Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Thaiihdc.org

ฝันเรื่องสภามหาวิทยาลัยมหิดล

พิมพ์ PDF

สภามหาวิทยาลัยมหิดลกำลังทำเรื่องใหญ่    คือการจัดตั้งสำนักงานสภาฯ ที่มีคุณภาพสูง และทำงานใหญ่ได้    เราหวังว่าจะทำได้สำเร็จ

โดยเป้าหมายไม่ใช่แค่เพื่อความเจริญก้าวหน้าของมหาวิทยาลัยมหิดลเท่านั้น    แต่หวังทำงานใหญ่ให้แก่บ้านเมืองด้วย   คือทำงานร่วมพัฒนาระบบ Good Governance ของสถาบันอุดมศึกษา   และในระบบอุดมศึกษา

แน่นอนว่า หัวเรือใหญ่ในระดับชาติ ของการพัฒนาระบบ Good Governance ของสถาบันอุดมศึกษา   และระบบอุดมศึกษา คือ สถาบันคลังสมองของชาติ

สำนักงานสภามหาวิทยาลัยมหิดล จะเข้าไปร่วมเป็นภาคีขับเคลื่อนการพัฒนาระบบ ธรรมาภิบาลอุดมศึกษา (University Governance) อย่างจริงจัง    ด้วยความเชื่อว่า ระบบธรรมาภิบาล (สภามหาวิทยาลัย) ที่เข้มแข็ง    จะเป็นพลังส่งความเจริญก้าวหน้าของมหาวิทยาลัย    ช่วยให้ฝ่ายบริหารสามารถทำสิ่งยาก แต่มีความจำเป็นต่อความก้าวหน้า ให้ลุล่วงได้

ดังนั้น ฝันข้อที่ ๑ คือ   สำนักงานสภามหาวิทยาลัยมหิดล จะทำงานทั้งระดับสถาบัน   และระดับประเทศ ด้วยความเชื่อว่า    ยุทธศาสตร์นี้ จะช่วยให้สำนักงานสภาฯ ทำหน้าที่สร้างความเข้มแข็งให้แก่มหาวิทยาลัยมหิดลได้มากขึ้น

ฝันข้อที่ ๒ สำนักงานสภามหาวิทยาลัย ร่วมกับฝ่ายบริหาร ทำให้การทำหน้าที่กำกับดูแล  และกำหนดนโยบาย โดยสภาฯ   เป็นการทำงานแบบ Well-Informed Policy-Making ซึ่งหมายความว่า จะมีการพัฒนาระบบ Information for Policy-Making    สำหรับใช้งานโดยสภามหาวิทยาลัย  เชื่อมโยงกับระบบ MIS (Management Information System) ของมหาวิทยาลัย

ฝันข้อที่ ๓ สำนักงานสภามหาวิทยาลัย   ดำเนินการให้มีเอกสารแนวทางการดำเนินการ ของสภามหาวิทยาลัย ในเรื่องต่างๆ    รวมทั้งรวบรวมนโยบาย และมติของสภาฯ ให้เป็นหมวดหมู่ และทันสมัย ในเรื่องนี้ สำนักงานสภาฯ ต้องเสนอแนะต่อสภาฯ (หรือคณะกรรมการกิจการสภาฯ) ว่ายังมีเรื่องใดบ้างที่สภาฯ ยังไม่ได้กำหนดแนวทางหรือนโยบายไว้ให้ชัดเจน    อาจมีปัญหาในภายหน้าได้

ฝันข้อที่ ๔ สำนักงานสภามหาวิทยาลัย   ดำเนินการให้มีการติดตามความก้าวหน้า ของการดำเนินการตามแนวทางหรือนโยบายกำกับดูแล ที่สภาฯ กำหนดไว้ และเสนอแนะการปรับเปลี่ยนแนวทางหรือนโยบาย ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ต่อสภามหาวิทยาลัย

 

