Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Thaiihdc.org

บริการประชาชน

พิมพ์ PDF

บริการประชาชน

แบบนี้เขาไม่เรียกว่าบริการประชาชนแล้วครับ เขาเรียกว่าต้อนประชาชนให้มารายงานตัวเหมือนกับต้อนวัวเข้าคอก เพื่อตีตราเจ้าของ ระบบราชการเอาแต่ได้ คิดแต่ความสะดวกของข้าราชการเอง ไม่ได้คิดถึงเวลาของประชาชนที่ต้องไปเพราะจำยอม ทำไมไม่หัดใช้สมองทำงานบ้าง เมื่อรู้ความต้องการและจำนวนของประชาชนที่จะต้องมาต่ออายุบัตรประชาชน ก็ต้องวางแผนจัดการให้เหมาะสม ผมไม่โทษพนักงานระดับล่าง โทษผู้ที่มีตำแหน่งบริหารจัดการ การทำงานวิธีนี้ทำให้ทั้งพนักงานและประชาชนเครียด ประชาชนควรได้รับบริการเปลี่ยนบัตรอย่างรวดเร็ว ต้องใช้ปัญญาในการบริหารจัดการครับ การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อทำให้การทำงานเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ใช่นำมาใช้แล้วทำให้ประชาชนเดือดร้อนกว่าเดิม ได้อ่านบทความของอาจารย์จันทวรรณ เลยรีบไปดูบัตรประชาชนว่าหมดอายุเมื่อใด ปรากฏว่าหมดอายุปี 2558 ค่อยโล่งอก เพราะกลังว่าจะต้องไปโวยวายที่เขตอีก เหลืออีก 2 ปี หวังว่าการบริหารจัดการจะได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น อยากเห็นจดหมายจากเขตมาแจ้งให้ไปเปลี่ยนบัตรประชาชนของท่านระหว่างวันที่ ........ ณ.เขต ....... เมื่อไปตามวันและเวลาที่นัด ก็สามารถได้รับการบริการที่ดี เตรียมการไว้อย่างดี ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ก็ได้รับบัตรประชาชนใบใหม่กลับมา

ผมได้อ่านบันทึกของอาจารย์จันทวรรณ เรื่องการต่ออายุบัตรประจำตัวประชาชน รู้สึกไม่สบายใจกับการบริการที่ประชาชนได้รับ ตามบทความข้างล่างนี้

 

ถ้าเรามีศูนย์ข้อมูลการติดต่อราชการ

เมื่อวานซืนไปต่อบัตรประจำตัวประชาชนที่เทศบาลนครหาดใหญ่ปรากฎว่าคิวเต็ม เจ้าหน้าที่บอกว่าให้มาใหม่วันพรุ่งนี้หรือไปทำที่เทศบาลไหนก็ได้ทั่วประเทศ ...

จึงลองเดินทางไปทำที่เทศบาลบ้านพรุ ปรากฎว่าเหลือคิวสุดท้าย เจ้าหน้าที่บอกว่ามีคิวจำกัดต่อวัน ...

เมื่อวานเป็นวันที่สองที่ต้องเดินทางไปเทศบาลบ้านพรุเพื่อทำบัตรประชาชน เจ้าหน้าที่บอกว่าคิวเต็มแต่จะอนุโลมต่อให้อีกสองคนเพราะเห็นว่ามาแล้วเมื่อวาน ....

นั่งรอคิวพร้อมกับงงๆ ว่าคิวเต็มได้อย่างไรในเมื่อยังไม่ทันเที่ยง แล้วจึงเหลือบไปเห็นตัววิ่งไฟฟ้าที่เขียนไว้ว่าคิวช่วงเช้ามี 30 คิวต่อวันและคิวช่วงบ่ายมี 30 คิวต่อวัน ....

.....

นั่ง Time machine ย้อนเวลากลับไปสามวันที่แล้ว ค้นหาข้อมูลทางเว็บว่าต่อบัตรที่ไหนก็ได้ใช่หรือไม่ คิวต่อวันมีจำกัดเท่าไร ขั้นตอนต้องทำอย่างไรบ้าง ใช้เอกสารอะไรบ้าง

ความจริงคือ ผู้ใช้บริการก็ไม่ทราบว่าจะต้องถามอะไร และเจ้าหน้าที่ก็ไม่ทราบว่าจะต้องบอกอะไร

นั่นคือประชาชนต้องการศูนย์ข้อมูลการติดต่อราชการ

ขั้นที่หนึ่ง ระบบจะถามว่าคุณต้องการติดต่อเรื่องอะไร

ขั้นที่สอง ผู้ใช้เลือกบริการที่ต้องการ

ขั้นที่สาม ระบบแสดงขั้นตอน เอกสาร ระเบียบปฏิบัติ และ ​FAQs ของบริการนั้นๆ

แล้วการติดต่อราชการจะสะดวกรวดเร็วขึ้นอีกเยอะ ....

