"เอาไว้ทำไม ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วนี่"
ผมไม่ได้ถามลูกหรอกว่า เมื่อวานลูกชูสามนิ้วหรือเปล่า เพราะคืนวันอาทิตย์ลูกบอกก่อนแล้วว่าเพื่อนๆส่งข้อความกันทาง ig บอกให้ชู 3 นิ้วหลังร้องเพลงชาติ ที่จริงเขาก็ติดตามการเมืองมานานแล้ว
ผมถามว่า "ลูกไม่เอากษัตริย์ด้วยหรือเปล่า"
"เอาไว้ทำไม ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วนี่ เหลือไว้เป็นตำนานแบบฝรั่งเศสดีกว่า " อึ้งสิครับ นั่นเป็นคำตอบของลูกสาว ม.2 ของผม
ผมบอกลูกว่า แต่ก่อนสมัยพ่อเฒ่ายังหนุ่มนะ พ่อเฒ่าเลี้ยงแม่ของลูกมาอย่างดีเลย ทำงานหาเงินให้แม่ พาแม่ไปเที่ยวแต่ตอนนี้พ่อเฒ่าแก่แล้ว พ่อเฒ่าไม่มีประโยชน์แล้วใช่ไหม
ปู่ก็ด้วย แต่ก่อนปู่ก็หาให้ทุกอย่างที่พ่ออยากได้ ตอนนี้ปู่ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วใช่ไหม
เราคนไทยนะลูก คนใต้เดือนสิบเราไหว้ตายาย เดือน5เราทำบุญกระดูกบรรพบุรุษ เหมือนคนจีนที่ทำเชงเม้ง เพราะเราคิดถึงเรารู้บุญคุณถึงสิ่งที่เขาทำไว้ให้
อย่างทุกวันนี้บ้านเรา มีที่นามีสวนมีที่ทำกินมีที่อยู่เพราะปู่ยาตาทวดของเรารักษามันไว้ไม่ใช่หรือ
ลูกโชคดีขนาดไหนที่เกิดมาก็มีบ้านอยู่เป็นของตัวเอง
เพราะทวดปิ่น แม่เฒ่าของพ่อ ถึงแกจะลำบากยากจนยังไงก็ไม่ยอมขายที่ แกบอกว่าจะเก็บที่ไว้ให้ลูกหลาน
พ่อรู้จักเคยคุยกับชาวสยามที่เกิดในมาเลเซียเขาพูดไทยได้แบบเรานี่แหละ วันหยุดเขาไปทำบุญที่วัดและทุกบ้านก็มีรูปในหลวง ร.9 ด้วยเขารักและนับถือพระเจ้าแผ่นดินองค์เดียวกับเรา เวลาเจอคนไทยเขาก็ดีใจว่าได้พบคนไทยด้วยกัน
เราโชคดีนะที่เกิดเป็นคนไทย ไม่ถึงกับลำบากยากจนเหมือนเขมร พม่า ที่ต้องออกไปทำงานขายแรงที่ต่างประเทศ
อย่างคนพม่าเห็นว่าตีกันเองบ่อย เขามีหลายกลุ่มมอญบ้างพม่าบ้างกะเหรี่ยงก็มี เขาคิดว่าเป็นคนละพวก
เมืองไทยมีทั้งคนจีน แขก ไทยไม่เคยมีปัญหา ทุกคนในแผ่นดินนี้รักนับถือพระเจ้าแผ่นดินองค์เดียวกัน ทุกคนเท่าเทียมกันหมด เป็นเพื่อนเป็นพี่น้องกัน เรารักกันอยู่ร่วมกันได้
ผมเห็นลูกน้ำตาคลอหน่วย
"เพราะพระเจ้าแผ่นดินองค์ก่อนๆนี่แหละ
ที่วางรากฐานและทำให้บ้านเมืองเป็นปึกเป็นแผ่น เป็นชาติไทย เราอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรีไม่อายชาติอื่นเพราะพระเจ้าแผ่นดินไม่ใช่หรือลูก"
ผมมองลูกทางหางตา เห็นลูกเอามือปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