ทั้งนี้ หมายความว่า ผมมองรูปแบบการทำงานของสภามหาวิทยาลัย ว่าไม่มีรูปแบบคงที่ตายตัว    ต้องมีการทดลองและพัฒนารูปแบบให้เหมาะสมตามยุคสมัย    ตามบริบทที่เปลี่ยนไป    และตามลักษณะที่แตกต่างกันของแต่ละมหาวิทยาลัย

 

จุดสำคัญที่สุดคือ ระบบกำกับดูแล ที่ช่วยให้สถาบันอุดมศึกษาไทยเชื่อมโยงเข้ากับสังคม (social engagement)   เข้าไปทำงานเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนความเจริญก้าวหน้าของประเทศ

 

 

วิจารณ์ พานิช

๑๒ ม.ค. ๕๗

 

 

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2014 เวลา 09:01 น.
 

จดหมายถึง ปธน. โอบามา

พิมพ์ PDF
Although in self-imposed exile, Thaksin continues to run Thailand and implement the policy of corruption through his sister. แม้อยู่ระหว่างหนีคุก ทักษิณยังคงปกครองประเทศไทย ด้วยระบบที่โกงกิน ผ่านน้องสาว

Letter to President Obama regarding Thailand's Political Crisis - A Response to Michael Turner

.17 มกราคม 2014 เวลา 18:21 น.President Barack Obama

 

President of the United States of America

The White House

1600 Pennsylvania Ave., NW

Washing, D.C. 20500

 

17 January 2014

Dear Mr. President,

I am writing in response to Congressman Michael R. Turner's letter to you yesterday, urging you to publically voice opposition to the anti-government movement and support the election on 2 February 2014.  With all due respect, Congressman Turner's letter is misguided and shows a lack of understanding of the Thai political crisis.

As a U.S. trained lawyer, and citizen of the U.S. and Thailand, I am pro-democracy. Indeed, I have often volunteered for voters' assistance groups to inform Americans on voting registration, necessary documents for voting, and finding the right precinct to ensure that their votes do get counted.

The movement is not to rid Thailand of democracy.  It is to rid Thailand of the most tyrannical and dictatorial regime in history.  Throughout history, many dictators have been democratically elected.  Saddam Hussein received 100% of the votes. Hugo Chavez, whom you publically called authoritarian, was also elected by the majority.

The Thaksin authoritarian government, elected through vote-rigging, proved to be the most corrupt and the gravest human rights violator.  In order to fully appreciate the current political crisis, one must examine the telecommunications Tycoon' legacy.  To name a few examples of Thaksin's egregious conducts:

■In February 2003, Thaksin launched a "war on drugs" campaign resulting in 2,800 extrajudicial killing in the span of three months.  In 2007, official investigations concluded that more than half of those executed had no connections with drugs.  The UN Human Rights Committee raised serious concerns yet perpetrators were never prosecuted.

■In 2004, Thaksin's security forces shot, suffocated or crushed to death 85 southern protestors in what is known as the Tak Bai massacre. Human Rights Watch has condemned this atrocity and urged independent criminal investigation but again, to no avail.

■ According to Amnesty International, 18 human rights defenders were either assassinated or disappeared.

■Due to Thaksin's censorship and intimidation of the press, human rights violations remained unreported and any dissent was silenced.

■In an attempt to circumvent conflict of interest laws, Thaksin illegally transferred billions of baht in assets to his maids and drivers, without their knowledge.

■Thaksin aided his wife to purchase government land at a reduced rate of 1/3 in violation of the law prohibiting political leaders from engaging in business dealings with the government. Thaksin was consequently sentenced to two years in prison but fled the country and never served his sentence.

■Thaksin approved a US $127 million low-interest government loan to Myanmar's military-run government to purchase satellite services from his telecommunications business.

■During his tenure as prime minister, Thaksin sold his stakes in telecoms giant Shin Corp to Temasek holding, evading taxes worth $16.3 million.