....

ได้บัตรประชาชนใบใหม่มาเรียบร้อยแล้วก็เลยลองถามเจ้าหน้าที่ว่า การย้ายที่อยู่ทำได้ทุกเทศบาลหรือไม่ คำตอบคือไม่ได้ค่ะ ต้องทำที่เทศบาลในเขตที่อาศัยอยู่ค่ะ

....

มีผู้แสดงความคิดเห็นตามนี้

 

 

"ปีที่แล้วบัตรประชาชนหมดอายุ  ดิฉันได้ไปเขต (กทม. ทำบัตรที่เขต)

คนเยอะมาก เพราะว่ามีเด็กนักเรียนอายุตั้งแต่7ขวบ ขึ้นไป มาทำด้วย

วันหนึ่ง รับได้ 120-150คน   เรามาคำนวณเวลากันนะคะ

1วันเวลาราชการมี8ชั่วโมง ไม่พักเที่ยง คิดเป็น9ชั่วโมง คิดเป็นนาที ได้ 540นาที

ถ้าคิดต่อคน150คน/วัน  ใช้เวลาทำบัตรคนละ 3.60 นาที  ใช้เวลาไปเท่านี้ โอเคไหมคะ ?

ไปถึงเขตยังไม่ถึง8โมงเช้าเลย  พอเจ้าหน้าที่ของเขตบอกว่าวันนี้คิวเต็มหมดแล้ว เพราะประชาชนมารับบัตรคิวตั้งแต่7.00น.ค่ะ

แต่โชคดี ที่เขตนี้มีอินเทอร์เน็ตให้สามารถจองคิวได้ทางอินเทอร์เน็ต และ

สามารถไปทำบัตรได้ภายใน60วัน หลังจากบีตรหมดอายุ จึงได้จองคิวไปทางอีเมล

ยุคไอที  ถ้าหากว่ามีการใช้เทคโนโลยี่ให้เป็นประโยชน์ ก็จะสามารถประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยค่ะ

 

สำหรับต่างจังหวัด  เครื่องมือและบุคคลากร อาจจะน้อยกว่า กทม.

8ชั่วโมง(480นาที)  ต่อวัน ต่อ60คน   คิดเป็นใช้เวลาไปคนละ 8 นาที ไม่รวมเวลารอคิว

แบบนี้ โอเคไหมคะ ?

ขอสนับสนุนให้หน่วยราชการทุกสถานที่ สามารถนัดหมายได้ทางเมลอีเลคโทรนิคค่ะ"

 

ผมได้ร่วมแสดงความเห็นดังนี้

"แบบนี้เขาไม่เรียกว่าบริการประชาชนแล้วครับ เขาเรียกว่าต้อนประชาชนให้มารายงานตัวเหมือนกับต้อนวัวเข้าคอก เพื่อตีตราเจ้าของ ระบบราชการเอาแต่ได้ คิดแต่ความสะดวกของข้าราชการเอง ไม่ได้คิดถึงเวลาของประชาชนที่ต้องไปเพราะจำยอม ทำไมไม่หัดใช้สมองทำงานบ้าง เมื่อรู้ความต้องการและจำนวนของประชาชนที่จะต้องมาต่ออายุบัตรประชาชน ก็ต้องวางแผนจัดการให้เหมาะสม ผมไม่โทษพนักงานระดับล่าง โทษผู้ที่มีตำแหน่งบริหารจัดการ          การทำงานวิธีนี้ทำให้ทั้งพนักงานและประชาชนเครียด  ประชาชนควรได้รับบริการเปลี่ยนบัตรอย่างรวดเร็ว              ต้องใช้ปัญญาในการบริหารจัดการครับ การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อทำให้การทำงานเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ใช่นำมาใช้แล้วทำให้ประชาชนเดือดร้อนกว่าเดิม

