Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Thaiihdc.org

ชีวิตที่พอเพียง : ๒๑๒๕. ตัดราก

พิมพ์ PDF

ผมเฝ้ามองหาความหมายของความขัดแย้งทางการเมือง     ในช่วงเวลากว่า ๓ เดือนที่ผ่านมา     หรือที่จริงยาวกว่านั้น    นำข้อมูลจากการสังเกต เอามาไตร่ตรอง     ได้ความรู้ เข้าใจมายามากมายหลากหลายด้าน    วันนี้ขอนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน

ข้อมูลที่น่าสนใจชุดหนึ่งคือ การออกมาแถลงหรือให้ข่าวของกระบอกเสียงของแต่ละสี แต่ละฝ่าย    ฟังทีไรผมนึกถึงคำ “partialfact”    ซึ่งหมายถึงความจริงเพียงบางส่วน    ซึ่งเป็นวาทกรรมเพื่อการจูงใจ หรือเพื่อเอาชนะ    เป็นการต่อสู้ด้วยถ้อยคำหรือวาทกรรม

การศึกษาไทยต้องฝึกนักเรียน/นักศึกษา ให้ “รู้เท่าทัน” วาทกรรมกึ่งจริงกึ่งหลอกเหล่านี้     นี่คือการฝึกทักษะ critical thinking(คิดอย่างมีวิจารณญาณ)     และทักษะการเสพสื่อ แบบรู้เท่าทัน (media literacy)     ซึ่งยิ่งนับวัน สื่อก็จะเชื่อยากขึ้นเรื่อยๆ     ดังจะเห็นว่า คนมีเงินมีอำนาจจะพยายามยึดสื่อ ด้วยวิธีการที่ซ่อนเร้น    เพื่อให้สื่อแพร่ข่าวที่เอียงข้างตน

สมัยทำเรื่องพัฒนาคุณภาพ เมื่อ ๓๐ ปีก่อน    ผมเรียนรู้เรื่อง Root Cause Analysis คือจะพัฒนา คุณภาพเรื่องใด ต้องหาปัจจัยเสริม กับปัจจัยขัดขวาง    แล้วศึกษาหาข้อมูล วิเคราะห์ สาเหตุของปัจจัยเหล่านั้น ให้ถึงแก่น หรือถึงรากเหง้า     เพื่อจะได้เข้าไปเสริมปัจจัยบวก    และแก้ไขปัจจัยลบ    แนวความคิดเรื่อง root cause นี้ วงการพัฒนาคุณภาพ รวมทั้ง สรพ. ยังใช้เป็นเครื่องมือหลักอยู่จนถึงปัจจุบัน

ในทำนองเดียวกันนี้ ผมเรียนจาก ศ. สุธิวงศ์​ พงษ์ไพบูลย์ เมธีวิจัยอาวุโส สกว. ด้านสังคมศาสตร์    ว่าในการวิจัยสังคมเรื่องใดเรื่องหนึ่ง     ต้องใช้เครื่องมือ “สืบย่าน สาวโยด”    คือสืบหาความสัมพันธ์หรือ ความเชื่อมโยง ของคนหรือเหตุปัจจัยต่างๆ    ก็จะทำให้เข้าใจปรากฏการณ์ต่างๆ ทางสังคมได้ลึก และครบถ้วนขึ้น

ท่านพุทธทาสสอนเรื่อง อิทัปปัจยตา     ที่แสดงว่าผลเกิดแต่เหตุ และเหตุก็เป็นผลของเหตุตัวที่สอง    วนเป็นวัฏฏจักรเช่นนี้    จนบางเรื่องวนกลับมาที่เดิม

ทั้งหมดนั้นเป็นการทำความเข้าใจเรื่องที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลง    ซึ่งเป็นธรรมชาติของสังคม    ยิ่งเรื่องทางการเมืองยิ่งซับซ้อน