■Thaksin's countless measures to benefit his telecommunications business prompted the Supreme Court to unanimously find him guilty of 4 counts of policy corruption and order seizure of $1.4 billion of his frozen $2.3-billion fortune.

 

These are just examples of the myriad ways in which Thaksin abused and robbed this country.  Although in self-imposed exile, Thaksin continues to run Thailand and implement the policy of corruption through his sister.  In a guised attempt to foster reconciliation, the current Thaksin regime passed the Amnesty Bill, designed to pardon protestors from all sides for engaging in political expression.  At 4:25 am on a Friday night, the Thaksin-controlled parliament passed the final version of the bill that would now pardon all politicians ever charged or convicted of corruption since the coup.  The revised bill also provided for the return of assets seized.  To state the obvious, this law was passed solely to pave way for Thaksin's return as a free man with all his wealth restored.

 

In a ploy to control both the parliament and the senate, Thaksin's current government attempted to amend the senate structure and bar appointed senators who are professionals from all sectors.  Eliminating this system would result in Thaksin's party controlling the legislative branch without any checks and balances. The Amnesty Bill or any other laws to enable Thaksin's corruption can then easily pass.  Although the Constitutional Court struck down the senate-restructuring measure, Thaksin's government openly declared that it would defy the court's decision.

It is this blatant systematic policy of corruption and abuse of power solely for the benefit of Thaksin that fueled Thai citizens to stand up and say, enough is enough.  The protestors want democracy.  But first, Thaksin's dictatorship must be eradicated.

Over a decade of being under Thaksin's regime, one thing is clear. Our current democratic system has failed us.  It has allowed for an authoritarian regime to usurp power and strip the nation's wealth. When a system accepts voter fraud and places corrupt politicians above the law, citizens must question and rise up against this broken system.  The citizens are calling for reform.  A true democracy with transparency, accountability, and most importantly, balance of power.

We want democracy.  And it is through this civil obedience that we will achieve it.

 

Sincerely,

 

Vanina Sucharitkul

cc: Congressman Michael R. Turner

 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2014 เวลา 09:26 น.
 

สภามหาวิทยาลัยมหิดลสนับสนุนจุดยืนของ ทปอ. เรื่องการปฏิรูปประเทศไทย

พิมพ์ PDF
วางกรอบการปฏิรูปประเทศ ก่อนเลือกตั้ง

สภามหาวิทยาลัยมหิดลสนับสนุนจุดยืนของ ทปอ. เรื่องการปฏิรูปประเทศไทย

บันทึกนี้เป็นบันทึกส่วนตัว     ไม่ใช่รายงานการประชุมของสภามหาวิทยาลัยมหิดล

เมื่อวันที่ ๑๕ ม.ค. ๕๗   สภามหาวิทยาลัยมหิดล ได้พิจารณาเรื่อง บทบาทของมหาวิทยาลัยมหิดล ต่อการแก้ปัญหาการเมืองไทย    โดยเห็นว่าเป้าหมายคือการเปลี่ยนแปลงใหญ่ของระบบรัฐาธิปัตย์ หรือการปฏิรูปประเทศ   และได้มีมติสำคัญ ๓ ประการคือ

  1. สนับสนุนแถลงการณ์ของ ทปอ. ฉบับที่ ๕ เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๗   ซึ่งเน้นวางกรอบปฏิรูป ก่อนเลือกตั้ง
  2. ให้มหาวิทยาลัยมหิดล ตั้งคณะทำงานขึ้นศึกษาเอกสาร แนวทางปฏิรูปประเทศไทย ของคณะกรรมการปฏิรูป (คปร.)   และนำออกสื่อสารต่อสังคม   เพื่อเสนอแนวทางสู่การปฏิบัติ
  3. ให้เน้นการสร้างปัญญา เพื่อการปฏิรูปสังคม เน้นการป้องกันและปราบปรามคอรัปชั่น

เราต้องช่วยกันยึดมั่นในการสร้าคนไทยรุ่นใหม่ที่ไม่โกง     ไม่โกงอย่างรัฐบาลทักษิณที่มียิ่งลักษณ์เป็นหุ่นเชิด

วิจารณ์ พานิช

๑๗ ม.ค. ๕๗

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2014 เวลา 08:59 น.
 