ได้อ่านบทความของอาจารย์จันทวรรณ เลยรีบไปดูบัตรประชาชนว่าหมดอายุเมื่อใด ปรากฏว่าหมดอายุปี 2558  ค่อยโล่งอก เพราะกลังว่าจะต้องไปโวยวายที่เขตอีก เหลืออีก 2 ปี หวังว่าการบริหารจัดการจะได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น อยากเห็นจดหมายจากเขตมาแจ้งให้ไปเปลี่ยนบัตรประชาชนของท่านระหว่างวันที่ ........ ณ.เขต ....... เมื่อไปตามวันและเวลาที่นัด ก็สามารถได้รับการบริการที่ดี เตรียมการไว้อย่างดี ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ก็ได้รับบัตรประชาชนใบใหม่กลับมา"

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

21 เมษายน 2556

 

มีโรงเรียนไปทำไม : 6. ทุกคนต้องเข้ามาร่วมกันเปลี่ยนโรงเรียน

พิมพ์ PDF

ในเมื่อโรงเรียนในรูปแบบปัจจุบันมันล้าหลัง ตกยุค ไม่สร้าง “ผู้มีการศึกษา” ในนิยามใหม่ แห่งศตวรรษที่ ๒๑ ไม่ก่อประโยชน์แก่ลูกหลานเราคุ้มกับเงินที่เสียไป เราต้องช่วยกันเปลี่ยนแปลง

 

มีโรงเรียนไปทำไม  : 6. ทุกคนต้องเข้ามาร่วมกันเปลี่ยนโรงเรียน

บันทึกชุด มีโรงเรียนไปทำไม รวม ๗ ตอนนี้ ตีความจากหนังสือ Why School? : How Education Must Change When Learning and Information Are Everywhere เขียนโดย Will Richardson บอกตรงๆ ว่า ระบบการศึกษาจะอยู่ในสภาพปัจจุบันไม่ได้  ต้องเปลี่ยนแปลงในทำนองเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

ในเมื่อโรงเรียนในรูปแบบปัจจุบันมันล้าหลัง ตกยุค  ไม่สร้าง “ผู้มีการศึกษา” ในนิยามใหม่ แห่งศตวรรษที่ ๒๑  ไม่ก่อประโยชน์แก่ลูกหลานเราคุ้มกับเงินที่เสียไป เราต้องช่วยกันเปลี่ยนแปลง

เปลี่ยนโรงเรียนให้ไม่ใช่ที่สอนเพื่อสอบ  แต่เป็นสถานที่นักเรียนมาร่วมกันเรียนรู้จากแหล่งความรู้ที่มีมากมายไม่จำกัด  เพื่อพัฒนาทักษะของการเชื่อมต่อ  การตั้งคำถาม  การค้นหา  การสร้างสรรค์  การขจัดสิ่งที่เรียนมาและเก่าหรือผิดไปแล้ว แล้วเรียนความรู้ใหม่ที่ดีกว่า

เปลี่ยนเป้าหมายของการเรียน จากเป้าหมายที่แคบ คือวิชาตามที่หลักสูตร (ที่คับแคบและล้าสมัย) กำหนด มาเป็นชีวิตจริงที่มีความไม่ชัดเจน และเชื่อมโยงกว้างขวาง

เปลี่ยนจากเรียนแบบรับถ่ายทอด  มาเป็นเรียนแบบสร้างสรรค์โดยลงมือทำ

เปลี่ยนการเรียนแบบเน้นแข่งขัน เป็นเน้นร่วมมือกันทำงานเพื่อการเรียนรู้  ทั้งร่วมมือกับเพื่อนในชั้นเรียน และร่วมมือกับคนทั้งโลก

เปลี่ยนครู จาก “ครูสอน” ไปเป็น “ครูฝึก”  ที่เรียนรู้แบบวงจร learn, unlearn, relearn ไปพร้อมกันกับศิษย์   ศิษย์ต้องการเรียนรู้อะไร ครูร่วมเรียนรู้ไปพร้อมกัน  พร้อมกับทำหน้าที่ โค้ช  และครูรวมตัวกันเรียนรู้วิธีทำหน้าที่ โค้ช

โรงเรียนเปลี่ยนไปเป็นสถานที่ที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่มาเรียนรู้ร่วมกัน  เพื่อเรียนรู้โลก  เป็นสถานที่ที่มีเทคโนโลยี ช่วยส่งเสริมการฝันใหญ่ของเด็ก และช่วยให้เด็กสร้างสรรค์เพื่อขยายความฝันนั้นได้  เป็นสถานที่ที่การเรียนรู้สนุกสนาน  มีการเรียนรู้จากการทำงานร่วมกัน ไม่ใช่แข่งขันกันเรียน  เรียนรู้จากการลงมือแก้ปัญหาใหญ่ ที่คาดว่ามนุษย์จะต้องเผชิญในอนาคต

