บริการประชาชน
แบบนี้เขาไม่เรียกว่าบริการประชาชนแล้วครับ เขาเรียกว่าต้อนประชาชนให้มารายงานตัวเหมือนกับต้อนวัวเข้าคอก เพื่อตีตราเจ้าของ ระบบราชการเอาแต่ได้ คิดแต่ความสะดวกของข้าราชการเอง ไม่ได้คิดถึงเวลาของประชาชนที่ต้องไปเพราะจำยอม ทำไมไม่หัดใช้สมองทำงานบ้าง เมื่อรู้ความต้องการและจำนวนของประชาชนที่จะต้องมาต่ออายุบัตรประชาชน ก็ต้องวางแผนจัดการให้เหมาะสม ผมไม่โทษพนักงานระดับล่าง โทษผู้ที่มีตำแหน่งบริหารจัดการ การทำงานวิธีนี้ทำให้ทั้งพนักงานและประชาชนเครียด ประชาชนควรได้รับบริการเปลี่ยนบัตรอย่างรวดเร็ว ต้องใช้ปัญญาในการบริหารจัดการครับ การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อทำให้การทำงานเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ใช่นำมาใช้แล้วทำให้ประชาชนเดือดร้อนกว่าเดิม ได้อ่านบทความของอาจารย์จันทวรรณ เลยรีบไปดูบัตรประชาชนว่าหมดอายุเมื่อใด ปรากฏว่าหมดอายุปี 2558 ค่อยโล่งอก เพราะกลังว่าจะต้องไปโวยวายที่เขตอีก เหลืออีก 2 ปี หวังว่าการบริหารจัดการจะได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น อยากเห็นจดหมายจากเขตมาแจ้งให้ไปเปลี่ยนบัตรประชาชนของท่านระหว่างวันที่ ........ ณ.เขต ....... เมื่อไปตามวันและเวลาที่นัด ก็สามารถได้รับการบริการที่ดี เตรียมการไว้อย่างดี ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ก็ได้รับบัตรประชาชนใบใหม่กลับมา
ผมได้อ่านบันทึกของอาจารย์จันทวรรณ เรื่องการต่ออายุบัตรประจำตัวประชาชน รู้สึกไม่สบายใจกับการบริการที่ประชาชนได้รับ ตามบทความข้างล่างนี้
ถ้าเรามีศูนย์ข้อมูลการติดต่อราชการ
เมื่อวานซืนไปต่อบัตรประจำตัวประชาชนที่เทศบาลนครหาดใหญ่ปรากฎว่าคิวเต็ม เจ้าหน้าที่บอกว่าให้มาใหม่วันพรุ่งนี้หรือไปทำที่เทศบาลไหนก็ได้ทั่วประเทศ ...
จึงลองเดินทางไปทำที่เทศบาลบ้านพรุ ปรากฎว่าเหลือคิวสุดท้าย เจ้าหน้าที่บอกว่ามีคิวจำกัดต่อวัน ...
เมื่อวานเป็นวันที่สองที่ต้องเดินทางไปเทศบาลบ้านพรุเพื่อทำบัตรประชาชน เจ้าหน้าที่บอกว่าคิวเต็มแต่จะอนุโลมต่อให้อีกสองคนเพราะเห็นว่ามาแล้วเมื่อวาน ....
นั่งรอคิวพร้อมกับงงๆ ว่าคิวเต็มได้อย่างไรในเมื่อยังไม่ทันเที่ยง แล้วจึงเหลือบไปเห็นตัววิ่งไฟฟ้าที่เขียนไว้ว่าคิวช่วงเช้ามี 30 คิวต่อวันและคิวช่วงบ่ายมี 30 คิวต่อวัน ....
.....
นั่ง Time machine ย้อนเวลากลับไปสามวันที่แล้ว ค้นหาข้อมูลทางเว็บว่าต่อบัตรที่ไหนก็ได้ใช่หรือไม่ คิวต่อวันมีจำกัดเท่าไร ขั้นตอนต้องทำอย่างไรบ้าง ใช้เอกสารอะไรบ้าง
ความจริงคือ ผู้ใช้บริการก็ไม่ทราบว่าจะต้องถามอะไร และเจ้าหน้าที่ก็ไม่ทราบว่าจะต้องบอกอะไร
นั่นคือประชาชนต้องการศูนย์ข้อมูลการติดต่อราชการ
ขั้นที่หนึ่ง ระบบจะถามว่าคุณต้องการติดต่อเรื่องอะไร
ขั้นที่สอง ผู้ใช้เลือกบริการที่ต้องการ
ขั้นที่สาม ระบบแสดงขั้นตอน เอกสาร ระเบียบปฏิบัติ และ FAQs ของบริการนั้นๆ
แล้วการติดต่อราชการจะสะดวกรวดเร็วขึ้นอีกเยอะ ....