ทฤษฎี ทุน 8 K's + ทุน 5 K's ของ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ในความเข้าใจของ ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

พิมพ์ PDF

วันนี้ขอนำเรื่องเก่าที่เคยเขียนไว้เมื่อปี 2555 มาเผยแพร่อีกครั้งเนื่องจากเป็นเรื่องที่ประจวบเหมาะกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน

ขอมอบความรักความปรารถนาดีแด่ท่านนายก ยิ่งลักษณ์ เนื่องในวันแห่งความรัก

ขอมอบความรักและความปรารถนาดีแด่ท่านนายก ยิ่งลักษณ์ เนื่องในวันแห่งความรัก

เนื่องในโอกาสวันแห่งความรัก ขอมอบความรักและความปรารถนาดีให้แก่ท่านนายก ยิ่งลักษณ์ ขอให้ท่านนายกยิ่งลักษณ์มีความรักประเทศชาติและคนไทยอย่างจริงใจ ตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนด้วยความบริสุทธิ์ใจ ท่านเป็นผู้ที่มีบุญวาสนา มีโอกาสได้ทำงานรับใช้ประเทศชาติ ท่านอยู่ในตำแหน่งผู้นำของประเทศไทย ตามทฤษฎีทุนมนุษย์ของท่าน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมย์ ประกอบด้วย ทุน 8 K’s + ทุน 5 K’s ได้แก่

1.ทุนมนุษย์ ได้แก่ทุนเริ่มต้นของมนุษย์ทุกคน ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นทุนที่ได้มาจากการกระทำในอดีตชาติ ทำให้มาเกิดในท้องของพ่อแม่ ที่มีความพร้อมแตกต่างกัน

2.ทุนทางปัญญา ทุนนี้เป็น ทุนที่ต้องสร้างด้วยตัวเอง สังคม สิ่งแวดล้อม การศึกษาและคนรอบข้าง มีอิทธิพลกับการนำทุนทางปัญญาไปใช้ในทางดีหรือไม่ดี

3.ทุนทางจริยธรรม ทุนนี้เป็นทุนที่ต้องสร้างด้วยตัวเองล้วนๆ เป็นทุนที่ส่งเสริมในการนำ ทุนที่ 2 คือทุนทางปัญญาไปใช้ในทางที่ถูกต้อง เพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัวหรือพวกพร้อง

4.ทุนแห่งความสุข ทุนนี้เป็นทุนที่สร้างด้วยตัวเองล้วนๆ เป็นทุนที่สำคัญที่สุด คนที่มีทุนนี้มาก คือคนที่มีทุน ที่ 1+2+3 เต็มสมบูรณ์

5.ทุนทางสังคม ทุนนี้เป็นทุนที่ได้รับอิทธิพลจาก ครอบครัว สถานศึกษา และคนรอบข้าง ส่วนจะพัฒนาให้มีทุนมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความชอบและความสามารถของแต่ละคน ในการมีบทบาทเป็นที่ยอมรับของสังคมนั้นๆ

6.ทุนแห่งความยั่งยืน ขึ้นอยู่กับการกระทำและประสบการณ์ของแต่ละคนที่มีผลกระทบต่อจิตใจของตัวเองและคนรอบข้างหรือคนที่มีส่วนได้เสียกับการกระทำของแต่ละคน

7.ทุนทางไอที ทุนในการนำ ไอที มาใช้เป็นเครื่องมือ ให้เกิดประโยชน์ต่อชีวิตและการทำงานของแต่ละคน

