญญาไปใช้ในทางดีหรือไม่ดี

3.ทุนทางจริยธรรม ทุนนี้เป็นทุนที่ต้องสร้างด้วยตัวเองล้วนๆ เป็นทุนที่ส่งเสริมในการนำ ทุนที่ 2 คือทุนทางปัญญาไปใช้ในทางที่ถูกต้อง เพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัวหรือพวกพร้อง

4.ทุนแห่งความสุข ทุนนี้เป็นทุนที่สร้างด้วยตัวเองล้วนๆ เป็นทุนที่สำคัญที่สุด คนที่มีทุนนี้มาก คือคนที่มีทุน ที่ 1+2+3 เต็มสมบูรณ์  

5.ทุนทางสังคม ทุนนี้เป็นทุนที่ได้รับอิทธิพลจาก ครอบครัว สถานศึกษา และคนรอบข้าง ส่วนจะพัฒนาให้มีทุนมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความชอบและความสามารถของแต่ละคน ในการมีบทบาทเป็นที่ยอมรับของสังคมนั้นๆ

6.ทุนแห่งความยั่งยืน ขึ้นอยู่กับการกระทำและประสบการณ์ของแต่ละคนที่มีผลกระทบต่อจิตใจของตัวเองและคนรอบข้างหรือคนที่มีส่วนได้เสียกับการกระทำของแต่ละคน

7.ทุนทางไอที ทุนในการนำ ไอที มาใช้เป็นเครื่องมือ ให้เกิดประโยชน์ต่อชีวิตและการทำงานของแต่ละคน

8.ทุนความรู้และทักษะและทัศนคติ ทุนนี้เป็นทุนที่ได้จากประสบการณ์ในการเรียนรู้ ในสถาบันการศึกษา สถานที่ทำงาน  ชุมชนและเครือข่ายทางสังคม ตลอดจนในครอบครัวของตนเอง

ทุนมนุษย์ทั้ง 8 เป็นทุนที่มนุษย์ทุกคนมี ส่วนใครจะมีมากน้อยแค่ไหน เป็นผลต่อการดำรงชีวิตของแต่ละบุคคล นอกจากทุน 8 K’s ที่ได้กล่าวไปแล้ว ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ยังเพิ่มให้อีก 5 ทุนเพื่อให้ทันต่อยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ได้แก่

1.ทุนแห่งการสร้างสรรค์ เป็นทุนที่คิดในด้านบวก สร้างวิกฤตให้เป็นโอกาส คิดสิ่งใหม่ๆ

2.ทุนทางความรู้ เป็นทุนที่เพิ่มเติมจากความรู้อย่างผิวเผิน ความรู้ในมิติเดียว ให้เป็นความรู้อย่างลึกซึ่งและเป็นความรู้ในหลายมิติ

3.ทุนทาง นวัตกรรม ได้แก่ทุนที่ต่อยอดจากของเดิมทำให้เกิดมูลค่าเพิ่ม

4.ทุนทางอารมณ์ ได้แก่ทุนในการบริหารอารมณ์ ให้เกิดอารมณ์ที่สร้างสรรค์ มีอิทธิพลทำให้เกิดทุนทางปัญญา +ทุนทางจริยธรรม เป็นผลทำให้เกิดทุนทางความสุข +ทุนแห่งความยั่งยืน

5.ทุนทางวัฒนธรรม ได้แก่ทุนในการศึกษาเรียนรู้เรื่องคน ซึ่งเป็นคนในมิติที่มีขนบธรรมเนียมประเพณี ความเชื่อและค่านิยมของแต่ละคนซึ่งแตกต่างกัน

ทั้งทุน 8 K’s และ ทุน 5 K’s เป็นทุนที่ผู้นำจะต้องมี ทุนที่สำคัญที่ทำให้ผู้นำมีคุณค่าเหนือผู้อื่น ได้แก่ทุนที่อยู่ภายในของผู้นำท่านนั้น ทุนที่อยู่ภายในจะถูกนำมาใช้เมื่อผู้นำท่านนั้นคิดและทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ผลที่จะตามมาคือความสุขอย่างยั่งยืนของผู้นำท่านนั้น