เครื่องมือเอาชนะกันทางสื่อมวลชนอย่างหนึ่งใช้วิธี “ตัดราก”    แทนที่จะสาวราก    ตัดเอามาเฉพาะ ส่วนที่ต้องการ สำหรับสื่อสารเพื่อความได้เปรียบของตน    เราจะเห็นปรากฏการณ์เช่นนี้ทั่วไปหมด ในสื่อมวลชนไทย     และในการให้ข่าวของแกนนำแต่ละสี

แต่ยังไม่ใช่ทั้งหมด ของการเอาชนะกันด้วยข่าว    ยังมีวิธี “กุช่าว” และ “ป้ายสี”    ตอนชุมนุมต่อต้านรัฐบาลปี ๒๕๕๓     ผมฟังข่าวที่แกนนำผู้ชุมนุมพูดกับชาวบ้านที่จ้างมาชุมนุมแล้ว ก็บอกกับตัวเองว่า เป็นการบอกข้อมูลเท็จ หรือกุข่าว     คนบางคนพูดความเท็จได้อย่างน่าเชื่อถือ ไม่กระดากปากเลย

เรื่องรัฐบาลทักษิณที่มียิ่งลักษณ์เป็นหุ่นเชิดไม่มีเงินจ่ายค่ารับจำนำข้าวมาเป็นเวลา ๕ เดือนแล้ว    แกนนำของรัฐบาลก็ไปบอกประชาชนว่า ที่ไม่มีเงินจ่ายเพราะ กปปส. เป็นต้นเหตุ    นี่คือกลยุทธป้ายสี    โยนความผิดให้คนอื่น

การศึกษาต้องฝึกฝนกล่อมเกลาคน ให้มีคุณธรรม     การติดต่อสื่อสารสัมพันธ์กับผู้อื่นโดยตระหนักถึง “ความจริงทั้งหมด”  ไม่ใช่ยกมาเฉพาะส่วน ที่เป็น “ความจริงตัดราก”    เป็นคุณธรรมอย่างหนึ่ง     สร้างความน่าเชื่อถือของบุคคล     ที่ใครก็ตามมีความน่าเชื่อถือเช่นนี้ ในวัตรปฏิบัติ     ถือได้ว่า เป็นคนมีบารมี

 

 

วิจารณ์ พานิช

๑๙ ก.พ. ๕๗

 

 

 

 

 

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2014 เวลา 23:56 น.
 

เทคโนโลยีแห่งอนาคต

พิมพ์ PDF
สุดยอด 10 เทคโนโลยีอุบัติใหม่ที่จะปรับเปลี่ยนอนาคตของมนุษยชาติ จากการสอบถามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยี

เทคโนโลยีแห่งอนาคต

ผมได้รับ อีเมล์ จาก รศ. ดร. มงคล รายะนาคร ดังต่อไปนี้

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 World Economic Forum (WEF) โดย Oliver Cann, Media Relations Associate Director ได้แถลงผลการระดมความคิดของผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอุบัติใหม่จากมหาวิทยาลัยชั้นนำ ร่วมกับผู้นำ ทางด้านอุตสาหกรรมของโลกเมื่อเดือนมกราคม 2557 ที่ได้ผลออกมาเป็นรายชื่อสุดยอด 10 เทคโนโลยีอุบัติใหม่ที่จะปรับเปลี่ยนอนาคตของมนุษยชาติ โดยใช้ชื่อว่า Top 10 Emerging Technologies 2014  ทั้งนี้เทคโนโลยีอุบัติใหม่ทั้ง 10 คือ

1          Brain-computer interfaces

2          Mining metals from desalination brine

3          Nanostructured carbon composites

4          Grid-scale electricity storage

5          Body-adapted wearable electronics

6          Nanowire lithium-ion batteries

7          Screenless display

8          Human microbiome therapeutics

9          RNA-based therapeutics

10        Quantified self (predictive analytics)

 