8.ทุนความรู้และทักษะและทัศนคติ ทุนนี้เป็นทุนที่ได้จากประสบการณ์ในการเรียนรู้ ในสถาบันการศึกษา สถานที่ทำงาน  ชุมชนและเครือข่ายทางสังคม ตลอดจนในครอบครัวของตนเอง

ทุนมนุษย์ทั้ง 8 เป็นทุนที่มนุษย์ทุกคนมี ส่วนใครจะมีมากน้อยแค่ไหน เป็นผลต่อการดำรงชีวิตของแต่ละบุคคล นอกจากทุน 8 K’s ที่ได้กล่าวไปแล้ว ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ยังเพิ่มให้อีก 5 ทุนเพื่อให้ทันต่อยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ได้แก่

1.ทุนแห่งการสร้างสรรค์ เป็นทุนที่คิดในด้านบวก สร้างวิกฤตให้เป็นโอกาส คิดสิ่งใหม่ๆ

2.ทุนทางความรู้ เป็นทุนที่เพิ่มเติมจากความรู้อย่างผิวเผิน ความรู้ในมิติเดียว ให้เป็นความรู้อย่างลึกซึ่งและเป็นความรู้ในหลายมิติ

3.ทุนทาง นวัตกรรม ได้แก่ทุนที่ต่อยอดจากของเดิมทำให้เกิดมูลค่าเพิ่ม

4.ทุนทางอารมณ์ ได้แก่ทุนในการบริหารอารมณ์ ให้เกิดอารมณ์ที่สร้างสรรค์ มีอิทธิพลทำให้เกิดทุนทางปัญญา +ทุนทางจริยธรรม เป็นผลทำให้เกิดทุนทางความสุข +ทุนแห่งความยั่งยืน

5.ทุนทางวัฒนธรรม ได้แก่ทุนในการศึกษาเรียนรู้เรื่องคน ซึ่งเป็นคนในมิติที่มีขนบธรรมเนียมประเพณี ความเชื่อและค่านิยมของแต่ละคนซึ่งแตกต่างกัน

ทั้งทุน 8 K’s และ ทุน 5 K’s เป็นทุนที่ผู้นำจะต้องมี ทุนที่สำคัญที่ทำให้ผู้นำมีคุณค่าเหนือผู้อื่น ได้แก่ทุนที่อยู่ภายในของผู้นำท่านนั้น ทุนที่อยู่ภายในจะถูกนำมาใช้เมื่อผู้นำท่านนั้นคิดและทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ผลที่จะตามมาคือความสุขอย่างยั่งยืนของผู้นำท่านนั้น

ท่านนายกยิ่งลักษณ์ต้องศึกษาประวัติของผู้นำหลายๆท่าน ตั้งแต่ก่อนเป็นผู้นำ ระหว่างเป็นผู้นำ และหลังจากลงจากการเป็นผู้นำ ผลที่ท่านนายกยิ่งลักษณ์ทำและจะทำในอนาคตมีผลต่อประเทศชาติ และประชาชนทั้งประเทศ บรรพบุรุษของเราที่สร้างชาติสร้างแผ่นดินและทิ้งมรดกไว้ให้พวกเรา ท่านเฝ้าติดตามดูแลประเทศไทยตลอดเวลา ไม่เคยทอดทิ้ง ถ้านายกยิ่งลักษณ์มีความจริงใจและบริสุทธิ์ใจต่อประเทศชาติ  บรรพบุรุษและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายตลอดจนประชาชนคนไทยจะไม่ทอดทิ้งท่านนายก แต่ถ้าท่านทำอะไรที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติโดยเห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวท่านและพวกพร้อง ท่านก็จะได้รับผลจากการกระทำของท่านในทางตรงกันข้าม หวังว่าท่านจะเลือกทางที่ถูกต้อง ที่ทำให้ท่านและประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืน

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

14 กุมภาพันธ์ 2555

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

 