ท่านนายกยิ่งลักษณ์ต้องศึกษาประวัติของผู้นำหลายๆท่าน ตั้งแต่ก่อนเป็นผู้นำ ระหว่างเป็นผู้นำ และหลังจากลงจากการเป็นผู้นำ ผลที่ท่านนายกยิ่งลักษณ์ทำและจะทำในอนาคตมีผลต่อประเทศชาติ และประชาชนทั้งประเทศ บรรพบุรุษของเราที่สร้างชาติสร้างแผ่นดินและทิ้งมรดกไว้ให้พวกเรา ท่านเฝ้าติดตามดูแลประเทศไทยตลอดเวลา ไม่เคยทอดทิ้ง ถ้านายกยิ่งลักษณ์มีความจริงใจและบริสุทธิ์ใจต่อประเทศชาติ  บรรพบุรุษและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายตลอดจนประชาชนคนไทยจะไม่ทอดทิ้งท่านนายก แต่ถ้าท่านทำอะไรที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติโดยเห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวท่านและพวกพร้อง ท่านก็จะได้รับผลจากการกระทำของท่านในทางตรงกันข้าม หวังว่าท่านจะเลือกทางที่ถูกต้อง ที่ทำให้ท่านและประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืน

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

14 กุมภาพันธ์ 2555

 

ทุนภายใน

พิมพ์ PDF

ทุนภายใน

 

 

มนุษย์มีทุนติดตัวมาไม่เท่าเทียมกัน  ขึ้นอยู่กับผลของการกระทำในอดีตชาติ ทุนมนุษย์แบ่งออกเป็นสองทุนใหญ่ๆได้แก่ทุนภายในและทุนภายนอก ทุนภายในได้แก่ทุนทางจิตเป็นทุนดั้งเดิมของมนุษย์แต่ละคน ส่วนทุนภายนอกได้แก่ทุนที่ได้มาจากผู้อื่นกับทุนที่แสวงหามาเพิ่มเติม เป็นทุนที่ไม่แน่นอน  เช่นทุนทางสังคม ได้แก่การมีหน้ามีตาได้รับการยกย่องในสังคม  ทุนทางการศึกษา ได้รับการยกย่องว่ามีความรู้  ทุนทางปัญญา ได้แก่การแสวงหาความรู้และนำความรู้ที่ได้มาไปปฏิบัติเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเองและผู้อื่น  รวมถึงทุนทางทรัพย์สินเงินทอง

มนุษย์ที่เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย ถือว่ามีทุนภายนอกมากกว่ามนุษย์ที่เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีทุนภายในมากกว่า ทุนภายในเป็นทุนที่กำหนดคุณค่าของความเป็นมนุษย์ โดยมีทุนภายนอกเป็นส่วนประกอบที่มีทั้งส่วนให้การสนับสนุนและส่วนที่ช่วยทำลายคุณค่าของความเป็นมนุษย์

สังคมทุนนิยมเป็นตัวกำหนดให้มนุษย์มุ่งเน้นเพื่อแสวงหาทุนภายนอกให้กับตัวเองและครอบครัว โดยเข้าใจว่าการมีทุนมากกว่าจะเป็นผู้ที่เหนือกว่าคนอื่น ต่างแข่งขันกันหาเงินให้ได้มากที่สุดเพื่อจะได้มีชีวิตที่เหนือกว่าผู้อื่น โดยไม่คำนึงถึงความพอเพียงและการแบ่งปัน

ผู้ที่มีฐานะร่ำรวยใช้เงินซื้อทุกสิ่งที่ตัวเองอยากได้โดยไม่คำนึงถึงมนุษยธรรม ผู้ที่มีอำนาจวาสนาใช้อำนาจในการแสวงหาเงินทอง เพื่อเก็บเงินทองไว้เป็นมรดกให้กับลูกหลาน  มนุษย์ที่เกิดมาในครอบครัวเหล่านี้จึงมีโอกาสมากกว่า มนุษย์ที่เกิดมาในครอบครัวธรรมดาที่ไม่ได้ร่ำรวยและไม่มีอำนาจ เช่นการศึกษามนุษย์ที่เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย หรือ ครอบครัวที่มีอำนาจวาสนา จะมีโอกาสได้ร่ำเรียนสูงกว่า มนุษย์ที่เกิดมาในครอบครัวปานกลางหรือครอบครัวที่ยากจน จึงมีโอกาสที่จะได้ทำงานที่ดีมีรายได้มากกว่า มีโอกาสที่จะได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนหรือผู้นำของสังคม