หากโรงเรียน และครูเปลี่ยนไปทำหน้าที่แบบใหม่ไม่ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องมีโรงเรียนและครูอีกต่อไป

ใครๆ ก็บอกว่า ต้องการให้ลูกเป็นคนรักเรียน  คิดเป็น  แก้ปัญหาได้  แต่การศึกษาปัจจุบันไม่สามารถให้สิ่งนี้ได้  เราจึงต้องช่วยกันสร้าง “โรงเรียน” แบบใหม่  ขึ้นทดแทน “โรงสอน” แบบเดิม  ให้เป็น “โรงเรียน” ที่เชื่อมต่อออกไปเรียนรู้ร่วมกันกับคนทั้งโลกได้  ตามแนวทางที่กล่าวแล้วในตอนที่ ๔

ตามแนวทางในหนังสือนี้ โรงเรียนต้องเปลี่ยนจากการเรียนสิ่งที่รู้ชัดเจนแล้ว  ไปสู่การเรียนสิ่งที่ยังไม่รู้ชัดเจน และมีความซับซ้อนสูง  คิดแบบนี้ครูและคนในวงการศึกษารับยากมาก

ทุกคนในสังคมจึงต้องเข้ามาร่วมผลักดัน

มีหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้มากมาย เช่น A New Culture of Learning โดย Douglas Thomas & John Selley Brown,Who Own the Learning โดย Alan November, The Connected Educator โดย  Sheryl Nussbaum-Beach  เป็นต้น

วิจารณ์ พานิช

๑๒ เม.ย. ๕๖

 

 

ทุนมนุษย์กับความสามารถในการแข่งขันของไทยในเวทีโลก

พิมพ์ PDF

ทุนมนุษย์กับความสามารถในการแข่งขันของไทยในเวทีโลก โดย ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

21 เมษายน 2556

ห้องประชุมช่อแก้ว อาคาร 31 ชั้น 5  มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

อาเซียน  2015 เป็นส่วนหนึ่งของโลกาภิวัตน์ เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้โลกาภิวัตน์สำเร็จ เพราะเอาเศรษฐกิจโลกมารวมกัน

ประเทศในอาเซียนเมื่อรวมตัวกันแล้วต้องมีความสามารถในการแข่งขัน ในโลกโลกาภิวัตน์

เน้นเรื่องทุนมนุษย์และการแข่งขันเพื่อเข้าสู่เวทีโลก

ทุนในโลกมีอยู่ 4 ชนิด ทุนแปลว่า จะได้มาต้องเสียไป ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่ได้มาฟรีๆ การที่จะเป็นทุนมนุษย์ได้ต้องมีการลงทุน การลงทุนที่ยิ่งใหญ่ คือ คิดเป็น วิเคราะห์เป็น

1.  คน หรือ ทุนมนุษย์การลงทุนคือ ลงทุนทางปัญญา

2.  เงิน Financial capital การลงทุน คือ มีการออม

3.  เทคโนโลยี เช่น เครื่องจักร ไอโฟน

4.  ทรัพยากรธรรมชาติ

คำถาม ทรัพยากรมนุษย์  ทุนมนุษย์ ต้องมีการลงทุน  Human being มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร

Michael Hammer กล่าวว่าโลกในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงเร็ว และคาดไม่ถึง เราต้องมีความสามารถในการบริหารการเปลี่ยนแปลง

นักศึกษาต้องไม่ได้เรียนเพื่อวันนี้เท่านั้น ต้องจัดการกับสิ่งที่คาดไม่ถึง

Michael Porter การแข่งขันขึ้นอยู่กับคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์

เช่น คนจบปริญญาตรีไป 2 คน แต่มีคุณภาพไม่เท่ากัน แสดงว่าปริญญาอย่างเดียวไม่พอ นักศึกษาทุกคนต้องไม่หยุดการเรียนรู้

ปัญหาของประเทศไทย คือ ปัญหาตัว Q ปริมาณและคุณภาพต่ำ  มีการขาดแคลนแรงงาน แต่วิธีการแก้ปัญหาคือ ขอให้เป็นแรงงานที่มีคุณภาพ

ท่านพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา กล่าวว่า คน คือ ทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่ามากที่สุดขององค์กร

ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย เหนือกว่าประเทศไทย เพราะประเทศไทย คิดผิดคิดว่าทรัพยากรธรรมชาติมาก เช่นภูเก็ต มีดีบุกมาก แต่ปัจจุบันนี้ไม่มีเหลือเลย ป่าไม้ก็เช่นกัน ป่าไม้ในประเทศไทยลดลงมาก เพราะตัดป่าไม่ไปขาย

Antony Robbins  กล่าวว่ามนุษย์มีศักยภาพทั้งทางลบและทางบวกไม่มีจำกัด

อ.จีระ กล่าวว่า ทุนมนุษย์ต้องมีการปลูกเพื่อสร้างให้มีปัญญา และต้องมีความสามารถบริหารคนให้เป็น และเก็บเกี่ยว

สุภาษิตจีน กล่าวว่า พัฒนาคนต้องพัฒนาทั้งชีวิต

สิ่งแรกต้องมองไกล ไม่ใช่แค่จบปริญญา

Jack Welch กล่าวว่า เปลี่ยนแปลงก่อนที่เขาจะบังคับให้เปลี่ยน

เรื่องASEAN 2015เป็นส่วนหนึ่งของโลกาภิวัตน์ อาเซียน 10 ประเทศ  GDP เท่ากับ 3 % ของโลก หากรวมจีน และอินเดีย  GDP เท่ากับ 22% ของโลก

สังคมโลก โลกาภิวัตน์ โอกาสและความเสี่ยงและผลกระทบต่อสังคมไทย

1.  Information Technology เทคโนโลยีสารสนเทศ และอื่น ๆ เช่น Nanotechnology , Biotechnology และต้องมีการสื่อสารที่ดีด้วย

2.  เรื่องการค้าเสรี , WTO , FTA, ประชาคมอาเซียน

3.  เรื่องการเงินเสรี  อัตราแลกเปลี่ยน

4.  บทบาทของจีน อินเดีย และละตินอเมริกา

5.  เรื่องอิทธิพลของประชาธิปไตย และ Human right

6.  เรื่อง Global Warming , ภัยธรรมชาติ

7.  เรื่องสงคราม และการก่อการร้าย

8.  เรื่องน้ำมันหมดโลก และพลังงานทดแทน

9.  เรื่องโรคระบาด เช่น ไข้หวัดนก เอดส์  ไข้หวัด 2009 ฯลฯ

ประเด็นที่ต้องรู้จริง..เพื่อก้าวไปกับอาเซียนเสรี

-  ต้องมีการรู้เขารู้เรารู้จริงเกี่ยวกับ 10 ประเทศ

-  เรื่องทุนมนุษย์ในประเทศไทย ต้องถามว่าระดับไหน

-  ศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทย ขึ้นกับคุณภาพของแรงงาน การจัดการ การเป็นผู้ประกอบการ

-  หากมีคนที่ไม่มีคุณภาพ คนจะมีคุณภาพได้อย่างไร

-  หากไม่เก่งระดับอาเซียน จะเก่งระดับโลกได้อย่างไร

-  การพัฒนาคน ต้องเน้นเรื่อง การศึกษา สุขภาพอนามัย โภชนาการ ครอบครัว สื่อ ศาสนา  และคนต้องคิดเป็น วิเคราะห์เป็น คิดแบบวิทยาศาสตร์ คิดแบบนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ เป็นสังคมการเรียนรู้ และมีจิตสาธารณะ

-  เพื่อเข้าสู่การแข่งขัน ,ประชาธิปไตย, ความยากจน, Peace ,โลกร้อน, คุณธรรม,ไม่มีคอร์รัปชั่น

การพัฒนาข้าราชการที่ต้องช่วยเรื่องการแข่งขัน คือ ต้องมีการเปลี่ยนแปลง เรื่องทัศนคติ (Mindset)

-  เรื่องความเป็นมืออาชีพ (Professionalism)

-  เรื่องความเป็นสากล (Internationalism)