ชีวิตที่พอเพียง : ๒๐๗๖. วพส. : บันทึกเพื่อการต่อยอด

พิมพ์ PDF

เผลอไปแว้บเดียว วพส. ดำเนินการมาแล้วถึง ๙ ปี   ได้ก่อคุณูปการแก่วงวิชาการในภาคใต้อย่างเหลือคณา   โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสถานการณ์ความไม่สงบใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้

ผลงานทั้งหมดนั้น เกิดขึ้นจากภาวะผู้นำทางวิชาการ ของยอดนักวิชาการระดับนานาชาติ ที่มีหัวใจของความเป็นมนุษย์   มุ่งทำงานวิชาการเพื่อรับใช้มวลมหาประชาชน (เขียนระหว่างเทศกาลขับไล่รัฐบาลทักษิณที่มียิ่งลักษณ์เป็นหุ่นเชิด ก็อย่างนี้แหละ ของขึ้นง่าย)   คือ ศนพวีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์

ผมโชคดี ที่มีส่วนร่วมเป็นกรรมการชี้ทิศทางของโครงการนี้มาตลอด   ได้เห็นพัฒนาการดีวันดีคืน มั่นคงเป็นปึกแผ่นยิ่งขึ้น   และได้รับการสนับสนุนจาก สสสไปแล้ว ๒ ช่วง (ช่วงละ ๓ ปีและเริ่มช่วงที่ ๓ (.๕๖ มิ.๕๙มาแล้วครึ่งปี

ข้อเรียนรู้ของผมต่อ วพสคือ เวลานี้ วพสเป็นสถาบัน (institution) ทางวิชาการ ที่เป็นนวัตกรรม   คือเป็นสถาบันที่ก่อตัวขึ้นบนฐานภาวะผู้นำทางวิชาการ ของ อหมอวีระศักดิ์ และได้ทำคุณประโยชน์และสร้างความเชื่อถือสูงมาก ทั้งภายในประเทศ  ในประเทศเพื่อนบ้าน  และในวงการวิชาการและวงการพัฒนานานาชาติ   เป็นสถาบันอีกรูปแบบหนึ่งที่แตกต่างจากสถาบันที่เป็นทางการ คือคณะวิชา ซึ่งตัวผู้นำ (คณบดีจะมีภาวะผู้นำแบบบริหาร ใช้ความสามารถด้านการบริหารงาน   หรือบางกรณีใช้ความสามารถด้านธุรการด้วยซ้ำ   ขอเรียกชื่อผู้นำแบบ อหมอวีระศักดิ์ ที่เป็นผู้อำนวยการ วพสว่า ผู้นำแบบ ข   ในขณะที่คณบดีโดยทั่วไป (อาจมียกเว้นบางคน)เป็นผู้นำแบบ ก   ผมมีความเห็น ๒ ประการที่เชื่อมโยงกัน ต่อสถาบันวิชาการที่เป็นนวัตกรรมแบบ วพสนี้ คือ

๑. ควรพิจารณาสนับสนุนให้เกิดสถาบันแบบ ข เพิ่มขึ้น บนฐานวิชาการด้านอื่น เช่นด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ (วพสอยู่บนฐานวิชาการด้านสุขภาพ)   แต่ต้องให้มีผู้นำทางธรรมชาติ ที่มีความสามารถทางวิชาการสูง จึงจะสนับสนุนให้เกิดสถาบันแบบนี้ได้

๒. ต่อไปในอนาคตระยะยาวของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่จะต้องทำหน้าที่เป็น world-class research university ให้แก่ประเทศ  ผู้นำแบบ ก และ ข จะโน้มเข้าหากัน จนในที่สุดเป็นคนๆ เดียวกัน    กล่าวใหม่คือ อธิการบดี คณบดี จะต้องมีความสามารถทั้งแบบ ก และ ข อยู่ในคนๆ เดียวกัน

 