ผู้นำสังคมในปัจจุบันมาจากกลุ่มผู้มีเงินและอำนาจวาสนา จึงได้กำหนดคุณค่าของมนุษย์โดยใช้ตัวชี้วัดตามคุณสมบัติของกลุ่มตัวเองว่าเป็นผู้ที่มีคุณค่ามากกว่ามนุษย์ในกลุ่มอื่น สังคมได้กำหนดตัวชี้วัดคุณค่าของมนุษย์จากทุนภายนอกดังนี้

๑)     เศรษฐี มีเงินทองและทรัพย์สมบัติมาก ( ทุนทางทรัพย์สิน)

๒)    เจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ (ทุนทางสังคม)

๓)    ข้าราชการระดับสูงหรือนักการเมือง (ทุนทางสังคม)

๔)    นักวิชาการ (ทุนทางการศึกษา)

๕)    ผู้ที่จบการศึกษาสูงๆ (ทุนทางการศึกษา)

 

จากตัวชี้วัดดังกล่าว ทำให้มนุษย์ต้องแข่งขันกันหาเงินและอำนาจเพื่อทำให้ตัวเองหรือลูกหลานได้รับ

การยอมรับว่าเป็นผู้มีคุณค่า  ผู้ที่ยังไม่ร่ำรวยหรือมีอำนาจวาสนาต้องวิ่งหาเงินทองเพื่อนำมาเป็นทุนให้ลูกได้เรียนสูงๆเพื่อมีโอกาสแข่งขันกับผู้อื่น  เกิดการชิงดีชิงเด่น แข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำให้สังคมขาดความสามัคคี ไม่มีความจริงใจ และซื่อสัตย์  มีแต่ผู้คอยรับ แต่ขาดผู้ให้ เห็นแก่ตัว เอาแต่ได้โดยไม่คำนึงถึงส่วนรวม มนุษย์ที่ร่ำรวยและมีอำนาจส่วนใหญ่ ไม่รู้จักพอเพียง  ยิ่งรวยมากเท่าใดก็ยิ่งต้องการได้มากขึ้นอีกเป็นเงาตามตัว ไม่มีการแบ่งปันให้คนอื่น แถมยังเอาเปรียบและฉ้อโกงเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทองและอำนาจที่มากขึ้น ทั้งๆที่อำนาจและเงินทองที่มีอยู่อย่างเหลือเฟือไม่มีวันใช้ได้หมด แต่ก็ยังต้องการหามาเพิ่ม แทนที่จะนำไปแบ่งให้กับผู้ยากจนและขัดสน หรือให้การสนับสนุนกับผู้ที่ด้อยกว่า

               

 

มนุษย์ที่มีทุนภายนอกมากจะไม่ได้รับความสุขอย่างแท้จริงถ้าไม่มีทุนภายในมากพอ ยิ่งแสวงหาทุนภายนอกมากเท่าใด โดยไม่รู้จักความพอเพียง  เอาเปรียบไม่รู้จักการแบ่งปันและให้ผู้อื่นบ้าง  ทุนภายในก็จะลดน้อยลงไปเรื่อยๆจนแทบจะไม่เหลือหรือติดลบ จนในที่สุดความล่มสลายก็จะเกิดขึ้นกับตัวเองและครอบครัว

               

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นตัวชีวัดทุนภายในของมนุษย์ได้ชัดเจนที่สุด ถ้ามนุษย์ผู้ใดเข้าใจ เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้นำไปปฏิบัติ มนุษย์ผู้นั้นจะเป็นมนุษย์ที่มีคุณค่าอย่างแท้จริง  

 

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๙

 


หน้า 544 จาก 559
Home

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5614
Content : 3057
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8660617

facebook

Twitter


บทความเก่า