-  และที่สำคัญที่สุดต้อง Back to basic คือ เรื่องคุณธรรมจริยธรรม

8 K’s : ทฤษฎีทุน 8 ประเภทพื้นฐานของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

Human Capital    ทุนมนุษย์

Intellectual Capital    ทุนทางปัญญา

Ethical Capital    ทุนทางจริยธรรม

Happiness Capital    ทุนแห่งความสุข

Social Capital    ทุนทางสังคม

Sustainability Capital     ทุนแห่งความยั่งยืน

Digital Capital    ทุนทาง IT

Talented Capital   ทุนทางความรู้และทัศนคติ

5 K’s (ใหม่) : ทฤษฎีทุนใหม่ 5 ประการเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในยุคโลกาภิวัตน์

Creativity Capital     ทุนแห่งการสร้างสรรค์

Knowledge Capital    ทุนทางความรู้

Innovation Capital     ทุนทางนวัตกรรม

Emotional Capital       ทุนทางอารมณ์

Cultural Capital      ทุนทางวัฒนธรรม

สิ่งแรกที่ทุนมนุษย์ต้องมีคือพื้นฐานก่อน ซึ่งสมองของมนุษย์สามารถคิดเรื่องสร้างสรรค์ต่างๆได้มากมาย

3V คือ

Value Added

Value Creation

Value Diversity

คำถามจากนักศึกษา และการวิจารณ์

1. สมัยนี้ทุนทาง IT มีความสำคัญมาก อย่างข่าวเร็วนี้ๆ ผู้จัดการเมเจอร์โดนไล่ออก อาจารย์มีความเห็นอย่างไร

เจ้าของธุรกิจต้องทำเพื่อลูกค้า  Social network ขยายไปสู่คนที่เป็นพื้นฐานของคนสังคมก็จะดี แต่ต้องเน้นเรื่องคุณธรรม จริยธรรมด้วย

2. ปัญญาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด อย่าสวดมนต์เพื่อขอพร แต่ขอให้สวดเพื่อปัญญา

ทุนทางปัญญาต้องมีไม่ใช่มีแค่ปริญญา

3. เมื่อเข้าสู่อาเซียนต้องพัฒนาทุนด้านใดมากที่สุด

เนื่องจากการเข้าสู่อาเซียนทำให้ตลาดเพิ่มขึ้น ในทางเศรษฐกิจระดับมหภาคเราได้ประโยชน์ การเข้าสู่อาเซียนเสรี ต้องถามว่าคนไทยได้ประโยชน์จริงหรือไม่และขอให้คนไทยมีทุนมนุษย์ทั้ง 8K 5k และอยากให้มีทุนทางวัฒนธรรม

และต้องไปรวมกับนวัตกรรม และความรู้ด้วย

4. ทุนใดที่มีความสำคัญที่สุด

ทุนมนุษย์ มีความสำคัญที่สุด เพราะเทคโนโลยีซื้อกันได้ ประเทศไทยสนใจในเรื่องทุนมนุษย์น้อยที่สุด หากเราศึกษาทุนมนุษย์มากขึ้น ก็จะให้รู้ว่าทุนมนุษย์ช่วยประเทศไทยอย่างมาก

 

ศาสตราจารย์(พิเศษ) พลตรี หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช

พิมพ์ PDF

วันนี้ในอดีต วันที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๔

วันคล้ายวันเกิด ศาสตราจารย์ (พิเศษ) พลตรี หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช นักปราชญ์ นักเขียน นักการเมือง และศิลปินแห่งชาติ นับเป็นปูชนียบุคคลท่านหนึ่งของไทย เป็นน้องชายแท้ ๆ ของ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี 4 สมัย สื่อมวลชนจึงนิยมเรียกทั้งคู่ว่า "หม่อมพี่ หม่อมน้อง"

เป็นโอรสคนสุดท้อง ในบรรดาโอรส-ธิดา ทั้ง 6 คน ของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ กับหม่อมแดง (บุนนาค) (หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เป็นคนที่ 4) โดยชื่อ "คึกฤทธิ์" นั้น มาจากการที่ ชอบร้องไห้เสียงดังในวัยทารก จึงได้รับพระราชทานนามนี้จาก สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ

ในด้านวรรณศิลป์ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ มีผลงานหนังสือที่มีชื่อเสียงระดับประเทศมากมาย ที่ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำอีก เช่น สี่แผ่นดิน, ไผ่แดง, กาเหว่าที่บางเพลง, หลายชีวิต, ซูสีไทเฮา, สามก๊กฉบับนายทุน และเรื่องสั้น "มอม" ซึ่งได้ใช้เป็นบทความประกอบแบบเรียนภาษาไทยในปัจจุบัน บางชิ้นมีผู้นำไปทำเป็นละครโทรทัศน์ เช่น สี่แผ่นดิน, หลายชีวิต และทำเป็นภาพยนตร์ เช่น กาเหว่าที่บางเพลง

หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ถึงแก่อสัญกรรม เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2538 สิริรวมอายุ 84 ปี 5 เดือน 20 วัน ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 กระทรวงวัฒนธรรมได้เสนอชื่อให้ท่านเป็น บุคคลสำคัญของโลก กับทาง ยูเนสโก

ซึ่งต่อมาในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ทางองค์การยูเนสโกได้ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์เป็นบุคคลสำคัญของโลก ใน 4 สาขา ได้แก่ การศึกษา วัฒนธรรม สังคมศาสตร์ และสื่อสารมวลชน ในวาระครบรอบ 100 ปี ชาตกาล พ.ศ. 2554 โดยได้รับการประกาศพร้อมกันกับครูเอื้อ สุนทรสนาน ซึ่งได้รับในวาระครบรอบ 100 ปี ชาตกาลพ.ศ. 2553

 

ติดตามอย่างมีสติ

พิมพ์ PDF

ขอให้ติดตามอย่างมีสติ ใช้เหตุผล และเฝ้าระวังอย่างรอบครอบอย่าตกเป็นเครื่องมือของผู้ที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างประเทศ ทำอะไรต้องคิดและทบทวน เพราะถ้าเราคนไทยกันเอง ต่างออกมาแสดงความเห็นหรือพูดอะไรไปโดยไม่คิดให้รอบครอบ จะกลายเป็นเราคนไทยด้วยกันเป็นผู้ทำร้ายประเทศชาติเสียเอง
สิ่งที่คนไทยต้องรู้ 
รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ปลด อัษฎา ชัยนาม ออกจาก ปธ.เจบีซี
ปลด ทูตวีรชัย พลาศรัย จากที่ปรึกษา เจบีซี หลังนายกฯเข้ารับตำแหน่งแค่เดือนเดียว

ในขณะที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ กำลังโหนกระแสเอาหน้ากับผลงานทีมกฎหมายไทยที่มีทูตวีรชัย พลาศรัย เป็นหัวหน้าทีม จากการต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศอย่างเข้มแข็ง เพรียบพร้อมไปด้วยน้ำหนักของหลักฐาน ข้อเท็จจริง และความชาญฉลาดในการหักล้างข้อกล่าวหาของกัมพูชา และคนไทยก็กำลังปลาบปลื้มกับผลงานของทีมกฎหมายไทย แม้ว่าจะยังไม่มีคำตัดสินจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งคงจะต้องรออีกประมาณ 6 เดือนกว่าจะรู้ผล

แต่การต่อสู้อย่างเข้มแข็งของทีมกฎหมายไทยที่มีการเตรียมการกันมานานตั้งแต่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายในการรักษาอธิปไตยของประเทศ เพราะยังมีกลไกอื่น ๆ ที่ต้องขับเคลื่อนอย่างเป็นเอกภาพไปพร้อม ๆ กันด้วย โดยเฉพาะในระดับนโยบายที่จะเป็นผู้กำหนดแนวทางให้ฝ่ายปฏิบัติไปดำเนินการ

กลไกสำคัญที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชา คือ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ เจบีซี ซึ่งในรัฐบาลอภิสิทธิ์ แต่งตั้งให้ อัษฎา ชัยนาม อดีตอธิบดีกรมการระหว่างประเทศเป็นประธาน ถูกรัฐบาลยิ่งลักษณ์ปลดจากตำแหน่ง ตั้ง บัณฑิต โสตถิพลาฤทธิ์ อดีตเอกอัครราชทูตไทย ในหลายประเทศ ซึ่งมีปูมหลังเคยรับใช้ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณยุคระบอบทักษิณเรืองอำนาจมาดำรงตำแหน่งประธานเจบีซีแทน โดยมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงตำแหน่งนี้ในวันที่ 13 ก.ย.54 หลังจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีได้เพียงเดือนเศษเท่านั้น

ไม่เพียงเท่านั้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ยังเปลี่ยนที่ปรึกษา เจบีซีจากนายวีรชัย พลาศัย เอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ แล้วตั้งนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุง มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ มาทำหน้าที่แทน

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีความสำคัญยิ่ง เพราะเจบีซีคือกลไกในการเจรจาเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาตามกรอบของเอ็มโอยู 43 หากฝ่ายไทยไม่มีความเข้มแข็งปฏิบัติตามนโยบายฝ่ายการเมืองโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง สุดท้ายประเทศชาติก็ยังหนีความเสี่ยงในเรื่องอธิปไตยบริเวณรอบปราสาทพระวิหารไม่พ้น