บ้านนี้เมืองนี้แย่เพราะนักการเมืองเลวนะลูก ไม่ใช่เพราะพระเจ้าแผ่นดิน ลูกจะเปลี่ยนแปลงเมืองไทยต้องจัดการกับนักการเมืองขี้โกงก่อน ต้องจัดการกับคอรัปชั่นให้ได้
อ้อคิดจะช่วยชาติแล้วอย่าลืมต้องช่วยแม่ล้างจานด้วยล่ะ
อนุวัต ลัภกิตโร
เป็นข้อคิด และหลักการสอนที่ดี
ขออนุญาตนำมาเผยแพร่ เตือนสติพี่น้องลูกหลาน ชนชาติไทย
คอมเมนต์คอมเมนต์
๕.การลงนามในหนังส ือให้คำมั่นเกี่ ยวกับการยกทรัพย ์สินให้มูลนิธิ ให้ผู้ที่จะยกทร ัพย์สินเป็นผู้ล งนามในฐานะผู้ให ้คำมั่นพร้อมกับ แนบรายการทรัพย์ สินต่าง ๆ เช่น สำเนาบัญชีธนาคา รที่มีชื่อผู้ให ้คำมั่น หนังสือรับรองจา กธนาคาร หรือโฉนดที่ดินก รณีทรัพย์สินที่ ยกให้เป็นที่ดิน ทั้งนี้ผู้ลงนาม ในฐานะผู้รับคำม ั่นจะต้องเป็นผุ ้ที่ได้รับการเส นอชื่อจากคณะผู้ จัดตั้งให้เป็นป ระธานกรรมการมูล นิธิ
อนึ่ง ถ้าผู้ให้คำมั่น ดังกล่าวเป็นบุค คลเดียวกันกับผู ้ที่จะต้องรับคำ มั่นให้ผู้ที่ได ้รับการเส นอชื่อจากคณะผู้ จัดตั้งให้เป็นป ระธานกรรมการมูล นิธิมอบอำนาจเป็นลายลั กษณ์อักษรให้คณะ ผู้จัดตั้งคนหนึ ่งเป็นผู้ลงนามร ับคำมั่น
จากข้อความดังกล ่าว ถือว่าเป็นการเร ียกร้องเกิดความ จำเป็น และเป็นการละเมิ ดสิทธฺิ์
ผู้แจ้งความจำนง บริจาคเงินจำนวน 10,000 บาท จำนวน 23 คน เพื่อเป็นทุนในก ารจัดตั้งมูลนิธ ิ ล้วนเป็นผู้ที่ท รงเกียรติ ทำไมจะต้องแสดงท รัพย์สินให้เจ้า หน้าที่ด้วย ถือว่าเป็นการละ เมิดสิทธฺ์ และสำเนาคำสั่งท ี่นำมาอ้างอิงก็ เป็นสำเนาตั้งแต ่ปี 2547 ผู้ลงนามในคำสั่ งก็เกษียณอายุรา ชการไปแล้ว ในข้อบังคับก็ระ บุไว้แล้วว่า ถ้ามูลนิธิได้รั บอนุมุติแล้วและ ไม่ได้รับทรัพย์ สินตามจำนวนที่แ จ้งไว้ถือว่ามูล นิธินั้นหมดสิ้น สภาพการเป็นมูลน ิธิ การให้ผู้บริจาค เงินซึ่งเป็นกรร มการผู้จัดตั้งม ูลนิธิ ต้องส่งสำเนาบัญ ชีธนาคา รถือว่าเป็นการทำเกินเหต ุ เป็นการละเมิดสิ ทธฺิ์ส่วนบุคคล ไม่เกิดผลประโยช น์ในด้านใดๆ เป็นการเพิ่มภาร ะให้กับประชาชนโ ดยใช่เหตุ
ผมได้โทรไปอธิบา ยเจ้าหน้าที่เพื ่อให้นำเหตุผลขอ งผมไปอธิบายให้ท ่านนิติกรผู้นั้ นทราบ แต่ถ้ายังดื้อดึ ง ผมอาจจะไทรไปชี้ แจงโดยตรง แต่ถ้ายังไม่ได้ ผล อาจต้องให้ทางเจ ้าหน้าที่ทำเรื่ องไปที่นิติกรท่ านนั้น และถ้านิติกรแทง เรื่องกลับมาโดย ยืนยันให้ส่งสำเ นาบัญชีธนาคา รที่มีชื่อผู้ให ้คำมั่น หนังสือรับรองจา กธนาคาร ผมอาจนำเรื่องดั งกล่าวฟ้องศาลปก ครอง