....
ได้บัตรประชาชนใบใหม่มาเรียบร้อยแล้วก็เลยลองถามเจ้าหน้าที่ว่า การย้ายที่อยู่ทำได้ทุกเทศบาลหรือไม่ คำตอบคือไม่ได้ค่ะ ต้องทำที่เทศบาลในเขตที่อาศัยอยู่ค่ะ
....
มีผู้แสดงความคิดเห็นตามนี้
"ปีที่แล้วบัตรประชาชนหมดอายุ ดิฉันได้ไปเขต (กทม. ทำบัตรที่เขต)
คนเยอะมาก เพราะว่ามีเด็กนักเรียนอายุตั้งแต่7ขวบ ขึ้นไป มาทำด้วย
วันหนึ่ง รับได้ 120-150คน เรามาคำนวณเวลากันนะคะ
1วันเวลาราชการมี8ชั่วโมง ไม่พักเที่ยง คิดเป็น9ชั่วโมง คิดเป็นนาที ได้ 540นาที
ถ้าคิดต่อคน150คน/วัน ใช้เวลาทำบัตรคนละ 3.60 นาที ใช้เวลาไปเท่านี้ โอเคไหมคะ ?
ไปถึงเขตยังไม่ถึง8โมงเช้าเลย พอเจ้าหน้าที่ของเขตบอกว่าวันนี้คิวเต็มหมดแล้ว เพราะประชาชนมารับบัตรคิวตั้งแต่7.00น.ค่ะ
แต่โชคดี ที่เขตนี้มีอินเทอร์เน็ตให้สามารถจองคิวได้ทางอินเทอร์เน็ต และ
สามารถไปทำบัตรได้ภายใน60วัน หลังจากบีตรหมดอายุ จึงได้จองคิวไปทางอีเมล
ยุคไอที ถ้าหากว่ามีการใช้เทคโนโลยี่ให้เป็นประโยชน์ ก็จะสามารถประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยค่ะ
สำหรับต่างจังหวัด เครื่องมือและบุคคลากร อาจจะน้อยกว่า กทม.
8ชั่วโมง(480นาที) ต่อวัน ต่อ60คน คิดเป็นใช้เวลาไปคนละ 8 นาที ไม่รวมเวลารอคิว
แบบนี้ โอเคไหมคะ ?
ขอสนับสนุนให้หน่วยราชการทุกสถานที่ สามารถนัดหมายได้ทางเมลอีเลคโทรนิคค่ะ"
ผมได้ร่วมแสดงความเห็นดังนี้
"แบบนี้เขาไม่เรียกว่าบริการประชาชนแล้วครับ เขาเรียกว่าต้อนประชาชนให้มารายงานตัวเหมือนกับต้อนวัวเข้าคอก เพื่อตีตราเจ้าของ ระบบราชการเอาแต่ได้ คิดแต่ความสะดวกของข้าราชการเอง ไม่ได้คิดถึงเวลาของประชาชนที่ต้องไปเพราะจำยอม ทำไมไม่หัดใช้สมองทำงานบ้าง เมื่อรู้ความต้องการและจำนวนของประชาชนที่จะต้องมาต่ออายุบัตรประชาชน ก็ต้องวางแผนจัดการให้เหมาะสม ผมไม่โทษพนักงานระดับล่าง โทษผู้ที่มีตำแหน่งบริหารจัดการ การทำงานวิธีนี้ทำให้ทั้งพนักงานและประชาชนเครียด ประชาชนควรได้รับบริการเปลี่ยนบัตรอย่างรวดเร็ว ต้องใช้ปัญญาในการบริหารจัดการครับ การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อทำให้การทำงานเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ใช่นำมาใช้แล้วทำให้ประชาชนเดือดร้อนกว่าเดิม
ได้อ่านบทความของอาจารย์จันทวรรณ เลยรีบไปดูบัตรประชาชนว่าหมดอายุเมื่อใด ปรากฏว่าหมดอายุปี 2558 ค่อยโล่งอก เพราะกลังว่าจะต้องไปโวยวายที่เขตอีก เหลืออีก 2 ปี หวังว่าการบริหารจัดการจะได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น อยากเห็นจดหมายจากเขตมาแจ้งให้ไปเปลี่ยนบัตรประชาชนของท่านระหว่างวันที่ ........ ณ.เขต ....... เมื่อไปตามวันและเวลาที่นัด ก็สามารถได้รับการบริการที่ดี เตรียมการไว้อย่างดี ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ก็ได้รับบัตรประชาชนใบใหม่กลับมา"
ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท
21 เมษายน 2556