ทำให้ผมหวนนึกถึงเมื่อปีที่แล้ว อหมอวีระศักดิ์ได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาคม มอสูงมาก ให้เป็นอธิการบดี   อหมอวีระศักดิ์ปรึกษาผม ว่าเอาอย่างไรดี   ผมให้ความเห็นว่า หากเป็นอธิการบดี ท่านจะต้องสนองความต้องการของฝ่ายต่างๆ จนเป็นตัวของตัวเองยาก   และที่คิดว่าจะเป็นผู้นำเปลี่ยนแปลงทางวิชาการนั้น ส่วนใหญ่จะทำไม่ได้    เพราะไปขัดกับความต้องการของคนส่วนใหญ่ใน มอ.

แต่ ท่านตัดสินใจง่ายขึ้นไปอีกเมื่อปรึกษา อหมอประเวศ   ได้รับคำแนะนำอย่างตรงไปตรงมาที่สุดว่า อย่ารับ   งาน วพสที่ทำอยู่ดีแล้ว จะทำประโยชน์แก่บ้านเมืองได้มากกว่าเป็นอธิการบดีมากมายนัก

กรรมการที่มาจากพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนใต้ พูดตรงกันว่าปัญหาสำคัญที่สุดในขณะนี้คือเยาวชนร้อยละ ๗๐ ติดยาเสพติด   สิ่งที่พ่อแม่วิตกกังวลที่สุดคือ กลัวว่าลูกที่เป็นวัยรุ่นจะติดยาเสพติด   ประเด็นยาเสพติดจึงเป็นประเด็นทางสังคมที่หากดำเนินการวิจัยแก้ไข จะได้ใจพ่อแม่ใน ๓ จังหวัดชายแดนใต้

ผมจึงเสนอให้ วพสหาทางสนับสนุนให้ทำวิจัยป้องกันการติดยาเสพติด เชื่อมโยงกับการพัฒนาจิตอาสา ให้เยาวชนได้เป็นsomebody ที่มีประโยชน์ต่อผู้อื่น ต่อสังคม และได้เรียนรู้เปล่งความสามารถภายในตน (ศักยภาพออกมาทำประโยชน์แก่ผู้อื่น และแก่ส่วนรวม    โดยการดำเนินการนี้น่าจะเป็นความร่วมมือ ๓ ฝ่าย คือ โรงเรียน  โรงพยาบาล  และ อปท.   กิจกรรมที่ทำควรมีหลากหลาย ให้ตรงจริต หรือความถนัด ของเยาวชนแต่ละคน ควรเป็นกิจกรรมที่ทำเป็นกลุ่ม ต่อเนื่อง มีกระบวนการ reflection (AAR) เพื่อการเรียนรู้หลากหลายด้าน รวมทั้งด้านจิตวิญญาณ และควรผนวกกิจกรรม เด็กดีมีที่เรียน” เข้าไปด้วย    โดยบางคนอาจได้รับทุนสนับสนุนด้วย

คณะกรรมการคุยกันว่า วพส. มีผลงานมากมาย    ในช่วงต่อไปน่าจะกำหนดประเด็นดำเนินการ ให้เน้นเรื่องที่มีความสำคัญ มีน้ำหนักต่อการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้อย่างจริงจัง    แล้วจัดกระบวนการตั้งโจทย์ ร่วมกับทีมงานในพื้นที่    โดยอาจหาทีมงาน ที่เหมาะสมเพิ่ม    แล้ว อ. หมอวีระศักดิ์ และทีมงานช่วย โค้ช   หรือจัดกระบวนการโค้ช ให้ได้ผลงานวิจัยและพัฒนาที่มีคุณภาพ

ผมเคยเขียนเรื่อง วพส. ไว้ ที่นี่

 

 

วิจารณ์ พานิช

๑๑ ธ.ค. ๕๖

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม 2014 เวลา 21:26 น.
 


หน้า 397 จาก 558
Home

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5607
Content : 3052
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8607826

facebook

Twitter


บทความเก่า