สำหรับเนื้อหาข่าวในเรื่องนี้ สามารถดูได้ที่ News Release ของ WEF ที่ลิงค์

http://www3.weforum.org/docs/WEF_NR_GAC_EmergingTechnologies_TopTen_2014.pdf

 

และรายละเอียดของ 10 สุดยอดเทคโนโลยีปี ค.ศ. 2014 ดูได้ที่ลิงค์

http://www3.weforum.org/docs/GAC/2014/WEF_GAC_EmergingTechnologies_TopTen_Brochure_2014.pdf

หรือดูได้จากไฟล์

WEF_GAC_EmergingTechnologies_TopTen_Brochure_2014.pdf  ที่แนบ

ผมจึงขอส่งอีเมลฉบับนี้มาถึงอาจารย์ เพื่อกรุณาพิจารณานำลงบล็อกสภามหาวิทยาลัยของอาจารย์ ตามที่เห็นสมควรต่อไปด้วย จักขอบคุณยิ่ง

มงคล รายะนาคร

 

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2014 เวลา 21:42 น.
 

ระบอบทักษิณ

พิมพ์ PDF
ไม่น่าเชื่อว่าคนเพียงคนเดียวจะทําลายล้างสังคมประเทศได้อุกฤตถึงขนาดนี้ภายในเวลา เพียง 10 ปี แต่ก็นั่นแหละ คําพระท่านว่าความชั่วร้ายย่อมแพร่ไปได้รวดเร็วยิ่งกว่าความดี เพราะอาศัยกิเลสความโลภที่มีอยู่ในทุกตัวคนเป็นพาหะ ระบอบทักษิณมีวิธีการ เป้าหมาย และผลที่ตกอยู่กับสังคมประเทศ โดยสรุปดังนี้

ระบอบทักษิณ

เขียนโดย วันรักษ์ มิ่งมณีนาคิน  อ่านได้ที่  ระบอบทักษิณ.pdf

วิจารณ์ พานิช

๒๔ มี.ค. ๕๗

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม 2014 เวลา 00:00 น.
 

วิวาทะน้ำมันไทย

พิมพ์ PDF

วิวาทะน้ำมันไทย

น้ำมันของไทยใต้แผ่นดิน

ขุดได้ขายสิ้นไม่เหลือหลอ

เราเองต้องใช้ยังไม่พอ

ไทยขอรอใช้บอกไม่มี

ขาย "สัมปทาน" นั้นเสียสิทธิ์

"แบ่งปันผลผลิต" คิดถ้วนถี่

ใช้แล้วทั่วโลกจึงโชคดี

แนวทางอย่างนี้ที่ควรลอง

แบ่งไทยทั้งผองเป็นสองฝ่าย

จุดหมายคือเข้าเป็นเจ้าของ

ฝ่ายโกงแบบเก่าเอาทุกกอง

พวกหลงลิ้มลองแล้วต้องการ

อีกฝ่ายไทยถ้วนเป็นส่วนมาก

ย่ำแย่ทุกข์ยากมากหย่อมย่าน

เริ่มรู้ความลับกลับร้าวราน

คนแอบรับประทานน้ำมันไทย

อ้างคำน้ำมันนั้นมีน้อย

เปรียบถ้อยทับถมนมไม่ใหญ่

น้ำมันเหมือนนมระทมใจ

ไร้คนไร้ใครมุ่งหมายชม

ต่างชาติเข้าชิงวิ่งมาซื้อ

แย่งยื้อได้ยลจนเสียงขรม

เล็กเล็กใยเล่าเขานิยม

หวังได้หมายดมทุกดินแดน

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2014 เวลา 21:06 น.
 