รัฐบาลยิ่งลักษณ์ คือยอดที่งอกจากต้นไม้ ทักษิณ และแนวทางที่ ทักษิณ ยึดมาโดยตลอดเกี่ยวกับเขตแดนไทย-กัมพูชา คือการโอนอ่อนตามความต้องการของเขมรบนความสมประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งไม่ใช่ความสมประโยชน์ของสองชาติ แต่เป็นความสมประโยชน์ร่วมกันของผู้นำมากกว่า

อย่าลืมว่าการสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียวมีจุดเริ่มต้นจากรัฐบาลทักษิณและมาปิดจ๊อบในรัฐบาลสมัคร โดยนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศในขณะนั้น ไปลงนามออกแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา สนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเพียงฝ่ายเดียวจนสำเร็จ ทั้ง ๆ ที่ในรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ ได้ดำเนินการคัดค้าน พร้อมกับเสนอให้มีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกร่วมกันระหว่างไทยกับกัมพูชา จนทำให้ในปี 2550 คณะกรรมการมรดกโลก ไม่กล้ามีมติขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกตามข้อเสนอของกัมพูชา จนต้องเลื่อนการประชุมออกไป

แต่เมื่อนพดลไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทยกัมพูชา สนับสนุนให้เขมรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียว การประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในปี 2551 จึงมีมติรับรองให้ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกตามเป้าประสงค์ของกัมพูชา แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งให้แถลงการณ์ดังกล่าวเป็นโมฆะ แต่ก็ไม่สามารถยับยั้งมติของคณะกรรมการมรดกโลกได้

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือทนายความกัมพูชาได้หยิบยกเอาการสนับสนุนกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของรัฐบาลทักษิณ และรัฐบาลสมัครไปใช้ประโยชน์ในการสู้คดีที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อโน้มน้าวให้ศาลเข้าใจว่าไทยเคยยอมรับว่าพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรอยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชาจึงไม่มีการคัดค้านการขึ้นทะเบียนดังกล่าวที่จะต้องมีการพัฒนาพื้นที่ในส่วนนี้เพื่อให้การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกได้อย่างสมบูรณ์

จนถึงวันนี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์บริหารประเทศมาแล้วเกือบสองปี ไม่เคยมีคนในรัฐบาลแม้แต่คนเดียวที่จะประกาศจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะสนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียวของกัมพูชา เพื่อต่อยอดจากรัฐบาลทักษิณ รัฐบาลสมัคร เดินหน้าพัฒนาพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร โดยไม่คำนึงถึงผลในทางพฤตินัยว่าจะกลายเป็นการยอมรับอธิปไตยของกัมพูชาเหนือพื้นที่ปราสาทพระวิหารไปโดยปริยายหรือไม่

ประเด็นที่สังคมไทยต้องจับตาอย่างใกล้ชิดต่อจากนี้ไป จึงไม่ใช่เพียงแค่การรอคอยคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในอีก 6เดือนข้างหน้าเท่านั้น เพราะยังมีอีกหลายแนวรบที่ไทยต้องยืนยันสิทธิและอธิปไตยของประเทศที่จะไม่ให้กัมพูชาเข้ามาปล้นแผ่นดินไทย

เพราะแนวรบสำคัญคือ คณะกรรมาธิการ เจบีซี ที่ไทยเคยมี อัษฎา ชัยนาม และทูตวีรชัย เป็นขุนพลหลักในการปกป้องเขตแดนไทยได้ถูกปลดออกจากการเป็นแนวหน้าปกป้องชาติจากความกลับกลอกและเล่ห์เหลี่ยมของเขมรไปเสียแล้ว

หน้าที่ของทูตวีรชัยได้ทำอย่างสมบูรณ์ในการปกป้องอธิปไตยชาติและรักษาเกียรติภูมิของชาติไทยในเวทีศาลยุติธรรมระหว่างประเทศจบแล้ว แต่หน้าที่ของคนไทยยังไม่จบเพราะยังต้องเกาะติดเพื่อไม่ให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไปฝักใฝ่ผลประโยชน์กัมพูชายิ่งกว่าผลประโยชน์ประเทศไทย เหมือนที่นพดล ปัทมะ ถูก ป.ป.ช.ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จากการไปออกแถลงการณ์ร่วมกับเขมรมาแล้ว
//////////

 


หน้า 488 จาก 558
Home

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5606
Content : 3049
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8601855

facebook

Twitter


บทความเก่า