ชีวิตที่พอเพียง : ๒๑๒๓. จัดการอัตตา

พิมพ์ PDF

บ่ายวันที่ ๑๗ ก.พ. ๕๗ มีการประชุมคณะกรรมการบริหาร หอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ     กรรมการท่านหนึ่งกล่าวติดตลกว่า ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จในการบริหารอัตตา     ซึ่งหมายถึงอัตตาของคนดี   คนมีธรรมะ     แต่ยึดมั่นถือมั่นอาจารย์คนละสำนัก

หมายความว่า หอจดหมายเหตุพุทธทาสทำงานเผยแผ่ธรรมะ โดยไม่ยึดติดนิกาย ไม่ยึดติดอาจารย์    และถึงกับไม่ยึดศาสนา คือร่วมมือกับศานาอื่นก็ได้ ในการชักชวนให้คนมีธรรมะ

ตอนนี้ต้องเอ่ยเรื่องไม่ยึดติดกันหน่อย เพราะเพิ่งมีประกาศเปลี่ยนสีจีวรออกมาพอดี

ผมกล่าวต่อที่ประชุมว่า     หลังจากคณะกรรมการมูลนิธิมอบนโยบายให้ดำเนินการพัฒนาระบบการ จัดการ ของหอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ ให้ใช้การจัดการสมัยใหม่     และมีอาสาสมัครหลายท่านเข้ามาช่วยกัน พัฒนาระบบ     โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณอนุวัฒน์ จงยินดี จาก SCG    ทำให้ระบบการจัดการของหอจดหมายเหตุ พุทธทาสฯ พัฒนาขึ้นมาก

เรามีเป้าหมายร่วมกันที่จะให้หอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ ทำหน้าที่เผยแผ่ธรรมะแก่สังคม และแก่ เพื่อนมนุษย์     ให้มีความยั่งยืนถาวร    จึงต้องมีระบบจัดการ ระบบตรวจสอบ และระบบกำกับดูแล ที่เข้มแข็ง     การทำงานเพื่อประโยชน์สาธารณะ งานอาสาสมัคร ก็ต้องมีระบบที่ดี ที่เข้มแข็ง     กิจการจึงจะมั่นคงยั่งยืน

ผมไปถึงหอจดหมายเหตุฯ ก่อนเวลาประชุมครึ่งชั่วโมง     ที่ลานชั้นล่างของอาคารมีลมโชยตลอดเวลา เป็นสถานที่สัปปายะอย่างยิ่ง     คุณนิคม เจตน์เจริญรักษ์ หนึ่งในห้าไวยาวัจกรของสวนโมกข์ และเป็นรอง ประธานกรรมการบริหารหอจดหมายเหตุฯ ด้วย กำลังนั่งคุยกันกับอาจารย์โพธิพันธุ์ พานิช กรรมการอีกท่านหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องการบริหารจัดการที่สวนโมกข์    ผมเข้าร่วมคุยด้วย     อีกสักครู่ คุณหมอบัญชา พงษ์พานิช ก็มาร่วมสนทนาอีกท่านหนึ่ง

ท่านเหล่านี้รู้ความเคลื่อนไหว ตื้นลึกหนาบางเรื่องเกี่ยวกับสวนโมกช์ในแง่มุมต่างๆ ในขณะนี้ดีมาก     ผมจึงมีโอกาสเรียนรู้ และสรุปกับตนเองว่า     ปัญหาที่สวนโมกข์เกิดจากขาดระบบการจัดการสมัยใหม่     และ ระบบการจัดการคณะสงฆ์และวัดในพระพุทธศาสนาของประเทศไทย เป็นระบบที่รวมศูนย์เกินไป     สวนโมกข์ที่ สามารถดำรงอยู่ที่ชายขอบของระบบรวมศูนย์ได้ด้วยบารมี และปรีชา ของท่านพุทธทาส     และยังต่อมาในสมัย ท่านอาจารย์โพธิ์ (พระภาวนาโพธิคุณ) ๒๐ ปี    บัดนี้ ดูจะทานอำนาจรวมศูนย์ได้ยาก     และมีผู้ใหญ่หลายท่าน บอกผมว่า เมื่อเข้าไปในสวนโมกข์ (ที่ไชยา)    รู้สึกว่าสวนโมกข์เปลี่ยนไป

ท่านที่นั่งคุยหารือกันบอกผมว่า ท่านพระอาจารย์สุชาติ เจ้าอาวาสสวนโมกข์องค์ปัจจุบันถามถึงผม    ท่านเหล่านี้บอกให้ผมลงไปที่สวนโมกข์สักครั้ง     ผมถามว่า จะให้ผมไปทำอะไร     เพราะผมเป็นคนที่คล้ายๆ คนนอก คนไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของกิจการของสวนโมกข์     แถมยังเป็นคนห่างวัดเสียอีกด้วย

ท่านเหล่านั้นบอกว่า ไปในฐานะคนที่ได้รับความเชื่อถือ     ทำให้ผมงงมาก    ว่าเชื่อถือในฐานะอะไร

กลับมาไตร่ตรองที่บ้าน ว่าที่ผ่านมา ผมโชคดีมากที่ได้รับความไว้วางใจให้ทำงานที่มีคุณค่าสูง     และ ทำให้ผมได้เรียนรู้สูงด้วย    จำนวนมากมายหลายเรื่อง    ทั้งๆ ที่ผมไม่น่าจะทำงานเหล่านั้นได้    ในที่สุดผมก็ค้นพบ วิธีทำงานแบบที่ผมเรียกว่า Value-Based Work    คือมุ่งทำงานเพื่อค้นหาคุณค่า     ไม่ใช่ทำงานเพื่อชื่อเสียงหรือ     ผลงานของตน    ส่วนนั้นยกให้คนอื่นหรือน้องๆ    เพราะเขายังอยู่ในวัยที่ต้องการผลงาน และยังต้องการชื่อเสียง เพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว    หรือเพื่อผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่น

คนแก่ขนาดผม ได้มีงานที่มีคุณค่าสูงทำ ก็พอใจแล้ว     มีความสุขความพอใจอยู่ที่คุณค่าของงาน     และผมยิ่งสนุกตรงที่เรื่องคุณค่านี้มันมีความซับซ้อน และมองได้หลายแง่หลายมุม    ผมจึงได้โอกาสทำความเข้าใจ หรือขุดคุ้ยหาคุณค่าในงานเหล่านั้น    แล้วนำออกมาสื่อสาร ให้กำลังใจแก่ผู้เกี่ยวข้อง     เป็นการทำงานเติมพลัง ให้แก่ผู้เกี่ยวข้อง     ซึ่งแปลกมาก ที่ไม่ค่อยมีคนทำ  หรืออาจทำไม่เป็น

ที่จริงผมก็ทำไม่เป็น    แต่เมื่อค่อยๆ ฝึกฝนไปเรื่อยๆ     ผมรู้สึกว่า ผมมองเห็นคุณค่าของงาน เพื่อประโยชน์ของสังคม และงานสร้างสรรค์ ในมิติต่างๆ ชัดขึ้น     โดยผมเข้าใจว่า หากเราแยกตัวเราออกจาก ผลประโยชน์ในกิจการงานนั้น    เราจะมองเห็นกิจการนั้นในมิติที่ลึกและหลากหลายขึ้น     และเข้าใจคุณค่า ในมิติที่หลากหลายและลึกขึ้นด้วย    ไม่ทราบว่า ผมเข้าข้างตัวเอง หรือยกหางตัวเองหรือเปล่า

โดยกระบวนการนี้ ผมเข้าใจว่า ผมจัดการอัตตาของตนเองได้ดีขึ้น    ไม่ทราบว่าความเชื่อถือที่ผมได้รับ มาจากปัจจัยนี้หรือเปล่า

 

 

วิจารณ์ พานิช

๑๘ ก.พ. ๕๗

 

 

 

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม 2014 เวลา 20:53 น.
 


หน้า 372 จาก 561
Home

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5644
Content : 3068
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8744365

facebook

Twitter


ล่าสุด

บทความเก่า